“อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย” เปิดอินไซต์ “นักท่องเที่ยวจีน – ชาวจีนในไทย” พร้อมกลยุทธ์ชนะใจลูกค้าจีน โอกาสใหญ่ที่แบรนด์ไม่ควรพลาด!

  • 70
  •  
  •  
  •  
  •  

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand

แม้ว่านับตั้งแต่เกิด COVID-19 จนถึงปัจจุบันที่ผ่านพ้นการแพร่ระบาดหนักไปแล้ว แนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่วันนี้ถือเป็นอันดับ 2 ของโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว แต่ในอนาคตหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและการเงินเชื่อว่าจีนจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก!

โดย IMF คาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จีนจะก้าวขึ้นมาเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกแทนที่สหรัฐอเมริกา ด้วยสัดส่วนการเติบโตของ GDP ทั่วโลก อยู่ที่ 22.6% ตามมาด้วยอินเดีย 12.9% และสหรัฐฯ 11.3%

สอคล้องกับ Goldman Sachs ระบุว่าจีนจะเป็นพี่ใหญ่เศรษฐกิจใหญ่โลก โดยประมาณการณ์ว่าในปี 2075 มูลค่าเศรษฐกิจจีนจะอยู่ที่ 57 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเป็นอินเดีย ด้วยมูลค่าเศรษฐกิจ 52.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และสหรัฐฯ 51.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

การเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกย่อมมาพร้อมกับการเข้าไปปักหมุดลงทุนในประเทศต่างๆ และการเดินทางออกนอกประเทศของนักท่องเที่ยวจีนไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ “ประเทศไทย”

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand
Photo Credit: Sean Pavone / Shutterstock.com

ปัจจุบันในประเทศไทยมีทั้งนักท่องเที่ยวจีน หนึ่งในนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ และคนจีนที่พำนักอาศัยในไทย (Chinese Residents) ซึ่งชาวจีนในไทย เป็นผู้บริโภคที่มีอำนาจการซื้อสูง นี่จึงเป็นโอกาสของแบรนด์ที่ต้องการทำตลาดคนจีนในไทย

แต่การเข้าถึงคนจีนในไทย แบรนด์ หรือนักการตลาดต้องเข้าใจ Insights ทั้งรูปแบบการใช้ชีวิต และพฤติกรรมของคนจีนอย่างลึกซึ้ง เพื่อชนะใจ และนำไปสู่การเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคจีนเลือกซื้อ หรือเลือกใช้บริการ

Marketing Oops! ได้มีโอกาสพูดคุยกับ 3 ผู้บริหารแห่งอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย (Initiative Thailand) นำโดย ดร. สร เกียรติคณารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, คุณจันทนา แสงเจริญทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning) และ คุณพิมพวรรณ แสงนาค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analytics)

ล่าสุด อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ทำการศึกษาและวิจัยกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนในไทย ทั้งนักท่องเที่ยวจีน และผู้ที่พักอาศัยในไทย เพื่อทำความเข้าใจ Insights ทั้งไลฟ์สไตล์ พฤติกรรม การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล และมุมมองในมิติต่างๆ เพื่อให้ธุรกิจ หรือแบรนด์ นักการตลาด นักโฆษณาได้รู้จักและเข้าใจผู้บริโภคจีนในไทยมากขึ้น เพื่อต่อยอดธุรกิจสู่การขยายฐานไปยังลูกค้าจีนในไทย

พร้อมกันนี้ ในฐานะที่เป็นมีเดียเอเจนซี่พาร์ทเนอร์ด้านการเติบโตทางธุรกิจ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ได้เปิดตัว Full Funnel Solution ช่วยแบรนด์ทำตลาดลูกค้าจีนในไทย ประกอบด้วย 3 โซลูชั่นคือ Chinese Immersive Experience, Chinese Hyper Precision และ Chinese Authentic Commerce ซึ่งครอบคลุมทั้ง Customer Journey ตั้งแต่ Pre-Journey, During Journey และ Post Journey

Initiative Thailand
ทีมผู้บริหารอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย

 

3 เหตุผลทำไม “ชาวจีนในไทย” เป็นกลุ่มที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม!

ดร. สร ฉายภาพว่า ทุกวันนี้การเติบโตของประชากรไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเกิดในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 0.76% สอดคล้องกลับ GDP ของปีนี้ที่อยู่ที่ 3.4 – 3.9% พร้อมกำลังซื้อที่ลดลงจากอัตราหนี้ที่สูงขึ้น ส่งผลให้โอกาสในการทำการตลาดไม่คล่องตัวอย่างที่ควรเป็น

ในฐานะที่ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย เป็นพาร์ทเนอร์คู่คิดของลูกค้าและผู้นำด้านการเข้าใจใน Cultures ของกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้ศึกษา วิเคราะห์ และแสวงหากลุ่มเป้าหมายใหม่ให้กับธุรกิจ หรือแบรนด์พบว่า “ชาวจีนที่อยู่ในไทย” ทั้งนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยวไทย และคนจีนที่พำนักในไทย จะเป็นโอกาสให้กับแบรนด์ในการทำการตลาด และดึงรายได้จากชาวจีนกลับสู่เศรษฐกิจไทย ดังนั้นเหตุผลที่ อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ให้ความสนใจคนจีนในไทยเหล่านี้ มาจาก 3 ปัจจัยหลักคือ

1. นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมาแล้ว ปัจจุบันหลายแบรนด์เริ่มให้ความสำคัญทำตลาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ ซึ่ง “นักท่องเที่ยวจีน” เป็นตลาดใหญ่สุดในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาไทย

2. คนจีนที่เป็นนักท่องเที่ยว และคนจีนที่อาศัยในไทย (Chinese Residents) มีกำลังซื้อสูง และช้อปปิ้งสินค้าหลากหลาย

3. ผู้บริโภคชาวจีนมีความเฉพาะตัวในการใช้แพลตฟอร์มสื่อดิจิทัล ดังนั้นการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ แบรนด์ต้องรู้ว่าแพลตฟอร์มไหนที่คนจีนนิยมใช้ เพื่อเข้าให้ถูกแพลตฟอร์ม สำหรับใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสาร และมีเดียให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนจีน การอยู่อาศัย หรือการใช้ชีวิตของคนจีนในไทย

Initiative Thailand
ดร. สร เกียรติคณารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย

 

เจาะลึกเซ็กเมนต์ “นักท่องเที่ยวจีน” มองหาประสบการณ์วัฒนธรรมใหม่ที่หาไม่ได้จากในจีน  

ก่อนเกิด COVID-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยอันดับ 1 คือ นักท่องเที่ยวจีน ด้วยจำนวนกว่า 10 ล้านคน ซึ่งในยุคแรกที่คนจีนนิยมเดินทางมาเที่ยวไทย ส่วนใหญ่มาในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ ต่อมาเริ่มมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง (Free Individual Traveler: FIT) มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม Young Generation กระทั่งหลัง COVID-19 หน่วยงานด้านการการท่องเที่ยวไทยตั้งเป้าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาไทยประมาณ 7 – 8 ล้านคน แม้เวลานี้จะยังไม่กลับมา 100% แต่ยังคงเป็นหนึ่งในนักท่องเที่ยวหลักของไทย

จากการศึกษาของอินิชิเอทีฟ ประเทศไทย ได้แบ่งนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยเป็น 5 เซ็กเมนต์

– กลุ่ม Discovery New Cultures: เป็นนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหญ่สุด วัตถุประสงค์เดินทางมาเที่ยวเที่ยวไทย ไม่ได้มา Destination ยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว แต่มาเพื่อค้นพบและเรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ที่หาไม่ได้จากในจีน เช่น มาเที่ยวกลางคืน เที่ยวผับบาร์ ไปคาเฟ่ หรือสถานที่ใหม่ แทนที่จะไปสถานที่ท่องเที่ยวหลัก

– กลุ่ม Reset & Refresh: เป็นนักท่องเที่ยวที่มาไทย เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ เช่น สปา, นั่งสมาธิ หรือมาทำกิจกรรมผ่อนคลายต่างๆ

– กลุ่ม Living in The Moment: เป็นนักท่องเที่ยวที่มี Destination List อยู่แล้ว และมาไทยเพื่อเที่ยวสถานที่นั้นๆ โดยเฉพาะ

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand

– กลุ่ม Reconnecting with others: เป็นนักท่องเที่ยวที่มาแล้ว กลับมาอีก เนื่องจากมีญาติ หรือมีเพื่อน หรือคนรู้จักอยู่ในไทย

– กลุ่ม New Adventures: เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่ม Young Generation มาไทยเพื่อทำกิจกรรม Adventure ต่างๆ เช่น มาดำน้ำ ปีนเขา กิจกรรม Ziplining ขี่รถ ATV

“โดยเฉลี่ยนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ในไทย 7 – 8  วัน เราพบว่าด้วยประชากรของจีน ช่วงอายุ 18 – 40 ปี เป็นฐานใหญ่สุด ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เป็น FIT ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มาไทยทั้งเพื่อค้นพบประสบการณ์ หรือวัฒนธรรมใหม่ มาแบบมี Destination List มาเที่ยวด้วย แล้วเยี่ยมเพื่อนในไทยด้วย และมาเพื่อทำกิจกรรม Adventure ต่างๆ” คุณพิมพวรรณ เล่าถึงนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มคนรุ่นใหม่

Initiative Thailand
คุณพิมพวรรณ แสงนาค ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Analytics)

 

“คนจีนอาศัยในไทย” มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สำหรับคนจีนที่อาศัยในไทย คาดว่าปัจจุบันมีประมาณ 1 – 2 ล้านคน โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สามารถแบ่งเป็น 6 กลุ่มได้แก่

– กลุ่ม Business Owner: ผู้ประกอบการ SME ขนาดย่อม ไปจนถึงมีโรงงานขนาดเล็กในไทย คนจีนกลุ่มนี้มาพร้อมกับครอบครัว เช่น เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร

– Expat Office Worker: แบรนด์จีนเข้ามาลงทุนในไทย และเปิดสำนักงานในไทย เช่น บริษัทยานยนต์จีน, บริษัทเทคโนโลยี ได้ส่งพนักงาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นระดับ Middle Management จนถึง C-Level มาดูแลตลาดไทย

– Expat Factory Worker: แบรนด์จีนเข้ามาตั้งโรงงานในไทย ส่งพนักงานในระดับ Supervisor มาคุมสายการผลิตในไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่อาศัยในโซนอุตสาหกรรม เช่น ระยอง

นจีนอาศัยในไทย ทั้งกลุ่มเจ้าของธุรกิจ และกลุ่ม Expat ทั้งที่ประจำสำนักงานในไทย กับกลุ่มดูแลสายการผลิตในโรงงาน ถือเป็น 3 กลุ่มใหญ่ในไทย

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand

– Mom of School Children: เป็นกลุ่มแม่และเด็กมาเรียนโรงเรียนในไทย เนื่องจากโรงเรียน International ที่จีน มีค่าเรียนสูง และการเรียนการสอนค่อนข้างเครียด พ่อแม่จึงตัดสินใจส่งลูกมาเรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่ไทย ซึ่งมีค่าเรียนถูกกว่า โดยเด็กจะมาพร้อมกับคุณแม่ ขณะที่คุณพ่อยังคงทำงานอยู่ที่จีน

– University Student: นักศึกษาจีนในไทย เนื่องจากเวลานี้จำนวนนักศึกษาไทยมีแนวโน้มลดลง มหาวิทยาลัยต่างๆ จึงขยายไปยังตลาดนักศึกษาต่างชาติมากขึ้น ด้วยการเปิด International Program เพื่อดึงนักศึกษาต่างชาติมาเรียน โดยพบว่านักศึกษาจีนเป็นกลุ่มใหญ่ของนักศึกษาต่างชาติในไทย

– Retirement: คนจีนที่มีบ้านหลังที่สองในไทย เพราะด้วยค่าครองชีพในไทยถูกกว่า และคนไทยมีความเป็น friendly ทำให้คนจีนวัยเกษียณย้ายมาอยู่ไทย อย่างไรก็ตามคนจีนในไทยกลุ่มนี้ยังไม่ได้ใหญ่มากนัก

“คนจีนที่พำนักในไทย ตอนนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น สาเหตุหนึ่งมาจากธุรกิจการค้าระหว่างไทยกับจีน แบรนด์จีนจึงเข้ามาเปิดออฟฟิศในไทยมากขึ้น ทำให้มีกลุ่ม Expat จีน ย้ายมาอยู่เมืองไทยเพิ่มขึ้น ซึ่ง Expat เหล่านี้ เป็นระดับผู้บริหาร และมาทั้งครอบครัว เพราะฉะนั้นคนกลุ่มนี้มาพร้อมกับกำลังซื้อ ดังนั้นนอกจากจำนวนคนจีนที่พำนักในไทยเพิ่มมากขึ้นแล้ว คนจีนที่มาไทยยังมีกำลังซื้อสูงด้วย”

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand

 

นักช้อปจีน ฮิตซื้อของที่อยู่ในเทรนด์

ขณะที่ไลฟ์สไตล์​ หรือพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวจีน มี 3 พฤติกรรมหลักๆ คือ

1. นิยมซื้อสินค้า หรือใช้บริการที่กำลังอยู่ในเทรนด์ อยู่ในกระแสคนพูดถึง

2. คนจีนมีความ unity สูง และแตกต่างจากนักท่องเที่ยวชาติอื่นตรงที่ คนจีนจะไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่เพื่อนเคยไป หรือมีคนรีวิว หรือคนจีนเคยอยู่ เช่น ไปร้านอาหารเดิมๆ เดียวกันทั้งหมด หรือไปท่องเที่ยวในจังหวัด หรือสถานที่ที่คนจีนนิยมไป

3. นักท่องเที่ยวจีนเชื่อในความจริงแท้ หรือ authenticity มากกว่า เพราะฉะนั้นเขาจะเชื่อคน “บอกต่อ” มากกว่า “โฆษณา” นี่จึงทำให้ Influencer Marketing ที่รีวิวการใช้ หรือบริโภคจริง เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ได้ผลดีในกลุ่มคนจีน

“คนจีนจะเชื่อว่าคนนี้ต้องใช้จริง เคยกินจริง แล้วมาเล่าให้เขาฟัง เขาถึงจะยอมซื้อ ซึ่งความเชื่อตรงนี้ลึกไปถึงขั้นที่ว่าแบรนด์อย่ามา Boost Ads ใส่ฉัน และ Influencer เองก็ต้องเป็นผู้ใช้จริงที่มีคนดูจริงๆ ไม่ได้จ่ายเงินเพื่อ Boost เพิ่ม ซึ่งผู้บริโภคชาวจีนจะรู้ได้ว่า Influencer คนไหนที่มีคนตาม มีคนชอบจริงๆ และเล่าเรื่องจริง” ดร. สร ขยายความเพิ่มเติม

ในขณะที่คนจีนที่อาศัยในไทย เช่น กลุ่ม Expat ค่อนข้างมีความคล้ายคนไทย นอกจากแพลตฟอร์มจีนที่เขาใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว ยังใช้บางแพลตฟอร์มเหมือนคนไทย เช่นเดียวกับพฤติกรรมการใช้จ่าย ใกล้เคียงกับคนไทย และคนเอเชียที่เน้นสร้างความสุข หรือผ่อนคลายด้วยการช้อปปิ้ง ต่างจากคนยุโรปที่เน้นใช้เวลาและใช้เงินไปกับ Leisure Moment ด้วยกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand

 

จะเข้าถึงคนจีน ต้องผ่านแพลตฟอร์มจีน 

อย่างไรก็ตามการเข้าถึงลูกค้าจีนในไทย ต้องใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลของจีน เพราะแม้คนจีนจะมาอยู่ในเมืองไทย ก็ยังใช้แพลตฟอร์มจีนในชีวิตประจำวันเช่นเดิม

ตัวอย่างแพลตฟอร์มจีนที่คนจีนใช้งาน เช่น

– Search: Baidu

– Social Media: Little Red Book, Weibo, Douyin (TikTok จีน)

– Messaging: WeChat

– Video: BiliBili

– Video Streaming: Youku, iQIYI, We TV

– Music Streaming: QQ Music, Kuwo Music, KuGou Music, NetEase

– e-Commerce: Tmall, Taobao

“คนจีนที่อยู่ในไทยยังคงใช้แพลตฟอร์มจีน เพราะตอบโจทย์การดำรงชีวิตของเขา แต่ทั้งนี้อาจมีบางแอปฯ ของจีนไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของเขาในไทยได้ทั้งหมด จึงต้องดาวน์โหลดแอปฯ ที่ใช้กันในไทยด้วย เช่น แอปฯ ให้บริการ Food Delivery และ Transportation แต่ถ้าแอปฯ จีนไหนที่ยังตอบโจทย์เขาอยู่ เขาก็ยังคงใช้แอปฯ นั้นต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีแอปฯ Delivery ที่เน้นเจาะตลาดคนจีนที่อยู่ในไทย เช่น แอปฯ Delivery GOKOO(โกคู เป็นบริษัทเทคโนโลยีร่วมทุนระหว่างบริษัทจีนและไทย) แต่พื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่ยังอยู่ในโซนคนจีนอาศัยอยู่เยอะ เช่น โซนพระราม 9, ห้วยขวาง” คุณพิมพวรรณ เล่าถึงการใช้แพลตฟอต์มดิจิทัลในชีวิตประจำวัน

China Digital Platform
Photo Credit: Koshiro K / Shutterstock.com

 

เมืองไทยจุดหมายปลายทางของ สายมู – LGBTQ+ – สายเกม

ในประเทศจีนมีข้อห้าม หรือข้อบังคับที่ทำให้คนจีนไม่สามารถแสดงออกได้อย่างเสรี ทำให้คนจีนเลือกเดินทางมาไทย เพื่อปลดปล่อยความเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น

– ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ประเทศจีนมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน กลุ่ม LGBTQ+ คิดเป็น 5% ของประชากรทั้งประเทศ แต่ด้วยความที่สังคมจีนไม่ค่อยยอมรับในความหลากหลายทางเพศ ทำให้เมื่อคนกลุ่ม LGBTQ+ มีเวลาว่าง หรือหากต้องย้ายมาทำงานที่ไทย หรือมาเรียนที่ไทย จึงเลือกมาไทย เพราะเป็นประเทศที่เปิดกว้าง ทำให้คนจีนกลุ่มนี้ได้แสดงความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่

– สายมูเตลู การไหว้ หรือบูชาเทพและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจีนสายมูที่เดินทางมาไทย จะรู้ว่าตอนนี้ของมูชิ้นไหนกำลังมาแรง สถานที่ที่คนนิยมไปไหว ไปมูอยู่ที่ไหน จังหวัดใด คนจีนสายมูก็จะตามรอย

– สายเกม แม้จีนจะเป็นผู้ผลิตเกมรายใหญ่ระดับโลก แต่รัฐบาลจีนได้ควบคุมการเล่นเกม เพราะกังวลว่า Young Generation จะติดเกม และสูญเสียทรัพยากรไปกับเกม จึงมีคำสั่งห้าม ในขณะที่เมืองไทย มีสิทธิเสรีในการเล่นเกม และตลาดเกมในไทยก็มีขนาดใหญ่และเติบโตต่อเนื่อง ประเทศไทยจึงเป็นสวรรค์สำหรับคนจีนที่อยู่ในไทยได้เล่นเกมอย่างเต็มที่

“คนจีนมี pain point จากบ้านเกิดเขามาอยู่แล้ว เพราะการอยู่ในประเทศที่มีกฎระเบียบข้อบังคับ-ข้อห้ามเยอะ ทำให้เขามีความอึดอัดในการแสดงความเป็นตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น LGBTQ+ สายมูเตลู และสายเกม แต่ประเทศไทยเปิดกว้าง และเป็น Multicultural ทำให้คนจีนมาเมืองไทย รู้สึกได้ปลดปล่อยความอึดอัด และได้แสดงออกถึงความเป็นตัวเอง” คุณจันทนา ขยายความเพิ่มเติม

Pride Month
Photo Credit: Champhei / Shutterstock.com

 

รู้จัก 3 Full Funnel Solutions ทำตลาดเข้าถึงคนจีน

จากศักยภาพนักท่องเที่ยวจีน และคนจีนที่อยู่ในไทย ที่จะสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ให้กับแบรนด์ในกลุ่มสินค้าและบริการต่างๆ ดังนั้นเพื่อพาแบรนด์ทำตลาดคนจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และบรรลุเป้าหมายที่แบรนด์กำหนดไว้ “อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย” ได้พัฒนา Full Funnel Solutions เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคจีนในไทยตลอดทั้ง Customer Journey ตั้งแต่ Pre-Journey, During Journey และ Post Journey

“เราอยากให้แบรนด์ลองมองตลาดจีนเป็นอีก new expanding group ของธุรกิจ ด้วยการลองแบ่งงบการตลาดส่วนหนึ่ง มาลงทุนกับตลาดนักท่องเที่ยวจีน และคนจีนที่พำนักในไทย โดยดูว่าในพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท สินค้าไหน หรือบริการใดเหมาะที่จะเจาะตลาดดังกล่าว พร้อมกับเลือกเซ็กเมนต์ผู้บริโภคจีนว่ากลุ่มไหนเหมาะกับแบรนด์ของเรา โดยอยากให้โฟกัสการทำตลาดพรีเมียม และทำให้เป็น Experiential Brand หรือแบรนด์ที่ส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า   

เหตุผลที่อยากให้แบรนด์เจาะตลาดบน เนื่องจากคนจีนที่มาไทย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจีน หรือคนจีนที่อยู่อาศัยในไทย เป็นกลุ่มมีรายได้สูง และมีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานที่มาไทย เป็นระดับ Middle Management จนถึงระดับ High-level Management หรือคนจีนที่มาเรียนที่ไทย เขาเรียน International School หรือมหาวิทยาลัย เขาเรียนหลักสูตร International Program เพราะฉะนั้นพื้นฐานคนจีนที่มาเมืองไทย เป็นกลุ่ม Middle – Upper ในจีนอยู่แล้ว ยิ่งมาเทียบกับค่าเฉลี่ยรายได้ของไทย คนจีนที่มาไทยกลายเป็นกลุ่ม Upper” คุณจันทนา อธิบายเพิ่มเติม

Initiative Thailand
คุณจันทนา แสงเจริญทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning)

สำหรับ Full Funnel Solutions ที่อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 3 เครื่องมือ ได้แก่

– Chinese Hyper Precision: การสื่อสารผ่าน Touch Point ต่างๆ เช่น แพลตฟอร์มดิจิทัลที่คนจีนใช้ สื่อนอกบ้าน สื่อในศูนย์การค้า/ห้างฯ หรือสื่อในซูเปอร์มาร์เก็ต-ไฮเปอร์มาร์เก็ต โดยเจาะเฉพาะทำเล หรือโซน และจังหวัดที่คนจีนอยู่ ไม่จำเป็นต้องหว่านทั่วประเทศ เพื่อการใช้งบที่มีประสิทธิภาพ และเข้าถึงนักท่องเที่ยวจีน และคนจีนอาศัยในไทยได้แม่นยำ และชัดเจน

– Chinese Immersive Experience: ยกระดับผลิตภัณฑ์ และบริการของแบรนด์ ไปสู่การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าจีน

Siam Square
Photo Credit: AfriramPOE / Shutterstock.com

– Chinese Authentic Commerce: การใช้กลยุทธ์ Influencer Marketing เนื่องจาก Influencer มีอิทธิพลและบทบาทต่อผู้บริโภคชาวจีน โดยคนจีนมองว่า Influencer มีความเชี่ยวชาญ และเป็นแหล่งข้อมูล ประกอบกับรัฐบาลจีนคอยสอดส่องและตรวจสอบข้อมูลข่าวสารปลอมตลอดเวลา

ดังนั้นสิ่งที่ออกมาจาก Influencer จึงต้องเรียล มาจากการใช้จริง กินจริง ทำให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ผู้บริโภคจีนใช้ในการพิจารณาตัดสินใจซื้อ ประกอบกับความสามารถในการเล่าเรื่องและขายของเก่งของ Influencer จึงตอบโจทย์ทั้งด้านความบันเทิง ความสนุก และความน่าเชื่อถือ

อินิชิเอทีฟ ประเทศไทย จะทำงานร่วมกับ Influencer จีนที่อยู่ในประเทศจีน หรือ Influencer จีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย, Influencer จีนที่อยู่ในไทย เช่น นักศึกษา, กลุ่ม Expat, กลุ่มคุณแม่ที่ติดตามลูกมาเรียนที่ไทย และ Influencer ไทยที่คนจีนติดตาม

Influencer

“แบรนด์ที่อยากทำตลาดคนจีน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือคนจีนที่อาศัยในไทย 1. ต้องเป็น Experiential Brand 2. แบรนด์ไม่ต้องพูดเอง อย่างแต่ก่อนเป็นยุค Brand Talk แบรนด์สื่อสารเอง แต่ทุกวันนี้ในยุค Experiential Brand ให้ Influencer หรือผู้บริโภคที่เป็นผู้ใช้จริง เป็นคนพูดให้ ในขณะที่แบรนด์ทำหน้าที่เป็น facilitator

3. เน้น Authentic Organic Power จากผู้ใช้จริง หรือกินจริง และใช้ Nano Influencer หรือ Micro Influencer มาเสริม เป็นการสื่อสารที่เริ่มจาก Earned Media ก่อน แล้วใช้ Paid Media ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าแมสเสจนั้นๆ ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย” คุณจันทนา ให้คำแนะนำทิ้งท้ายถึงแบรนด์ที่อยากทำตลาดนักท่องเที่ยวจีน และคนจีนที่อยู่ในไทย

Chinese Tourists & Chinese Residents in Thailand


  • 70
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ
CLOSE
CLOSE