COVID-19 ที่ผ่านมานั้นเป็นการบังคับที่ทำให้ทุกคนนั้นต้องทำ digital transformation อย่างเลี่ยงไม่ได้ และการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอย่างมาก คือการที่ร้านค้าและธุรกิจทั้งหลายต้องลงมาทำการขายผ่านออนไลน์หรือการทำ E-commerce อย่างเต็มตัว เพราะ COVID-19 นั้นไม่สามารถทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์แบบซึ่งหน้าได้แบบเดิม ทำให้อุตสาหกรรมทาง E-commerce เติบโตขึ้นอย่างมาก และที่เห็นได้ชัดคือเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องในเวลาที่ผ่าน หลาย ๆ สินค้าก็สามารถขายและเติบโตได้อย่างดีในช่วงเวลาของโรคระบาดที่ผ่านมา
ในปี 2021 นี้ทุก ๆ คนที่ได้ลงไปทำ e-commerce จะเริ่มการเรียนรู้เพิ่มขึ้น และทำการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทำให้การแข่งขันในตอนนี้ขึ้นอยู่กับนักการตลาดว่าใครจะสามารถจับทางได้ก่อนใครขึ้นมา ในวันนี้จึงมี 5 เทรนด์ที่น่าสนใจที่นักการตลาดหรือคนทำธุรกิจ E-commerce ควรจับตามาให้ศึกษากัน
- โอกาศไม่ได้อยู่แค่ภายในประเทศ หรือในระแวกที่ธุรกิจคุณอยู่เท่านั้น แต่ด้วย E-commerce ที่มาถึงทำให้คนที่ค้าขายสินค้าและบริการนั้นพบว่าสินค้าของตัวเองสามารถขายไปได้ทุกที่ทั่วโลก และสินค้าที่ไม่เคยมีความต้องการมากในประเทศหนึ่ง ก็อาจจะมีความต้องการมากในอีกประเทศหนึ่งก็ได้ ซึ่งนี้ทำมให้การมองหาตลาด e-commerce ใหม่ ๆ ไปยังต่างประเทศจะมีความสำคัญอย่างมากในปีนี้ นักการตลาดต้องเริ่มมาหาพฤติกรรมอะไรหรือประเทศอะไรที่ติดต่อเข้ามาซื้อ และทำการตลาดจริงจังต่อประเทศปลายทางนั้น ๆ
- ลองกลยุทธ์แบบเก่า ๆ ที่ยังได้ผล แม้ว่าการทำ e-commerce นั้นจะเป็นการทำการตลาดแบบ Digital แต่การเป็น Digital ไม่ได้หมายความกลยุทธ์การขายหรือการทำการตลาดแบบดั้งเดิมนั้นจะไม่ได้ผล หน่ำซ้ำอาจจะได้ผลมากกว่าที่คิด เช่นการทำ Catalog แบบพิมพ์ส่งให้ที่บ้าน กลับกลายเป็นว่าสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาให้ยังการขายออนไลน์ได้เพิ่มขึ้น เพราะด้วยเนื้อหาแบบสิ่งพิมพ์ที่เล่าเรื่องได้ดีกว่า และผู้บริโภคมีความตั้งใจสนใจที่มากกว่าในการอ่าน Catalog แบบสิ่งพิมพ์
- การขาย B2B แบบ E-commerce กำลังมา ก่อนหน้านั้นผู้คนสนใจแต่การทำการตลาดแบบ B2C หรือในตอนนี้ก็แบบ DTC แต่ B2B นั้นกำลังเป็นตลาดที่มาแรง เนื่องด้วยการที่ COVID-19 นั้นทำให้คนเดินทางไม่ได้ การหาซื้อสินค้าเพื่อป้อนเข้าสู่ธุรกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้ฝ่ายจัดซื้อต้องจัดซื้อสินค้าแบบออนไลน์แทน ทำให้การมี e-commerce แบบ B2B กลายเป็นการตอบโจทย์ในช่วงเวลานี้อย่างทันที ที่ทำให้ธุรกจิสามารถเลือกและจัดซื้อสินค้าแบบ B2B ได้ง่ายเพิ่มมากขึ้น
- Mobile ที่จะครองโลกต่อไป แน่นอนด้วยการที่ในปี 2020 นั้นการเพิ่มขึ้นของการใช้มือถือในการเข้าอินเทอร์เนต หรือใช้ Digital Service นั้นแซงหน้ามือถือไปแล้ว แต่ในปี 2021 การขายผ่าน Mobile นั้นจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญอย่างมากที่นักการตลาดที่ทำการตลาดบน E-commerce นั้นต้องจับตามองอย่างมาก ด้วยการที่ทุก Channel ที่ทำการตลาดนั้นต้องขายของหรือส่งผลมายัง e-commerce ให้ได้ ทำให้คนทำ E-commerce นั้นต้องเริ่มคิดถึงการทำ Mobile-friendly ก่อนอย่างอื่นเพื่อที่จะนำมาสู่การขายให้ได้อย่างจริงจัง ซึ่งจากสถิติจาก Adobe Analytics พบว่าใรปี 2021 ที่ผ่านมา การซื้อของในวัน Black Friday มีผ่านมือถือถึง 40% และ Cyber Monday มีถึง 37%
- Influencer ที่ต้องขายของได้ หมดยุคแล้วกับการทำ Influencer ที่ได้แค่ทำแบรนด์ให้รู้จัก หรือทำให้แบรด์ได้ชื่อเสียงอีกต่อไป แต่มาในปี 2021 นั้น Influencer นั้นต้องทำหน้าที่ที่ขายของได้ด้วย ถ้าดูจากเทรนด์ Influencer ประเทศจีน ที่ทำหน้าที่สามารถขายของให้แบรนด์ได้มูลค่าหลายล้านหยวน หรือล้างสต๊อกสินค้าได้ ทำให้เกิด ROI กลับมาหาแบรนด์ได้อย่างมากมาย และทำให้แบรนด์ได้ผลกำไรที่คุ้มค่าต่อการจ้าง Influencer นั้น ๆ ทำให้ปี 2021 นี้ Influencer ที่มีแค่การวัดว่าสามารถโปรโมทได้อย่างเดียวหรือมีแค่ Vanity Metric ไม่สามารถส่งผลมาถึงการขายนั้นย่อมจะทำให้ไม่ได้รับความนิยมในการเอามาใช้คู่กับ E-commercer อีกต่อไป
Bonus : Data for Expanding ในขณะที่แบรนด์หลาย ๆ แบรนด์กำลังนิยมในการเก็บ 1st Party Data โดยเฉพาะคนทำ e-commerce แต่การคิดถึง Data ที่จะไปหาคนกลุ่มใหม่ ๆ ลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จะกลายเป็นเรื่องสำคัญขึ้นมา ดังนั้นการเริ่มสร้างหา e-commerce ที่เจาะไปยังกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Data ใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อสามารถเอามาทำการตลาดในการเจาะตลาดกลุ่มที่ต้องการเพิ่มเติมได้ขึ้นมาด้วย
ด้วยการที่ COVID-19 มานี้ทำให้ชีวิตของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก แบรนด์ต้องรีบปรับตัวอย่างมากในการตอบสนองความต้องการซื้อของผู้บริโภคผ่านออนไลน์ อีกทั้งยังต้องหาวิธีการนำหน้าธุรกิจอื่นๆ ด้วยการสามารถหาโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นจากการระบาดนี้ขึ้นมาให้ได้
