กระแสการ Work From Home หรือ Remote Working ก็ตาม อันที่จริงเคยมีมาก่อนหน้าบ้างแล้วในต่างประเทศ และในปะเทศไทย แต่ ณ ตอนนี้สถานการณ์ในปัจจุบันที่(ไม่) ปกติ ด้วยการระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ลากยาวเกิดขึ้นเกือบ 4 เดือนแล้ว ตั้งแต่ที่ระบาดในเมืองอู่ฮั่นที่แรกในประเทศจีน กำลังบีบบังคับให้หลายๆ บริษัทต้องใช้มาตรการนี้โดยด่วน
แต่การ Work At Home อาจไม่ได้ง่ายสำหรับทุกองค์กร ยิ่งบางบริษัทที่ไม่เคยทดลองใช้มาก่อน หรือมีเวลาเตรียมตัวที่ค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ บทความล่าสุดจาก เว็บไซต์ Inc เขียนโดย Jason Aten คอลัมนิสต์ด้านเทคโนโลยี น่าจะช่วยให้เราเตรียมตัวได้เร็วขึ้น ด้วยเคล็ดลับง่ายๆ 7 วิธี เพื่อให้การทำงานประสบความสำเร็จ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนี้
-
Have a Daily Check-In
หากเราเริ่มใช้วิธีการทำงานจากที่บ้าน หรือ ทำงานจากระยะไกล อย่างน้อยๆ สิ่งหนึ่งในการเริ่มต้นที่เราต้องมี ก็คือการ ‘การเช็คอิน’ ระหว่างหัวหน้างานและคนในองค์กร ด้วยวิธี face-to-face แบบตัวต่อตัวทางวิดีโอน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้การเช็คอินนั้นง่ายขึ้น เช่น การโทรศัพท์คนต่อคน, อีเมล์, หรือ ใช้โปรแกรม Slack ซึ่งมีหลายฟังก์ชั่นรองรับ ตั้งแต่การแชท, การรับ-ส่งไฟล์ จนไปถึง การค้นหาไฟล์หรือแชทที่ผ่านมาได้ง่ายๆ
นอกจากนี้ยังมี Zoom และ Google’s Team Hangouts ซึ่งเป็น 2 โปรแรมแนะนำสำหรับการประชุมออนไลน์ได้ง่ายๆ ทุกวันในช่วงเริ่มต้นการ Work From Home โดยสมาชิกในองค์กรสามารถแลกเปลี่ยน และเสนอแนะการทำงานได้เหมือนตอนที่เราทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ
-
Communicate A Lot
อีกหนึ่งเรื่องจริงที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อคุณต้องปรับเปลี่ยนการทำงาน เป็นทำงานจากระยะไกลแทน ก็คือ ‘การพูดคุย การสื่อสารที่น้อยลง’ น้อยกว่าตอนที่เรานั่งอยู่ในออฟฟิศและได้ปรึกษาหารือกัน ดังนั้น สิ่งหนึ่งช่วงเริ่มต้นที่ต้องปรับแน่ๆ ก็คือ การสื่อสารกันให้มากขึ้น และเป็นไปได้ว่า(ควร) สื่อสารกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในยุคดิจิทัลที่เรามีเครื่องมือเทคโนโลยีมากมายให้สามารถเลือกหยิบจับได้ ซึ่งมีโปรแกรมมากมายที่เอื้อต่อการสนทนาระหว่างกลุ่มคนจำนวนเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Group, LINE group และ Slack ซึ่งก็เป็นหนึ่งในโปรแกรมที่หลายบริษัททั้งขนาดเล็กและใหญ่ใช้กันมานาน ด้วยฟีเจอร์ที่เด่นๆ หลายอย่าง เช่น
-
ออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นทีมโดยเฉพาะ มีระบบจัดการสมาชิกอย่างเป็นระเบียบ
-
สามารถรับ/ส่งไฟล์ได้, ค้นหาไฟล์ได้ง่ายทั้งจากชื่อหรือจากคนส่ง
-
รองรับสมาชิกได้ไม่จำกัดจำนวน
-
สามารถสร้าง channel เพื่อแยกทีมออกตามหน้าที่ความรับิดชอบของแต่ละทีม
-
Slack มีทั้งบนเว็บไซต์, โปรแกรมบน PC และ สมาร์ทโฟนรองรับทั้งระบบ iOS และ Android
-
สามารถเชื่อมกับโปรแกรมการทำงานอื่นๆ ได้ เช่น Google Drive และ Dropbox
-
Take Advantage of Technology
อย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ ว่าเราอยู่ในยุคดิจิทัล ดังนั้นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีจึงไม่แปลก ซึ่งปัจจุบันเรามีทั้งเครื่องมือเทคโนโลยีที่ให้บริการฟรี และเสียเงิน ตามแต่จุดประสงค์การใช้งานของแต่ละคน ทั้งนี้ทั้งนั้น หัวหน้าและคนในองค์กร/ทีม ต้องมั่นใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้เหมือนกัน และต้องเข้าใจวิธีการใช้ที่ตรงกันด้วย
ทั้งนี้ การใช้อีเมล์ หรือแพลตฟอร์มที่ใช้สื่อสารได้โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่เราคุ้นเคยมากที่สุด แต่กลับไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมสำหรับการทำงานร่วมกันหลายคน บทความนี้ได้เสนอโปรแกรม Slack และ Microsoft Teams ที่ถูกวางตัวมาเพื่อแทนที่ Skype (for Business) ที่สำคัญมีฟีเจอร์การประชุมออนไลน์ด้วย
-
Manage Expectations
ด้วยวิธีการทำงานที่ปรับเปลี่ยนไป สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ที่เราต้องจัดการ ไม่ใช่แค่กับหัวหน้างาน หรือเจ้าของบริษัท แต่หมายถึงรวมไปถึงบุคคลากรในองค์กรทุกคน ที่ต้องทำความเข้าใจและต้องบริหารความคาดหวังให้ดีว่า Remote Working หรือ การทำงานจากระยะไกล ความสะดวกสบายหรือสิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่เหมือนเดิม รวมไปถึงในชั่วโมงการทำงานหน้าที่และกิจกรรมของแต่ละคนก็แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้วิธี Work From Home สิ่งที่ต้องระบุให้ชัดและเข้าใจตรงกัน ก็คือ ชั่วโมงการทำงานต้องมีขอบเขตชัดเจน, หน้าที่ความรับผิดชอบแต่ละคน และการประสานงานระหว่างกันในชั่วโมงทำงาน เป็นต้น
-
Focus on Outcomes Not Activity
การควบคุมสถานการณ์และการจัดการในทุกๆ ด้าน สำหรับการ Work From Home ค่อนข้างยาก ดังนั้น การวัดผลด้านประสิทธิภาพในการทำงานต้องจาก ‘ผลลัพธ์มากกว่ากิจกรรม’ รวมไปถึงใช้วัดผลจากความตรงต่อเวลา และหน้าที่ความรับผิดชอบตามคำสั่ง
ตัวอย่างจากบริษัท ‘Telstra’ ยักษ์โทรคมนาคมของออสเตรเลีย ที่ให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าว ABC กล่าวว่า บริษัทให้พนักงานทำงานจากที่บ้านจนถึงสิ้นเดือนมี.ค.นี้ โดยได้ยกตัวอย่างเกี่ยวกับวิธีการมอบหมายงานให้แต่ละคนในทีม พร้อมกำหนดเวลา deadline การส่งงาน หากพวกเขาสามารถทำได้ทันตามเวลากำหนด สิ่งนี้จะรวมไปอยู่ในคะแนน performance และนำไปประเมินเป็นโบนัสในช่วงปลายปี เป็นต้น
-
Resource Your Team
ทางฝั่งของเจ้าของกิจการจำเป็นต้องสนับสนุนการทำงาน Work From Home แก่บุคคลในองค์กรด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคโนโลยี ไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน แม้แต่แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความสำคัญมาก
-
Be Flexible
ข้อนี้สำคัญมากสำหรับเจ้าของกิจการ คือ ต้องวางใจกับทีมที่ทำงาน ให้อิสระ และความยืดหยุ่นในการทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้ขอบเขตที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่แรก เช่น ระยะเลาในการทำงาน หน้าที่ที่รับมอบหมาย
ทั้งนี้ ความยืดหยุ่นในการทำงานที่กล่าวข้างข้างบน เป็นมุมมองที่คล้ายๆ กับ ‘Mike Kappel’ ซีอีโอของบริษัท Patriot Software ที่ระบุว่า การติดตามและสื่อสารงานจากทีมเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นในยุคนี้ เพราะมีโปรแกรมต่างๆ มารองรับเพื่อให้ชีวิตเราง่ายขึ้น อย่างเช่น Zoom และ Google Hangout แอปพลิเคชั่นที่ใช้สำหรับการประชุมออนไลน์ หรือจะใช้ Google Drive สำหรับการส่งไฟล์หากันภายในองค์กรก็สะดวกขึ้นมาก
สำหรับการวัดประสิทธิภาพของผลงาน Mike Kappel ย้ำเพียงว่า ในแต่ละอุตสหากรรม/บริษัทจะมีวิธีการวัดผลที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่จะทำได้คล้ายๆ กันก็คือ การดูจากความรับผิดชอบของพนักงาน เช่น การส่งงานในเวลาที่กำหนด, ความกระตือรือร้นในการเสนอไอเดียต่างๆ และ การเตรียมพร้อมสำหรับการทำงาน/ประชุม เป็นต้น