สร้างแบรนด์ธุรกิจโรงแรมอย่างไรให้แตกต่างด้วย “Storytelling”

  • 121
  •  
  •  
  •  
  •  

Hotel

ประเทศไทยอยู่ในจุดที่ธุรกิจที่พักผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท คอนโดมิเนียม หรือบ้านพักตากอากาศ โดยการเติบโตของตลาดธุรกิจดั่งกล่าวเป็นผลพวงมาจากการที่ประเทศไทยมีศิลปะวัฒนธรรมโดดเด่น สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารการกินที่หลากหลาย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลถือเป็นเสน่ของประเทศไทย จนถูกจัดอันดับให้ติด 1 ใน 10 ประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนมากที่สุด และมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด ประจำปี 2560

เมื่อตลาดธุรกิจที่พักเติบโต แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือการแข่งขัน แต่ละแบรนด์ก็งัดกลยุทธแทบทุกวิถีทางเพื่อจูงใจลูกค้าให้เข้ามาซื้อบริการ เช่น โปรโมชั่น พัฒนางานบริการ หรือตกแต่งห้องพักให้สวยหรูหรา ซึ่งก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกที่แตกต่างในมุมมองลูกค้า แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจที่พักทั้งรายใหม่และรายเก่ามองข้ามหรือไม่รู้จักด้วยซ้ำคือ การสร้างแบรนด์ผ่าน “Storytelling”

Brands Storytelling คือ การเล่าเรื่องราวของแบรนด์เราให้ลูกค้ารู้สึกอิน รู้สึกใกล้ชิด และน่าจดจำ เช่น วัสดุประเภทผ้าของโรงแรมเราผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน  กลุ่มลูกค้าที่สนใจแน่นอนว่าเขาไม่ได้เข้ามาซื้อบริการของเราอย่างเดียว แต่เข้ามาซื้อเรื่องราวหรืออุดมการณ์ของเราด้วย หรืออยากเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนสินค้าของชาวบ้านนั่นเอง ซึ่งมันคือการขายสินค้าผ่านเรื่องราว ดังนั้นข้อดีของ Storytelling จะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์และรู้สึกผูกพันกับแบรนด์

สำหรับการสร้าง Storytelling ผ่านคอนเทนต์นั้น ควรเป็นสตอรี่ที่เกิดจากเรื่องจริงและใกล้ตัวกับกลุ่มเป้าหมาย เน้นการสร้างอารมณ์ร่วม แต่ไม่ฮาร์ดเซลล์ ข้อนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราขายปุ๊บคนดูจะสะดุด แนะนำให้ขายในตอนท้าย เพื่อให้เห็นข้อแตกต่างขอยกคลิปวิดีโอตัวอย่างดังนี้

วิดีโอ My Home My Cash ที่เน้นฮาร์ดเซลล์  ไม่ค่อยสร้างจดจำต่อแบรนด์

httpv://www.youtube.com/watch?v=avfqh-5bblE&list=PLIGhZVVR7zNqHX4khDsPB9K7nqgtsPJbK

วิดีโอ เชื่อฉัน My Home My Cash ที่ใช้เทคนิค Storytelling สร้างการจำจด ก่อให้เกิดการแชร์ต่อ

httpv://youtu.be/kTaO2fAQlKU

สร้างคอนเทนต์แบบ Storytelling ต้องเริ่มอย่างไร

ST1 ST2

ตัวอย่างเนื้อเรื่องการสร้างคอนเทนต์แบบ Storytelling  ของธุรกิจโรงแรม

  1. วันปกติสุข : คุณได้นัดกับแฟนเพื่อจะไปพักผ่อนช่วงวันหยุดยาวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง (โรงแรมที่คุณต้องการขาย)
  2. ดำดิ่งลงสู่วิกฤติ :ก่อนวันที่จะไปพักผ่อนคุณจับได้ว่าแฟนคุณแอบมีกิ๊ก คุณพยายามประคับประคองความรักให้เป็นดังเดิม
  3. จุดตกต่ำสุด :คุณโดนแฟนบอกเลิก สภาพจิตใจคุณย่ำแย่ คุณเหลือบไปเห็นตั๋วโรงแรมที่คุณจอง ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรต่อดี
  4. ค้นพบพลังวิเศษ :คุณตัดสินใจไปทริปดังเดิมแต่เป็นการไปกับเพื่อนแทน คุณพบบรรยากาศภายในโรงแรมที่ร่มรื่น คุณได้ทำกิจกรรมในที่พักร่วมกับเพื่อนของคุณ (พยายามนำเสนอโปรดักส์ของโรงแรม แต่อย่าฮาร์ดเซลล์เกินไป) คุณสนุกกับการทำกิจกรรมจนลืมคิดเรื่องเก่า ๆ
  5. เราทำสำเร็จ :คุณมีความสุขกับเพื่อน หัวใจคุณถูกเยียวยาให้ดีขึ้น คุณสามารถใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม
  6. สิ่งที่เราได้เรียนรู้ :คุณแชร์ประสบการณ์ดี ๆ ลงในโลกโซเชียล พร้อมไทอินชื่อโรงแรมที่ต้องการขาย

ตัวอย่างธุรกิจอื่น ๆ เช่น คุณขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม

  1. วันปกติสุข : คุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งงานกับผู้ชายที่รัก มีความรักแบบหวานชื่น
  2. ดำดิ่งลงสู่วิกฤติ :ผ่านมาวันหนึ่งคุณตั้งครรภ์แล้วคลอดลูก คุณวุ่นอยู่กับการเลี้ยงลูกจนร่างกายโทรม แก่ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ไม่สวยดังเดิมจนแฟนคุณเริ่มทักถึงสิ่งที่เปลี่ยนไป
  3. จุดตกต่ำสุด :หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนทักเรื่องดังกล่าวมากขึ้นจนคุณจิตตก เกิดภาวะเครียด และรู้สึกว่าคุณต้องทำอะไรสักอย่าง
  4. ค้นพบพลังวิเศษ :เพื่อนของคุณแนะนำให้ทานอาหารเสริม (ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการขาย แต่อย่าฮาร์ดเซลล์ อาจเห็นแค่ตัวเม็ดสินค้าแต่ยังไม่เห็นยี่ห้อ) หลังจากนั้นไม่นานน้ำหนักเริ่มลดลง คุณเริ่มกลับมาดูดีขึ้น
  5. เราทำสำเร็จ :คุณกลับมาสวยใสเหมือนเดิม
  6. สิ่งที่เราได้เรียนรู้ :มาถึงตรงนี้ เราสามารถขายสินค้าได้แล้ว มันคือช่วงเวลาแห่งการส่งต่อสิ่งที่คุณพยายามตอนคุณลดน้ำหนัก คือ คุณออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร พร้อมทั้งทานอาหารเสริม

จาก Story line ที่เราได้เห็นจะพบว่า การสร้างคอนเทนต์แบบ Storytelling คือการสร้างรื่องราวที่ดึงดูดความสนใจ ชักนำคนดูให้มีอารมณ์ร่วม โดยเนื้อเรื่องไม่จำเป็นต้องดราม่าเสมอไป เป็นเรื่องสนุกก็ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ คือ “อย่าฮาร์ดเซลล์” คอนเทนต์ที่ดีและน่าติดตามควรจะสิ่งที่สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่คนดูและคนดูก็อยากส่งต่อสิ่ง ๆ นั้น


  • 121
  •  
  •  
  •  
  •  
Roboots
Tech Savvy Lv.14