มีใครบ้างที่ซื้อประกันแล้วอ่านเงื่อนไขรายละเอียดทั้งหมด เชื่อว่าหลายคนที่เคยซื้อประกันไม่เคยอ่านรายละเอียดแบบครบถ้วนแน่นอน ซึ่งบางครั้งการใช้ประกันก็มีข้อจำกัดบางประการที่ผู้ซื้อประกันอาจไม่ทราบ แต่จะมารู้อีกทีก็ตอนเกิดเหตุแล้ว หลายครั้งที่เราซื้อประกันเพียงเพราะมีไว้ก่อนดีกว่าถึงเวลาจำเป็นแล้วไม่มี ทำให้บางทีเราก็เสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ แถมยังไม่เข้าใจในเนื้อหาของประกันได้อย่างถูกต้อง รวมถึงเงื่อนไขพิเศษที่แอบซ่อนไว้ กลายเป็นว่าพอถึงเวลาต้องใช้จริง ดันใช้ไม่ได้จริงตามที่หวังไว้
ที่สำคัญประกันส่วนใหญ่จะเป็นการบังคับซื้อแพ็คเกจ ซึ่งมันไม่ Customize ในแบบที่คนใช้รถจริงๆ อยากได้ อย่างเช่น ใช้รถอยู่คนเดียวไม่มีผู้โดยสารอื่นร่วมเดินทาง ทำไมต้องซื้อประกันที่ครอบคลุมผู้โดยสารคนอื่นๆ เป็นต้น นั่นคือเหตุผลที่ คุณต้น กิตตินันท์ ภู่พงศ์พันธ์กุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อินชัวร์เวิร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ “insurverse” บริษัทประกันภัยยุคดิจิทัลที่เราจะมาเรียนรู้และทำความรู้จักกัน ที่แม้ insurverse จะเป็นแบรนด์ใหม่ แต่เป็นบริษัท เครือเดียวกับทิพยประกันภัย และอยู่ภายใต้ บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีความเชี่ยวชาญ ความมั่นคงและมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในตลาดประกันภัยในอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
เปิดประสบการณ์การทำประกันภัยออนไลน์แบบ D.I.Y ที่ตอบโจทย์ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่กับ insurverse
insurverse คือ บริษัทประกันภัยยุคดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อคนยุคดิจิทัล โดยนำแนวคิด Customer Centric มาเป็นแกนหลักในการพัฒนารูปแบบประกันที่สอดรับพฤติกรรมของแต่ละคนให้มากที่สุด โดยเป็นประกันในรูปแบบที่เรียกว่า D.I.Y (Do It Yourself) ที่ผู้ซื้อประกันสามารถปรับเปลี่ยนความต้องการคุ้มครองได้ด้วยตัวเอง ตั้งแต่วงเงินความคุ้มครองไปจนถึงรูปแบบความคุ้มครอง
“ใครที่ใช้ประกันของที่อื่น สามารถ Move On มาเป็นประกันภัยที่เข้าใจพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ ด้วยการ DIY สิ่งที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง ด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายและออกแบบตามพฤติกรรมผู้ใช้งานจริง โดยนิยามของกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ คือ กลุ่ม Digital Native ทุกเพศทุกวัย ที่มีไลฟ์สไตล์คุ้นชินกับระบบดิจิทัลด้วยพฤติกรรมแบบ Hi Tech no Touch ที่มักจะเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างที่ต้องการด้วยอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต หรือ Gadget ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว”
แตกต่างจากประกันในรูปแบบเดิมที่เสนอขายมาแบบเป็นแพ็กเกจซึ่งบางความคุ้มครองก็อาจไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้รถต้องการ จุดเด่นที่น่าสนใจของ insurverse คือการปรับเปลี่ยนความคุ้มครองจะมีผลต่อราคา ยิ่งปรับความคุ้มครองส่วนเกินลงมากเท่าไหร่ ราคาประกันก็จะยิ่งลดลงมากขึ้น หมายความว่าเราสามารถซื้อประกันภัยชั้นหนึ่งได้ในราคาที่ถูกกว่าตลาดที่ขายกันอยู่ในปัจจุบัน
Move on สู่ประกันภัยยุคดิจิทัล
สำหรับ insurverse มาจากคำว่า Insurance ผสมผสานกับ Universe ที่จะพาทุกคนให้ก้าวไปสู่โลกใหม่ของธุรกิจประกัน โดยโลโก้ของ Insurverse จะประกอบไปด้วย ตัว V ที่สื่อความหมายถึงถูกทุกเรื่อง ทั้งราคาและบริการที่ตอบพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ตัว i ที่สื่อถึงตัวคนรุ่นใหม่ และความโค้งงอของตัว V ที่เปรียบเสมือนริบบิ้นชี้ให้เห็นความโปร่งใสทั้ง 2 ด้าน เสมือนการทำธุรกิจประกันที่มีความโปร่งใส ไม่ปิดบัง
“ระบบของ insurverse แม้ไม่ต้องสื่อสารผ่านมนุษย์ด้วยกัน แต่ก็ยังสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการตามความพึงพอใจได้อย่างง่ายดาย ผ่านแพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถเลือกความต้องการคุ้มครองได้เอง ซึ่งเป็นบริการที่เข้ามาแก้ Pain Point การซื้อประกันภัยในรูปแบบเดิมที่ซื้อแล้วเจอเงื่อนไขแบบมีดอกจันที่อ่านทีไรก็ยังไม่เข้าใจ สุดท้ายก็เคลมไม่ได้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ insurverse เป็น The 1st DIY Direct Digital Insurance ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้ทุกด้าน”
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเสียงที่เจอในขั้นตอนการศึกษา Consumer Insight และถือเป็นโจทย์ใหญ่ให้ insurverse ต้องนำไปพัฒนาหาทางแก้ไข เพื่อไม่ให้ลูกค้าต้องมาเลือกซื้อเล่มกรมธรรม์ที่สุดท้ายอาจใช้งานได้ไม่ตอบโจทย์และไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
3 ข้อ หัวใจสำคัญที่เปลี่ยนโลกประกันให้เข้าใจง่าย
จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่ insurverse ได้ทำการศึกษา และการเน้น Customer Centric สามารถถอดรหัสออกมาจากการสู่การพัฒนาและกำหนด Core Value ของธุรกิจทั้ง 3 ข้อ ที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงจากประกันภัยในโลกยุคเก่า สู่การประกันภัยโลกใหม่ยุคดิจิทัลที่สามารถให้ลูกค้าเลือกซื้อประกันแบบ DIY บริหารความคุ้มครองได้เอง และทำทุกอย่างให้ง่ายขึ้นเพียงไม่กี่ขั้นตอนและใช้เวลาไม่นาน
- CLEAR, No concealed ด้วยบริการที่พร้อมเปิดเผยอย่างจริงใจ พร้อมแสดงราคาและข้อมูลให้เห็นตั้งแต่ก่อนการตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้ทันที
- SIMPLE, No stress พัฒนาระบบการซื้อ การเคลมด้วยเทคโนโลยีและการใช้ภาษาประกันที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย และได้รับการบริการที่สะดวกรวดเร็วที่สุด
- FAIR, No force การให้บริการในราคาที่ยุติธรรมทำให้ไม่ต้องจ่ายเบี้ยเกินความจำเป็น สามารถเลือกจ่ายเฉพาะความคุ้มครองที่ต้องการได้
จากโจทย์ที่ต้องการให้ทุกอย่างง่าย สู่การนำเทคโนโลยี OCR มาใช้เพื่อให้ทุกขั้นตอนสามารถทำรายการด้วยตัวเองได้แบบไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ และไม่ถูกบังคับให้เก็บ Data ช่วยตอบโจทย์การเข้ามาของกฎระเบียบ PDPA เพราะทุกกระบวนการขั้นตอนในการซื้อจะเกิดขึ้นและจบลงที่หน้า Website หรือ Application ได้ทันที และจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลการซื้อประกันสู่สาธารณะ
เคลมประกันทุกอย่างจบด้วยตัวเอง
เนื่องจากแนวคิด Customer Centric ทุกอย่างจึงถูกคิดมาเพื่อตอบพฤติกรรมผู้บริโภคและตอบ Pain Point ไม่ว่าจะเป็นการพยายามพลิกโฉมวงการประกันภัยเปลี่ยนเรื่องการทำประกันที่เข้าใจยากให้เป็นเรื่องง่าย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงได้ง่ายผ่านระบบดิจิทัล รวมถึงยังสามารถปรับแต่งรายละเอียดความคุ้มครองเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ สามารถปรับแต่งความคุ้มครองได้ง่ายจนกว่าจะพอใจ และเหมาะสมกับงบประมาณที่มี
“เพราะทุกขั้นตอนในการทำประกันภัยกับ insurverse ไม่จำเป็นต้องผ่านคน รวมไปถึงขั้นตอนการเคลมประกันที่สามารถถ่ายรูปจุดเกิดเหตุส่งได้เองโดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่เดินทางไป หรือจะสามารถให้เจ้าหน้าที่ Call Center เป็นผู้ช่วยในการบอกขั้นตอนการถ่ายรูปจุดเกิดเหตุเพื่อออกใบเคลม และยังรองรับบริการเรียกเจ้าหน้าที่ไปที่จุดเกิดเหตุเหมือนเดิม โดยสามารถนำใบเคลมที่ได้เข้าอู่ที่เป็นพันธมิตรของอินชัวร์เวิร์สได้ทันที”
นอกจากนี้ insurverse ยังมีระบบที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเรียนรู้การซื้อประกันภัยได้ด้วยตัวเองผ่านภาษาที่คิดมาใหม่ เพื่อให้การสื่อสารเข้าใจได้ง่ายมากกว่าเดิม เพื่อนำไปพัฒนาเป็นประกันภัยที่สามารถออกแบบเองได้แบบไม่จำกัด เชื่อมต่อการให้บริการเคลมด้วยตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา และมีความปลอดภัยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 100% โดยนำร่องเปิดตัวประกันภัยรถยนต์ออนไลน์เป็นบริการแรก และยังมี พ.ร.บ. พร้อมกับการประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ
“ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เรายังเตรียมเปิดให้บริการประกันอุบัติเหตุ ประกันบ้านและประกันสัตว์เลี้ยงบน insurverse อีกด้วย และจะพัฒนาเพื่อพยายามตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปเพื่อให้เป็นประกันที่จริงใจ ที่เชื่อมั่นในตัวลูกค้าเช่นเดียวกัน”
คุณต้น กิตตินันท์ ยังเสริมอีกว่า “นอกจากกลุ่ม Digital Native แล้ว กลุ่มที่เป็น Adaptive Digital ก็ยังถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย โดยเราถือเรื่องความชัวร์ทั้ง 3 ด้าน อย่าง ถูกชัวร์ ที่ไม่ผ่าน Broker ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับความคุ้มครองที่ไว้ใจได้ คุ้มชัวร์ ที่สามารถปรับความคุ้มครองตามความต้องการได้ด้วยตัวเองและราคาถูก มั่งคงแน่นอน และเพื่อให้บริการ Video Claim ด้วยผู้ใช้รถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ ช่วงปลายปีนี้จะมีแอปฯ เคลมประกันที่ช่วยให้การเคลมง่ายขึ้นไปอีกขั้น และต้องบอกว่าการซื้อประกันผ่าน insurverse ใช้เพียงไม่กี่ขั้นตอน ถ้าเสียเวลาก็คงเป็นเพราะตัดสินใจเลือกความคุ้มครองที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด สามารถเข้าไปลองชม website รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ได้ที่ www.insurverse.co.th
