ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ธุรกิจจะอยู่รอดและเติบโตได้อย่างไร? การปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบและมาตรฐานด้านความยั่งยืนไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไป แต่กลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในตลาดที่มีการแข่งขันสูง เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม Tetra Pak หนึ่งในผู้นำระดับโลกของอุตสาหกรรมการผลิต บรรจุ และบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม กำลังขับเคลื่อนธุรกิจด้วยโซลูชันที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังคงไว้ซึ่งความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค
คุณแพรพร อมรภาณุพันธ์ ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านบรรจุภัณฑ์ของ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด จะมาแบ่งปันกลยุทธ์สำคัญในการบูรณาการเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกับความยั่งยืน ทั้งหมดนี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Tetra Pak ยังคงเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ในระดับโลก
ผู้นำแห่งวงการบรรจุภัณฑ์: ความเชี่ยวชาญระดับโลกเพื่อความยั่งยืน
ในยุคที่ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงทางเลือกแต่กลายเป็นข้อกำหนดสำคัญในการแข่งขัน Tetra Pak ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตและบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มด้วยโซลูชันที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยแนวคิดหลักที่อยู่เบื้องหลังคือคำมั่นสัญญาของบริษัทที่ว่า Protects What’s Good ซึ่งไม่เพียงแต่ปกป้องอาหาร แต่ยังรวมถึงผู้คนและโลกใบนี้
คุณแพรพรบอกกับเราว่า “เรามองความยั่งยืนจากมุมมองที่ครอบคลุม โดยตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาหาร สิ่งแวดล้อม และผู้คน แนวทางนี้นำเราไปสู่การคิดค้นโซลูชันที่ไม่เพียงแต่รักษามาตรฐานสูงสุดในการปกป้องอาหาร แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม”
โดย Tetra Pak ใช้แนวคิดหลัก 3 ประการในการพัฒนาโซลูชันที่ยั่งยืน
- การปกป้องอาหาร
“ระบบอาหารอยู่ที่แกนกลางของธุรกิจเรา” คุณแพรพรกล่าว “เรามุ่งมั่นในการทำให้อาหารปลอดภัยและเข้าถึงได้ในทุกที่ พร้อมลดผลกระทบจากกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ โดยการพัฒนาเทคโนโลยีและโซลูชันที่ช่วยลดการสูญเสียอาหาร”
- การปกป้องโลก
“เรามุ่งเน้นการลดผลกระทบทางภูมิอากาศ ฟื้นฟูธรรมชาติ และส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน” เธอกล่าว “เรานำวัสดุกลับมาใช้ใหม่และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ที่ใช้วัสดุทดแทนได้และรีไซเคิลได้”
- การปกป้องผู้คน
“ความยั่งยืนของเรายังรวมถึงความยั่งยืนทางสังคม” คุณแพรพรเสริม “เราสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและโครงการที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน”
และเพื่อให้บริษัทคงอยู่ในแนวหน้าของการปฏิบัติด้านความยั่งยืน Tetra Pak ได้สร้างความเป็นผู้นำด้วยการคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันความยั่งยืนร่วมกัน เพราะความยั่งยืนต้องเกิดจากความร่วมมือในทุกภาคส่วน ไม่ใช่เพียงแค่บริษัทเดียว
สำหรับ Tetra Pak ความยั่งยืนไม่ใช่แค่คำสัญญา แต่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการเติบโตและแข่งขันในตลาดโลกที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“เรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ประชากรจะเพิ่มขึ้นกว่า 25% ในปี 2050 ซึ่งจะทำให้ความต้องการอาหารสูงขึ้น ในขณะที่เราต้องลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากการผลิตอาหาร วิสัยทัศน์ของเราคือการทำให้อาหารปลอดภัยและเข้าถึงได้ในทุกที่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันที่ตอบสนองต่อความท้าทายทางสิ่งแวดล้อมและสังคม” คุณแพรพรสรุป
โซลูชันความยั่งยืนแบบครบวงจร และการสนับสนุนลูกค้าสู่เป้าหมายที่วัดผลได้
ความมุ่งมั่นของ Tetra Pak ในด้านความยั่งยืนฝังรากลึกอยู่ในทุกภาคส่วนของการดำเนินงาน โดยเฉพาะการนำเสนอการแก้ปัญหาแบบครบวงจรในด้านบรรจุภัณฑ์ การผลิต และบริการทางเทคนิค ซึ่งทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมสนับสนุนลูกค้าในการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่สามารถวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม
- โซลูชันบรรจุภัณฑ์
Tetra Pak ได้แนะนำโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากทรัพยากรหมุนเวียน ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
“เราให้ความสำคัญกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารที่สอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืนระดับโลก” คุณแพรพรกล่าว “ตัวอย่างเช่น เราได้พัฒนาหลอดกระดาษและฝาแบบ tethered cap ซึ่งช่วยลดขยะและทำให้การรีไซเคิลสะดวกขึ้นเพราะสามารถนำไปรีไซเคิลพร้อมกล่องบรรจุภัณฑ์ได้”
บรรจุภัณฑ์ของ Tetra Pak ผลิตจากกระดาษเป็นหลัก ซึ่งเป็นทรัพยากรหมุนเวียนที่มาจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ที่ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC™)
“นอกจากการใช้วัสดุหมุนเวียนเช่น โพลิเมอร์จากพืช และโพลิเมอร์รีไซเคิลที่ได้รับการรับรองแล้ว เรายังพัฒนาวัสดุทางเลือกเพื่อแทนที่ชั้นอะลูมิเนียมฟอยล์ที่ใช้ในกล่องบรรจุภัณฑ์ ทำให้การรีไซเคิลทำได้ง่ายขึ้น แต่ยังคงรักษาคุณสมบัติในการปกป้องอาหารไว้ได้เช่นเดิม” คุณแพรพรกล่าวเสริม
อีกหนึ่งตัวอย่างที่โดดเด่นคือ กล่องเครื่องดื่มที่ใช้ชั้นปกป้องที่ทำจากเยื่อกระดาษ ซึ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมาโดยร่วมมือกับแบรนด์ Lactogal ในโปรตุเกส
“นวัตกรรมนี้ช่วยเพิ่มการใช้วัสดุหมุนเวียนในกล่องบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 90% โดยที่ประมาณ 80% เป็นกระดาษ จึงทำให้โซลูชันนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงหนึ่งในสามเมื่อเทียบกับกล่องบรรจุภัณฑ์แบบดั้งเดิม” คุณแพรพรอธิบาย
- โซลูชันการผลิต
โซลูชันการผลิตของ Tetra Pak เน้นการใช้นวัตกรรมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำและพลังงาน
“เราพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้น้ำและพลังงานในกระบวนการผลิต ซึ่งช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของลูกค้า” คุณแพรพรกล่าว “ตัวอย่างเช่น เครื่องโฮโมจีไนเซอร์รุ่นใหม่ของเราสามารถลดการใช้พลังงานและน้ำได้ถึง 30% โดยลดการใช้ไฟฟ้าจาก 46 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง เหลือเพียง 32 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง สำหรับการผลิตนม 10,000 ลิตรต่อชั่วโมงและจากปกติใช้น้ำในการผลิต 150 ลิตรต่อชั่วโมง ก็สามารถลดการใช้น้ำเหลือ 120 ลิตรต่อชั่วโมง”
คุณแพรพรยังกล่าวถึงเครื่องแยกไขมันที่ได้รับการออกแบบให้ประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 40% “ด้วยการลดการใช้ไฟฟ้า ลูกค้าของเราสามารถประหยัดค่าไฟได้มากถึง 100,000 บาทต่อปี และยังลดการใช้น้ำได้ถึง 20%” เธออธิบาย
เป้าหมายของ Tetra Pak คือการลดการใช้ทรัพยากรในกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การลดการใช้พลังงานและน้ำ ไปจนถึงการลดของเสีย ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานของลูกค้าด้วย
- โซลูชันบริการทางเทคนิค
โซลูชันบริการทางเทคนิคของ Tetra Pak ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยการวางแผนการบำรุงรักษาเพื่อลดการหยุดชะงักของการผลิตและหลีกเลี่ยงการสูญเสียทรัพยากร พร้อมทั้งการฝึกอบรมและสนับสนุนด้านเทคนิคเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพและวัดผลได้
คุณแพรพรกล่าวว่า “โซลูชันของเรามุ่งเน้นการลดการใช้พลังงาน การจัดการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการลดของเสีย ด้วยเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตได้แม่นยำโดยอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน”
ตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำในเชิงเทคนิคกับลูกค้า เช่น
– CIP Improvement: ปรับปรุงกระบวนการทำความสะอาดเพื่อลดการสูญเสียทรัพยากร
– High Quality Components: ใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงเพื่อลดการซ่อมบำรุง
– Planned maintenance: วางแผนบำรุงรักษาเพื่อลดของเสียและต้นทุน
– Digital/Virtual Tools: ใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและเพิ่มความสะดวก
การนำโซลูชันแบบบูรณาการของ Tetra Pak มาใช้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างความแตกต่างในตลาดโดยการนำเสนอสินค้าที่มีความยั่งยืนและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยคุณแพรพรแนะนำว่าลูกค้าควรวางแผนการเปลี่ยนแปลงใน 4 ขั้นตอน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนที่สามารถวัดผลได้:
- Avoid – หลีกเลี่ยงการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง
- Recover – กู้คืนพลังงานและน้ำผ่านระบบ Recovery
- Optimize – เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในการผลิต
- Neutralize – ทำให้กระบวนการผลิตมีความเป็นกลางทางสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่า
ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคและกฎระเบียบ: กลยุทธ์การเติบโตที่สมดุลและแข่งขันได้
การดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านความยั่งยืนที่เข้มงวด เพื่อให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระยะยาว
Tetra Pak ไม่เพียงแต่มีความสามารถในการพัฒนาโซลูชันด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของข้อกำหนดและกฎระเบียบในอุตสาหกรรมที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด
“เราได้ลงทุนในกระบวนการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” คุณแพรพรอธิบาย “เพื่อให้มั่นใจว่าโซลูชันของเราสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ในขณะที่ยังคงรักษามาตรฐานการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเข้มงวด โดยเราทำงานร่วมกับลูกค้า หน่วยงานกำกับดูแล และพันธมิตรในอุตสาหกรรมทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าโซลูชันของเราสอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ ทั้งในระดับโลกและระดับท้องถิ่น”
เพื่อส่งเสริมธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ Tetra Pak ได้เสนอแนวทางการบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับทุกขั้นตอนของห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต ไปจนถึงการจัดจำหน่ายและโลจิสติกส์ โดยมุ่งเน้นที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาและสนับสนุนลูกค้าในทุกขั้นตอน
“ธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตต้องเข้าใจและใช้แนวทางการจัดการที่ยั่งยืนในทุกขั้นตอน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ เราสนับสนุนธุรกิจด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยให้ลูกค้าปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความยั่งยืน ขณะเดียวกันก็เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผ่านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและการผลิตที่มีประสิทธิภาพ” คุณแพรพรกล่าวเพิ่มเติม
ดังนั้น การลงทุนในความยั่งยืนไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
“การเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต” คุณแพรพรกล่าวทิ้งท้าย
สนใจข้อมูลด้านโซลูชันครบวงจรด้านความยั่งยืนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ติดตามได้ที่
https://www.tetrapak.com/en-th/campaigns/go-nature-go-carton/sustainable-solutions
สนใจชมการสัมมนาออนไลน์
“ธุรกิจที่พร้อมสำหรับอนาคตด้วยโซลูชันด้านความยั่งยืนจากเต็ดตรา แพ้ค” ย้อนหลังได้ผ่านทาง
https://event.on24.com/wcc/r/4695197/FE405E93B45974992841C3B9AE595758