ถ้ากล่าวถึงการลงทุนแล้ว หากเป็นการลงทุนในระยะยาวก็มักจะหมายถึงการเก็บออม และประหยัดการใช้จ่ายในปัจจุบัน นำเงินเก็บไปลงทุน เพื่อเป็นหลักประกันให้กับชีวิตในอนาคต ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายรูปแบบในการลงทุน ที่มาแรงสุดในตอนนี้ก็คือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” และกำลังเป็นที่สนใจของทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และหน้าเก่าอย่างมาก
หนึ่งในนั้นที่สนใจเรื่องการลงทุนในสินทรัยพ์ดิจิทัล ได้แก่ ผู้บริหารสาวคนเก่ง ที่ปกติเรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในวงการธุรกิจร้านอาหาร แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าเธอเป็นนักลงทุนที่มีการวางแผนการใช้ชีวิตอย่างดีมีระบบ เนื่องจากเธอเป็นทั้งมนุษย์เงินเดือนและเป็นทั้งคุณแม่ที่ต้องวางแผนการในอนาคตให้ลูกด้วย เรียกได้ว่าเธอเป็นแบบอย่างที่ดีของตัวอย่างของนักลงทุนที่ใช้ชีวิตบนความไม่ประมาท และยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ที่มีอยู่อย่างชาญฉลาดได้ด้วย วันนี้เธอจะมาให้คำแนะนำกับทุกคนถึงแนวคิดและแนวทางในการลงทุนในแบบฉบับ “บุ๋ม – บุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์” ที่วันนี้ขอสลัดภาพเจ้าแม่ถ้ำบาร์บีคิวพลาซ่า มาเป็นเม่าสุดเก๋าให้เราได้กวาดความรู้กัน
คุณบุ๋ม เล่าย้อนไปที่ชีวิตวัยเด็กว่า เป็นเด็กที่ไม่หยุดนิ่งชอบเอาของไปขายหน้าบ้าน ซึ่งก็ได้เงินไม่มาไม่มากแต่ก็เป็นความสุขเล็กๆ ที่เราได้หาเงินค่าขนมเองแบบไม่ต้องขอคุณพ่อคุณแม่ โตขึ้นมาในช่วงวัยทำงานก็เหมือนกัน แม้จะมีเงินเดือนประจำก็ชอบที่จะจ๊อบเสริม ภาษาบ้านๆ ก็เรียกว่ารับฝิ่น แม้แต่เปิดร้านเสื้อผ้าออนไลน์ก็ทำ ดังนั้น ในช่วงวัย 25-30 กว่าก็จะเป็นช่วงค่อนข้างวุ่นวาย เลิกงานประจำก็ขับรถไปงานฝิ่น กลับถึงคอนโดก็กางคอมพ์ตอบแชทลูกค้าในร้านเสื้อผ้า เป็นอย่างนี้อยู่นาน จนทำให้เราสามารถมีเงินเก็บซื้อรถด้วยตัวเอง
ช่วงนั้นทำเงินเมื่อเราได้เงินจากหลายทาง สิ่งสำคัญที่เราทำก็คือการแบ่งเงินเป็นก้อนๆ ก้อนหนึ่งคือ ประมาณ 20% เป็นเงินเก็บไม่ใช้อะไรเลย เงินอีกก้อน เก็บเพื่อซื้อของที่ตัวเองต้องการ และเงินอีกก้อน คือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับเงินเก็บนี้จะนำไปฝากเข้าบัญชีฝากประจำซึ่งจะให้ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงทีเดียว
“จำได้เลยว่าสมัยทำงานแรกๆ จะมีความสุขมากที่เห็นตัวเลขในบัญชีงอกเงย แล้วชอบไปคอยแอบมองธนาคารแถวบ้าน (ท่าน้ำศิริราช) ว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยสูงๆ กับพวกเงินฝากประจำ เราก็จะเอาเงินไปฝากตรงนั้น จำได้เลยธนาคารแรกคือ “ธนาคารแหลมทอง” ซึ่งตอนนี้ไม่แน่ใจแล้วว่าเปลี่ยนเป็นชื่ออะไร”
ต่อมาก็เมื่อมีเงินเก็บก้อนหนึ่งก็เริ่มมองหาวิธีทำให้เงินงอกเงยขึ้น ดังนั้น นอกจากเงินส่วนที่เก็บแล้ว ก็จะมีเงินที่กันไว้สำหรับการลงทุนต่างๆ ด้วย เป็นการนำเงินไปซื้อกองทุน ครั้งแรกที่ไปซื้อคือกองทุนทองจากธนาคารแห่งหนึ่ง
เหตุที่ตัดสินใจลองนำเงินไปลงในกองทุนบ้าง เพราะมองว่าเราไม่ได้เอาเงินทั้ง 100% ของเราไปลงทุน เช่น เรามีเงินอยู่ 100 บาท เราอาจจะเอาไปลงทุนสัก 15-20% โดยเลือกลงทุนทั้งแบบที่ปลอดภัยความเสี่ยงต่ำและลงในแบบที่เสี่ยงแต่ได้กำไรสูง จากนั้นก็เริ่มพัฒนารูปแบบในการลงทุนมากขึ้น แต่ด้วยความที่ตัวเราเองก็ไม่ได้มีเวลาเฝ้าการขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา เราก็จะมองหุ้นพื้นฐานที่ไม่หวือหวาสามารถถือได้ยาวๆ หรือหุ้นกู้บ้างตามโอกาส
“แต่ข้อสำคัญเลยคือ เราไม่ได้เอาเงินทั้งชีวิตของเราไปลงทุน”
วิธีในการเลือกลงทุนในแบบ “บุ๋ม – บุณย์ญานุช”
สำหรับวิธีในการเลือกลงทุนว่าตัวไหน ที่จะเหมาะสำหรับการลงทุนในแบบของคุณบุ๋มนั้น เธอบอกว่ามีหลักการง่ายๆ อยู่ 2 ข้อ ดังนี้
- พิจารณาผลตอบแทนว่าให้รีเทิร์นสูงไหม เปรียบเทียบกับตัวอื่นๆ
- พิจารณาความน่าเชื่อถือของบริษัทนั้นๆ ว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ซึ่งจุดนี้สำคัญมาก เพราถึงแม้ว่าบริษัทนั้นจะให้ผลตอบแทนสูง ให้ดอกเบี้ยเยอะมาก แต่ถ้าเกิดว่าเป็นบริษัทที่ความน่าเชื่อถือต่ำ ก็จะไม่เลือกเลย
‘ลงทุนไม่ได้อยากจะรวย แต่อยากเรียนรู้’
อย่างพวก Cryptocurrency ก็ศึกษาเรื่องนี้มานานพอควรเหมือนกันตั้งแต่เมื่อ 4-5 ปีก่อน เพราะดูจากเพื่อนรอบๆ ตัวซึ่งเริ่มเล่นกันอยู่หลายคน แต่ตัวเองมาเริ่มจริงจังเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมานี้อง
“การเล่น Cryptocurrency สำหรับเรา ไม่ใช่แค่ว่าอยากจะรวยอย่างเดียว แต่เราคิดว่ามันเป็น Knowledge สำคัญของคนยุคนี้ โดยเฉพาะคนที่เป็นระดับผู้บริหาร หรือคนที่เป็นมาร์เก็ตเตอร์ จะต้องรู้ โดยเฉพาะกับการที่เราจะต้องอยู่ในโลกของดิจิทัล เราไม่ได้คิดว่าจะเล่นคริปโตเพื่อรวย แต่มันคือทุนการศึกษา มันคือค่าเรียนรู้ของเรา”
สิ่งที่เรามองเห็นจากเทรนด์ของ Digital Financial คือมันจะโตได้อีกแบบ S Curve ได้เลย และยังไปได้อีก 5-6 ปีเลย และตอนนี้คิดว่าเรื่องนี้กำลังเลยช่วของ Learning curve ไปแล้ว แต่มันกำลังจะไปสู่การเป็น Go Mass มากขึ้น มันเลยเฟดของ early adopter กันไปแล้ว ด้วยปัจจัยของเทคโนโลยีที่ดีมากขึ้นเข้าถึงได้มากขึ้น คนเล่นจำนวนมากขึ้น แม้แต่โควิด ก็มีส่วนกระแทกทำให้มันก้าวสู่ตลาดแมสเร็วขึ้น แม้สำหรับตัวเองก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มของ early adopter ก็ยังหันมาลงทุนแล้ว ดังนั้น พื้นที่ตรงนี้จะกลายเป็น playground แบบใหม่ของนักลงทุน
อย่างที่ลงทุนกับ “สิริฮับ โทเคน” สาเหตุที่คุณบุ๋มเลือกก็เพราะมองว่า อย่างที่เคยบอกในตอนแรกเลยก็คือจะมองว่าคนที่เราจะเอาเงินไปลงทุนกับเขานั้น คนๆ นั้นมีความน่าเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน การดำเนินธุรกิจของเขาเป็นอย่างไร บริษัทนั้นเป็นอย่างไร หรือแม้แต่เจ้าของเขามีวิสัยทัศน์อย่างไร ทั้งผู้บริหารของทางแสนสิริก็ดี รวมถึงผู้บริหารของทาง บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล อันนี้เป็นเหตุผลหนึ่งเลยว่าทำไมถึงเลือกสิริฮับ ผลงานทั้งหมดที่ท่านทั้งสองทำก็พรูฟว่าการจับมือร่วมกันทำงานของทั้งสององค์กรนี้มีความน่าเชื่อถือได้
“ภาษาของเราก็คืออยากจะตามไปดู และผู้นำที่พาเราไปจะต้องพาเราไปถูกที่ ไม่พาเราไปหลงทาง”
คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่เริ่มคิดจะลงทุน
สำหรับคำแนะนำที่คุณบุ๋มให้กับคนที่คิดจะเริ่มลงทุนว่า ในส่วนของการลงทุนในคริปโต อย่างที่กล่าวย้ำแต่แรกว่าไม่ใช่ว่าเรามีเงินเท่าไหร่ก็ทุ่มไปหมดเลย มีบ้านขายบ้าน มีรถขายรถ ตัวเองก็เป็นนักลงทุนคริปโตมือใหม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าหากทุกคนได้มีโอกาสที่จะลงทุนทำตรงนี้ได้โดยไม่เดือดร้อน ก็น่าจะลองดู ลองไปศึกษาดูก่อน ปัจจุบันมีช่องทางในการศึกษาเยอะแยะมากมาย รวมถึงมีแอปฯ ต่างๆ ให้ซื้อได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมายก็สามารถลองเล่นลองซื้อได้
แต่สำคัญคือ เราต้องมีวินัยทางการเงินที่ดี แบ่งเงินในส่วนของการดูแลชีวิตให้ดีก่อน ไม่ได้หมายความว่าชวนให้ทุกคนมาเล่นกันหมด ถ้าคุณยังใช้เงินแบบเดือนชนเดือนอยู่เลยก็อาจจะรอก่อน ถ้าเมื่อไหร่มีเงินที่สามารถจัดสรรมาเล่นตรงนี้ได้ก็แนะนำว่าให้ลองดู อย่างน้อยก็คิดว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้
เมื่อถามว่าจะมีโอกาสไหมที่จะนำการเรียนรู้ทีได้จากการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะวงการร้านอาหาร อย่างบาร์บีคิวพลาซ่า คุณบุ๋ม กล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารและนักการตลาดเรามองว่าการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด ด้วยความที่เราก็ชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ดังนั้น อย่างที่กล่าวว่าไม่ใช่แค่เล่นเพราหวังรวย มันสามารถงอกเป็นเรื่องของหน้าที่การงานที่เราทำได้ ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทที่ทำเราทำอยู่ก็จะได้ประโยชน์ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของ Future Trends แต่มันไม่ใช่เรื่องขอนิยายไซไฟอีกตอ่ไปแล้ว แต่มันเป็นจริงและเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้น ถ้าตอบคำถามตรงๆ ว่าแล้วมีโอกาสไหมที่บาร์บีคิวพลาซ่า โดยฟู้ดแพชชั่นจะร่วมในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยไหม หรือให้ “พี่ก้อน” มาเป็นสินทรัพย์แบบ NFT ต้องบอกว่าก็ต้องพิจารณาก่อนถึงผลตอบรับที่จะกลับมาว่าเป็นอย่างไร กับการที่เราจะเอาแบรนด์หรือยานแม่ลงมาในจุดนี้ แต่ทั้งหมดนี้ก็ขอให้รอติดตามแล้วกัน
สำหรับ “สิริฮับ/SiriHub” คือ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน โดยมีผู้ออกโทเคนดิจิทัลคือ บริษัท เอสพีวี 77 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศไทย (ทะเบียนเลขที่ 0105563011428) และเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนต่อประชาชนครั้งแรกผ่าน บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. ทั้งนี้ “สิริฮับ/SiriHub” ยังเป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่อ้างอิงกระแสรายรับจาก “สิริ แคมปัส” สำนักงานใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ซึ่งใช้เป็นอสังหาริมทรัพย์อ้างอิง (Real Estate-backed ICO) กำหนดวันเริ่มเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2564 เวลา 00.01 น. จนถึงวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 15.30 น.
ผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสารแวดวงสินทรัพย์ดิจิทัลและโทเคนดิจิทัล ได้ที่ โทร. 02-038-5999
เว็บไซต์บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด www.xspringdigital.com
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/XSpringDigital
