เมื่ออนาคตไล่ล่าวงการยานยนต์ BMW จึงเป็นมากกว่าบริษัทผลิตรถยนต์

  • 33
  •  
  •  
  •  
  •  

หนึ่งในโอกาสธุรกิจที่เราสามรถมาองเห็นได้คือการเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าอยากได้จริงๆ และหลายๆครั้งลูกค้าไม่ได้อยากได้ของที่เราขายหรือบริการที่เราให้ แต่ลูกค้าแค่อยาก “Get a Job Done” แค่นั้นเอง และด้วยแนวคิด Get a Job Done นั้นทำให้ธุรกิจนั้นต้องปรับโมเดลธุรกิจจากเน้นขายสินค้า (Product Company) มาเป็นธุรกิจบริการหรือ Service Company

ซึ่งบริษัทยานยนต์ที่มีแบรนด์ติดตลาดอย่าง BMW นั้นก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ว่า

 

BMW เกือบล้มละลายในปี 1959

เดิมที่ BMW นั้นไม่ได้ขายรถแต่ขายเครื่องยนต์เครื่องบิน สังเกตจากโลโก้ของ BMW ที่แสดงถึงใบพัดที่ทะยานไปในท้องฟ้า จนกระทั้งในปี 1928 BMW ก็หันมาผลิตรถขาย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หลายคนไม่มีเงินซื้อรถหรูๆแพงๆอย่าง BMW ต่างจากคู่แข่งในสมัยนั้นอย่าง Motocoupe หรือ Knutschkugel

และนั่นทำให้ BMW เกือบไปไม่รอดในตลาดรถยนต์ เกือ[จะต้องขายกิจการให้ Benz แต่ถูกสหาภาพแรงงานใน BMW คัดค้าน โชคดีที่ Herbert Quandt เพิ่มสัดสวนผู้ถือหุ้น 50% บริษัทจึงมีเงินผลิตรถ BMW700 ซึ่งต่อมาเป็นรถที่สร้างรายได้ให้ BMW มหาศาล

จากนั้น BMW ก็ออกรถรุ่นใหม่ๆต่อมาโดยเฉพาะสปอร์ตคาร์ ทำให้ BMW กลายเป็นบริษัทแรกๆที่ให้บริการลูกค้าที่ซื้อรถ BMW ไปและใส่ใจประสบการณ์ในการขับรถ BMW

 

Urbanization: อีกปัจจัยที่ทำให้ BMW เห็น Get a Job Done ของผู้บริโภค

เทรนด์ Urbanization มีมาตั้งแต่ปี 2009 แล้ว BMW มองว่าในเมืองนั้นเต็มไปด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมากมายบนท้องถนน ทำให้ในเมืองนั้นแออัด BMW มีวิสัยทัศน์อยากเห็นเมืองนั้นมีพื้นที่ให้คนได้หายใจได้บ้าง

นั้นทำให้ BMW เริ่มคิดได้ว่าจริงๆแล้วคนไม่ได้อยากขับรถกันหรอก ใครจะอยากขับ? รถก็ติด เสียเวลาทำงานและพักผ่อนอยู่บ้าน จริงๆแล้วคนขับแค่อยากไปจากจุด A ไปยังจุด B ต่างหาก BMW จึงเห็นโอกาสพัฒนารถยนต์ที่มีขนาดกระทัดรัด รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะรถยนต์ที่แบ่งกันใช้แบ่งกันขับอย่าง BMW DriveNow

source: boredinmunich

 

ซึ่งแนวคิดของ BMW DriveNow นั้นง่ายมากๆ แค่มีรถของ BMW จอดไว้ทุกที่ของเมือง ใครอยากจะเปิดประตูรถ ใส่กุญแจขับไปไหนก็ได้ และจอดที่ไหนก็ได้ในเมือง แค่นั้นเอง คนจะได้ไม่ต้องซื้อรถ ก็ไปทำงานหรือไปที่ไหนก็ได้ได้แล้ว เวลาจ่ายค่าบริการ ก็จ่ายผ่านแอปฯ อยากชาร์จไฟฟ้า ก็ไปชาร์จตามที่ BMW บอก

BMW DriveNow นั้นไปได้สวยเลยใน San Francisco น่าเสียดายที่ผิดกฎหมายการแชร์การใช้รถยนต์หรือการจอดรถท้องถิ่นจนต้องหยุดให้บริการไปในปี 2015

แต่สำหรับ BMW แล้ว นี่แค่เพิ่งเริ่มต้น

 

จะไปถึงที่หมาย ไม่จำเป็นต้องขับรถ BMW อย่างเดียว

BMW ให้อิสระเต็มที่กับผู้บริโภคว่าจะไปถึงที่หมาย ก็ไม่จำเป็นต้องขับ BMW อย่างเดียว ผู้บริโภคอาจจะขับรถของ BMW และจอดทิ้งที่ไหนก็ได้ แล้วต่อต้วยขนส่งสาธารณะ สกู๊ตเอร์ไฟฟ้า หรือจักรยานก็ได้ โดย BMW ออกแอปฯ BMW YourNow มาให้คนใช้แอปฯรู้เส้นทางที่ตัวเองควรไปถึงจุดหมาย มียานพาหนะอะไรบ้างที่พาตัวเองไปถึงที่ๆต้องการ

ซึ่งเบื้องหลังของ BMW YourNow เริ่มจากปี 2016 ที่ BMW สามารถระดมทุนกับสตาร์ทอัพได้ถึง 11.7 ล้านเหรียญเพื่อมาพัฒนาซอฟท์แวร์โมเดลเส้นการเดินทางที่หลากหลายในเมือง โชคดีที่คราวนี้หลายๆเมืองในอเมริกาเริ่มเปิดรับบริการรถยนต์ที่แชร์กับขับรับส่งผู้โดยสารกันมากขึ้น ทำให้ BMW ได้จังหวะดี เปิดตัว BMW YourNow มีลูกค้ากว่าล้านคนใน 13 เมือง 8 ประเทศในปี 2017 และมีแผนขยายลูกค้าถึง 4 ล้านคน มีรถ BMW ให้บริการ 20,000 คัน ใน 31 เมือง

 

source: Thedetroitbureau

ความสำเร็จของ BMW ที่เล่ามาทั้งหมด เกิดจากการหลุดจากกับดักที่ว่า “Product” หาก BMW ยังมองว่าตัวเองเป็นบริษัทขายรถ ก็อาจจะไม่มี BMW จนถึงทุกวันนี้ก็ได้

 

แหล่งอ้างอิงส่วนหนึ่งจาก Business Model Shifts: Six Ways to Create New Value for Customers


  • 33
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th