‘Henrys’ นิยามพฤติกรรมใหม่ของกลุ่มรายได้สูง 6 หลักแต่กลับรู้สึกจน!
Henry's หรือ ‘High Earner Not Rich Yet’ ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีรายได้สูงแต่กลับไม่รวยสักที — หาเงินเก่ง แต่มีนิสัยแพง — เช็คพฤติกรรม คุณเป็นหนึ่งในกลุ่ม ‘Henrys’ หรือไม่?อ่านทั้งหมด http://bit.ly/2tmFTVu#พฤติกรรม #Henrys#MarketingOops*************************Oops! Podcast 👉 http://bit.ly/2kMq3PTเร็วกว่า มากกว่า อ่านได้ที่เว็บ www.marketingoops.comติดตาม LINE Official Account ค้นหา 👉 Marketing Oops! หรือคลิก https://line.me/R/ti/p/%40marketingoopsIG: www.instagram.com/ig_marketingoops/
โพสต์โดย Marketing Oops! เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2020
คุณเคยรู้สึกว่า ‘จน’ ทั้งๆ ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐมั้ย? แล้วคุณเคยได้ยินคำว่า ‘Henrys’ รึเปล่า? Shawn Tully นักเขียนแห่งนิตยสาร Fortune เคยบัญญัติคำนี้เอาไว้เมื่อปี 2003 ซึ่งย่อมาจากคำว่า ‘high earner not rich yet’ ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีรายได้สูงแต่กลับไม่รวยซะงั้น
The New York Post ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับกลุ่ม Henrys ว่าตอนนี้กำลังเกิดขึ้นกับกลุ่ม Gen ใหม่ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘Millennials’ นั่นก็คือกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 18-34 ปี ซึ่งกลายมาเป็น Characters สำคัญของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรายได้ 6 หลัก (ระหว่าง 100,000 ถึง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ)
“กลุ่ม Henrys เห็นได้ชัดๆ ก็คือ พวกเขาจะมีนิสัยแพงๆ (expensive habits)” หนึ่งในคำกล่าวในบทความของ Melkorka Licea ที่ระบุใน The New York Post
- อะไรคือ ‘นิสัยแพงๆ’ ที่จะเห็นจากกลุ่ม Henrys
ดูไม่ยากเลย ก็อย่างเช่น เมื่อถึงวันหยุดทีไรเป็นต้องจองตั๋วไปเที่ยวต่างประเทศเมื่อนั้น, โรงแรมที่พักต้องระดับ luxury เท่านั้น, เป็นเจ้าของหรือบ้านเช่าอย่างน้อย 2 หลัง, มีค่ารายเดือน ClassPass เป็น member ฟิตเนสมากกว่า 180 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ มีกองทุนประจำตัวเพื่อ entertain ตัวเอง เราเรียกมันว่า ‘pleasure fund’
แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่ชาว Henrys จะปรนเปรอซื้อความสุขให้ตัวเอง เรายังจะพอเห็น moment ที่ประหยัดๆ ของพวกเขาอยู่บ้าง เช่น ยอมที่จะไม่ช้อปปิ้งเกินความจำเป็น เลือกซื้อเสื้อผ้าจาก mass brands อย่าง Forever 21 หรือ TJ Maxx
เท่านั้นยังไม่พอชาว Henrys จะใช้บัตรสะสมแต้ม หรือคะแนนจากบัตรเครดิต หากทริป vacation แพงกว่างบประมาณที่ตั้งแต่ในแต่ละทริป
Priya Malani หุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง Stash Wealth บริษัทวางแผนด้านการเงิน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Henrys กล่าวว่า ถ้าจะพูดว่ากลุ่ม Henrys ไม่คิดจะวางแผนเรื่องการเงินเลยก็ไม่ถูก ควรพูดว่า “คิดแต่ไม่ทำจะดีกว่า” เพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะตัดขาดกับไลฟ์สไตล์อันหรูหราออกไปจากชีวิต
- กลุ่ม Millennials ส่วนใหญ่มองตัวเองอยู่ในระดับ middle class
Investopedia เรียกกลุ่ม Henrys ว่าเป็นกลุ่มคน ‘working rich’ คือ รวยเพราะทำงาน หากหยุดทำงานจะกลายเป็นคนที่ไม่รวยทันที ดังนั้น ชาว Henrys ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย แต่กลับมีเงินออมน้อยมาก หรืออาจจะไม่มีเงินออมเลยก็ได้ เหตุผลก็เพราะว่ารายได้สูงของพวกเขาส่วนใหญ่หมดไปกับ ‘ค่าใช้จ่าย’ โน่นนั่นนี่ แทบไม่เจียดเงินไปลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งทางอื่นเพื่ออนาคตเลย
นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า กลุ่ม Henrys เหล่านี้คาดหวังที่จะเป็นและมีไลฟ์สไตล์แบบเดียวกันกับกลุ่มคนที่รวยกว่า ซึ่งสิ่งที่แตกต่างก็คือ คนรวยอีกประเภทรู้จักการสร้างความมั่งคั่งตัวเองด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ผลสำรวจของ Insider และ Morning Consult ชี้ว่า มากกว่า 38% ของกลุ่ม Millennials ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป กลับมองตัวเองว่าอยู่ในกลุ่ม middle class, ส่วนที่คิดว่าอยู่ในกลุ่ม upper middle class ก็มีเพียง 23% และแค่ 6% เท่านั้นที่มองว่าอยู่ในกลุ่มมั่งคั่ง
ทั้งนี้ งานรีเสิร์ชของ Pew Research Center ได้ให้คำนิยามจัดหมวดหมู่กลุ่มเหล่านี้เอาไว้ว่า หากอ้างข้อมูลในสหรัฐอเมริกากลุ่มที่จัดว่าอยู่ในระดับ middle class จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 60,336 ดอลลาร์สหรัฐ ชี้ให้เห็นว่ากลุ่ม Henrys มีรายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่มาก
จะว่าไปเรื่องของความรู้สึกว่าเราอยู่ในชนชั้นไหน ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลาง, สูงกว่าชนชั้นกลางขึ้นมาอีกหน่อย หรือว่าจะพีคไปทางร่ำรวยเลย มันก็น่าจะอยู่ที่ความพึงพอใจและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลจริงๆ รายได้ที่หามาได้มากๆ หากไม่รู้จัก balance กับรายจ่ายที่ใช้ในแต่ละวัน ยังไงๆ ก็ทำให้รู้สึกว่ายากจนอยู่ดีแหละ
ที่มา : businessinsider, nypost
