“ดูมันดิ : DoMunDi TV” เพจท่องเที่ยวที่หยิบทุกเรื่องมาเล่าได้อย่างสนุก และเกรียน

  • 812
  •  
  •  
  •  
  •  

 

domundi-2

จากเพจท่องเที่ยวที่มีอยู่มากมาย “ดูมันดิ : DoMunDi TV” คือเพจที่ถูกพูดถึงอย่างมาก ด้วยสไตล์การนำเสนอที่เน้นความสนุกเป็นหลัก ทำให้ดูมันดิมียอดไลก์ใน Facebook กว่า 250,000 ไลค์ และใน YouTube ที่เพิ่งครบ 100,000 Subscribe ไปหมาดๆ และยังมีการจัดงาน Fan Meeting มาแล้ว 2 ครั้ง ในย่างก้าวสู่ปีที่ 2 ของการทำเพจ และ 9 ทริปการเดินทาง ดูมันดิได้ต่อยอดไปสู่การผลิตคอนเทนต์ในรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นวาไรตี้ Candid สนุกๆ รวมถึงแฟชั่น เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ชม

ทั้งหมดนี้ทำให้เราสนใจและอยากคุยกับพวกทั้งหมดดูสักครั้ง บอกเลยว่างานนี้สนุกแน่นอน

“ดูมันดิ” มีกันกี่คน?

นอกจาก 6 คนที่เราเห็นในวิดีโอแล้ว ดูมันดิยังมีทีมงานอีก 3 คน รวมเป็น 9 คน ซึ่งส่วนใหญ่รู้จักกันอยู่แล้ว ก็ชวนกันมาเป็นทอดๆ เพื่อไปทริปที่ญี่ปุ่น แต่สุดท้ายดันโดนผู้จ้างโกงเงินเป็นล้าน ทำให้ต้องสำรองจ่ายกันเอง และตั้งแต่วันนั้นทุกคนต้องทำงานหาเงินใช้หนี้ดังกล่าว จึงหนีกันไปไหนไม่ได้ (หัวเราะ) จนถึงวันนี้เราทำเพื่อความสุขและเป็นอาชีพไปแล้วครับ

สมาชิกดูมันดิ ใครเป็นใครบ้าง และทำหน้าที่อะไรในเพจ

• จอส น้องเล็กสุดของเรา อายุ 22 ปี เรียนอยู่ปี4 จุฬาลงกรณ์ คณะนิเทศศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ส่วนใหญ่จอสจะหาข้อมูลเวลาไปทำทริปเที่ยวครับ จะสาระหน่อย
• ป้อปปี้ อายุ 23 ปี จบวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ จะคอยมุขเป็นสีสันของเพจครับ
• ปาร์ค อายุ 24 ปี จบนิติศาสตร์ จุฬากรณ์ เข้ามาหลังสุดเป็นพี่ชายป้อปปี้ครับ คอยสร้างสีสันเช่นกัน
• แม้ก อายุ 24 ปี จบวิศวะ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นตัวตบมุกคนอื่นครับ
•  มาร์ค อายุ 25 ปี การแสดง มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต คอยพูดเข้าสาระครับ
• ซี อายุ 25 ปี จบ ม.กรุงเทพ นิเทศโฆษณา โทฟิล์ม คอยฉีกมุกให้คนอื่นทำงานยากขึ้นครับ
• ส่วนทีมงาน ชื่อ อ๊อฟชั่น อายุ 29 ปี เป็นโปรดิวเซอร์คอยดูภาพรวมต่างๆ ครับ รวมถึงคิดคอนเทนท์และตัดต่อบ้าง
• วิว อายุ 24 ปี ตากล้องหลัก และ ตัดต่อบ้างครับ
• จิม อายุ 24 ปี ตากล้องภาพนิ่งครับผม

จากเพจท่องเที่ยว ต่อยอดเป็นคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์-วาไรตี้

จริงๆ แล้ว “ดูมันดิ : DoMunDi TV” เป็นเพจท่องเที่ยว-ไลฟ์สไตล์-วาไรตี้ครับ หลายคนอาจมองว่าเป็นเพจท่องเที่ยวจ๋า เนื่องจากคลิปที่ทำให้คนรู้จักส่วนใหญ่จะเป็นท่องเที่ยว ซึ่งความตั้งใจแรกของเราก็คือการท่องเที่ยวแหละครับ (หัวเราะ)

แต่ทำไปทำมาคิดว่าก็พบว่า แต่ละคนค่อนข้างมีบุคลิกต่างกัน ทำให้เราสามารถสื่อสารแง่มุมอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่ท่องเที่ยวได้ บางคนตลก บางคนชอบแฟชั่น บางคนชอบเที่ยว บางคนวิชาการหน่อยๆ ก็เลยร่วมกันมาเป็นดูมันดิทีวีครับ

ทำไมต้อง “ดูมันดิ”

ตอนแรกหาชื่ออยู่นานมากเลยว่าจะชื่ออะไรดี มีทั้ง ZoneTeen, Funny Boy (ดีแล้วที่ไม่ตั้ง) ก็คิดไปมาก็รู้สึกเออเราอยากให้คนเห็นชื่อแล้วอยากดู ก็รู้สึกว่า ก็ “ดูมันดิ” ไง ก็เป็นดูมันดิมาจนถึงทุกวันนี้ครับ

สไตล์การเล่าเรื่องของดูมันดิเป็นแบบไหน

สไตล์การเล่าเรื่องของพวกเรา ใช้ความเป็นเพื่อนมาสื่อ โดยเน้นความสนุกเป็นหลัก สาระเป็นรอง เราอยากให้ทุกคนรู้สึกว่า อยากมีกลุ่มเพื่อนแบบนี้ ซึ่งการทำคลิปไม่จำเป็นต้องมีสาระเสมอไป เราจึงเลือกทำคลิปในสไตล์ที่เหมือนคุณไปเที่ยวกับเพื่อน และไปเที่ยวกับเพื่อนมันสนุกยังไงมากกว่า

30629341_1975765365829919_1827336447922722634_n

ก่อนออกทริปแต่ละครั้ง มีการประชุมทีมไหม และหลักในการเลือกที่เที่ยว

ในช่วงแรกเราประชุมทีมกันน้อย อาจไม่ได้วางแผนทุกขั้นตอน เพราะเราอยากตื่นเต้นกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามากกว่า แต่หลังๆ มานี้ก็เริ่มประชุมกันมากขึ้น แต่ด้วยความตื่นเต้นที่เกินไป ก็ทำให้เราหลงบ้าง ไปไม่ทันบ้าง (หัวเราะ) ส่วนที่เลือกว่าอยากไปที่ไหน เราเลือกจากสถานที่ที่ไม่ค่อยมีใครไป แต่ถ้าที่นั่นมีคนไปเที่ยวเยอะแล้ว เราจะฉีกแนวทำอะไรให้น่าสนใจและแตกต่างจากคนอื่นๆ

กว่าจะได้คลิปออกมาเราให้ดู ใช้เวลานานแค่ไหน

นานนะ ยกเว้นมีเดทไลน์จากลูกค้า (หัวเราะ) แต่ถ้าเราทำกันเองก็ใช้เวลาพอสมควร ถ้าเที่ยวเดือนนี้ เดือนหน้าก็น่าจะเริ่มออก ประมาณนี้ครับ

มีการวางแผนไหมว่าแต่ละวันจะลงคลิปอะไร

ตอนนี้ยังเลยครับ ลงตามใจฉันมาก แต่จริงๆ เริ่มทำแพลนมาแล้ว เพราะมีอีก 5 ทริปรออยู่ คิดว่าต่อไปคงต้องทำให้เป็นระบบมากขึ้น

ทริปที่ประทับใจที่สุด

น่าจะทริปแรกที่โดนโกงแหละครับ มันเป็นครั้งแรกของหลายคนที่ได้ไปญี่ปุ่น ไปเผชิญกับสิ่งที่ไม่เคยทำ มาวันแรกก็หลงเลยแทบขึ้นรถไฟฟ้าเที่ยวสุดท้ายไม่ทัน ส่วนวันที่สองก็งงๆ อยู่ดีๆ ก็มีร้านยูคาตะเรียกพวกเราไปใส่ เราก็คิดคอนเทนต์สดๆ ตรงนั้นเลย ทั้งที่ตอนนั้นจะทำอีกอย่าง

ยิ่งออนเซ็นแต่ละคนก่อนไปก็เตรียมใจว่าจะต้องทำ พอไปถึงหน้างานก็ตื่นเต้นมาก แถมยังต้องแก้ผ้าตรงนั้น ตอนแรกคิดว่ายังมีผ้าปิดได้บ้าง สรุปต้องแก้ทั้งกอง โหดมาก เป็นอะไรที่ไม่เคยทำ แต่เชื่อไหมมันทำให้พวกเราสนิทขึ้น กลายเป็นว่า เวลาทำทริปอะไรรีบๆ สามารถอาบน้ำพร้อมกันได้แล้ว แล้วไหนจะเล่นรถไฟเหาะสุดเสียว ทั้งที่บางคนไม่เคยคิดจะเล่นมาก่อนในชีวิต เหมือนมีเพื่อนร่วมเสี่ยงชีวิต

ถือว่าเป็นโชคดีของเรา ที่เจอภูเขาไฟฟูจิทั้งที่เขาบอกว่าคงไม่มีโอกาสได้เห็น เนื่องจากอากาศไม่ดี วันสุดท้ายไปออนเซ็นอีกที่ พวกเราก็นั่งรถไฟชินคันเซนผิดสถานี เพราะหลับทั้งแกงค์ เลทจากที่นัดออนเซ็นไปประมาณ 2 ชม.ได้ แต่คนญี่ปุ่นก็ขับรถมารับและแทบจะปิดออนเซ็นเลี้ยงพวกเรา คือทุกอย่างมันดูมีอุปสรรคหมดแต่ออกมาดีหมด ประทับใจสุดๆ เลยครับ

httpv://youtu.be/2Bu93cjEfMc

สิ่งที่เราเห็นใน Social Media กับตัวตนจริงๆ แตกต่างกันไหม

ก็เป็นตัวตนของพวกเรานะครับ แต่ยังไม่ได้สุดมาก เรารู้สึกว่าน่าจะทำอะไรที่ได้มากกว่านี้ ซึ่งเราก็กำลังค้นหาไปเรื่อยๆ อยู่เหมือนกันครับ

“Influencer” ในมุมมองของคุณหมายความว่าอะไร

หากคำว่า “Influencer” หมายถึงผู้มีอิทธิพลที่พูดอะไรแนะนำสินค้าใดไปมักจะส่งผลกระทบต่อคนๆ นั้นใช่ไหมครับ แต่ผมรู้สึกตอนนี้ใครก็เป็นได้นะถ้ามีคนจ้าง ดังนั้น สำหรับพวกผมแล้วการเป็น Influencer ที่ดีคือ คนที่ต้องเก่งทางด้านนั้นจริงๆ ก่อนที่จะแนะนำให้คนอื่นๆ

พวกเรามี passion ในสิ่งที่กำลังสื่อ เป็นตัวกลางที่ทำให้คนเข้าใจสิ่งนั้นๆ มากขึ้นกว่าที่เขารู้ ไม่ใช่แค่ทำให้เขาเชื่อและซื้อสิ่งๆนั้น

เพจมียอดไลก์กว่า 2 แสน เป็นธรรมดาที่ต้องมีสปอนเซอร์ติดต่อมา คุณรับงานทั้งหมดเลยไหม

พูดตรงๆ รับได้หมดนะครับ ถ้ามันไม่ได้มีผลกระทบในด้านลบต่อคนอื่นๆ เราเน้นงานที่ทำแล้วทุกคนสนุกไปกับสิ่งนั้นได้ ทว่า หากงานนั้นโฆษณาเกินจริงจนส่งผลเสียต่อสังคม งานที่ผิดกฎหมาย หรือเสี่ยงเกินไปคงไม่รับ เราเชื่อว่าอย่างน้อยมาอยู่ตรงจุดนี้ ก็ควรต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมครับ

สิ่งสำคัญในการโพสคอนเทนต์จากสปอนเซอร์คือ อย่าดูถูกคนดู

ปกติแล้วการโพสคอนเทนต์ของตัวเองมักสื่อความเป็นตัวตนออกมาได้เต็มที่ แต่เมื่อมีสปอนเซอร์เข้ามาเกี่ยว ย่อมต้องมีกรอบหรือไกด์ไลน์ แล้วการผลิตคอนเทนต์เหล่านี้แตกต่างกันไหม ทีมงานดูมันดิ เล่าว่า เป็นคำถามที่ตอบยาก ซึ่งเราก็อยู่ระหว่างการหาสมดุลระหว่าง 2 สิ่งนี้ ประเด็นสำคัญคือ อย่าดูถูกคนดู ต่อให้คุณทำคอนเทนต์ดีแค่ไหน หรือพยายาม Tie-in เนียนสุดๆ ผู้ชมก็รู้อยู่ดีว่ามีสปอนเซอร์

แต่ในขณะเดียวกันสปอนเซอร์เป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เพจะเดินหน้าต่อไป ถ้าเราไม่รับเลยมันก็ไม่มีกำลังขับเคลื่อน ในฐานะคนทำคอนเทนต์ ก็ต้องพัฒนาตัวเองเพื่อหาสมดุลให้ได้มากที่สุด ไม่สามารถยึดแนวทางในแนวทางหนึ่งได้ตลอดไป ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

เพจท่องเที่ยวก็มีอยู่เยอะ คิดว่าจุดไหนที่ทำให้ดูมันดิเป็นที่ชื่นชอบขนาดนี้

28167943_1907387099334413_5069729122103425049_n

คิดว่าน่าจะเป็นความเป็นกันเอง และความเป็นตัวของตัวเอง บางคนอาจมองว่าพวกเราขายรูปร่างหน้าตา จริงๆ แล้วพวกเราไม่มีใครห่วงลุคตัวเองเลย ถ้าได้รู้จักจะเห็นว่าเป็นคนเกรียนๆ ด้วยซ้ำ เราไม่ได้อยากอวยทีมงาน ถ้าคุณได้ดูคลิปของเราจะเห็นว่าการถ่ายและการตัดต่อเต็มไปด้วยความใส่ใจ ไม่ใช่แค่การถ่ายเล่นขำๆ หรือตัดต่อให้เสร็จๆ ไป เราอยากถ่ายทอดคอนเทนต์ที่มีสาระหรือไร้สาระในมุมมองที่สวยงามและต่างออกไป

นอกจากนี้ พวกเราค่อนข้างสปอยล์แฟนคลับ เมื่อมีคนติดตามมากขนาดนี้ สิ่งที่เราตอบแทนเขาได้คือ ทำให้ทุกคนมีความสุขที่สุด

อยากให้ผู้อ่าน รู้จัก “ดูมันดิ : DoMunDi TV” ในมุมไหนบ้าง

เราอยากให้ทุกคนรู้จักดูมันดิ ในฐานะของเพื่อน หรือกลุ่มคนที่เป็นแรงบันดาลใจในด้านต่างๆ เราแค่อยากสร้างความสุขไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม ต่างคนต่างก็มีมุมความสุขของตัวเอง ในท้ายที่สุดเมื่อคนที่ได้ดูคลิปแล้วมีความสุข พวกเราก็สุขด้วย

อ่านจบแล้ว อย่าลืมแวะไปดูคลิปของพวกเขาบ้างนะคะ จะได้มีความสุข ดูมันดิ !! :)…

ภาพจาก https://www.facebook.com/DoMunDiTV/


  • 812
  •  
  •  
  •  
  •