หากอิงจากการตั้งคำถามของ BBC ว่ามีหลายบริษัทในปัจจุบันที่ไม่ได้โฟกัสที่การลงทุนใน ‘การวิจัยการตลาด’ (market research) ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องสำคัญต่อการวางกลยุทธ์ของนักการตลาด และเพื่อการเติบโตทางธุรกิจได้ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กละขนาดกลางที่มองว่าควรให้คววามสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น
นี่เป็นเหตุผลที่ BBC มุ่งลงทุอย่างหนักเพื่อการวิจัยการตลาดที่ผ่านมา โดยระบุว่า การลงทุนแค่ 5% ของงบประมาณบริษัทเพื่อการวิจัยการตลาดถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจลูกค้า รวมไปถึงการให้บริการลูกค้าที่ดีขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้ในระยะยาว
ทั้งนี้ BBC ได้พูดย้ำเกี่ยวกับเหตุผลด้านลงทุนว่า อย่างน้อยๆ ก็ช่วยเป็นการสุ่มตัวอย่างที่ยังอยู่ในกรอบ เพื่อให้เราเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น โดยเฉพาะความเข้าใจผู้บริโภคที่ค่อนข้างหลากหลายในยุคนี้
ยกตัวอย่างกรณีของ BBC ที่ตั้งงบประมาณสูงถึง 50 ล้านปอนด์ สำหรับการวิจัยด้านการตลาดโดยเฉพาะในระยะ 4 ปี ซึ่งตามแผนจะทำการวิจัย/สำรวจทุกปี เพื่อเพิ่มความเข้าใจผู้อ่าน อีกทั้งยังพูดย้ำว่า “การลงทุนด้านการตลาดเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะทำมากกว่า 1 ปี”
3 ด้านหลักที่ควรอยู่ในการวิจัยด้านการตลาด
การวิจัยหรือการสำรวจด้านการตลาดไม่ใช่แค่ให้เรารู้จักผู้บริโภคให้มากขึ้น แต่องค์กรควรทำเพื่อมุ่งพัฒนาการตลาดของบริษัทให้ดีขึ้นทุกปี โดย 3 ด้านหลักที่ครอยู่ในจุดประสงค์ของการทำวิจัยการตลด คือ
-
ทุกๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยน CMO (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด) หรือเมื่อมีการพิจารณาการเปิดตัวผลิตภัณฑ์/บริการใหม่
-
อาจจะลดการวิจัยประจำปีขององค์กรให้น้อยลง แต่เน้นที่การวิจัย/การสำรวจเพื่ออัปเดตตลาด, พฤติกรรมผู้บริโภค, สิ่งที่ผู้บริโภคสนใจและกระทบต่อการวางกลยุทธ์การตลาดในแต่ละปี
-
อย่าลืมขั้นตอนการสอบถาม/สำรวจเกี่ยวกับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ที่กระทบต่ออารมณ์ของผู้บริโภค รวมไปถึงอัปเดตข้อมูลเชิงลึกเพื่อเป็นแนวทางธุรกิจต่อไป
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ BBC เปิดเผยว่าจากการที่ได้พูดคุยหลายๆ แบรนด์พบว่า ปัญหาที่น่ากังวลและพบบ่อยคือ การที่ธุรกิจไม่มีการติดตามแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ หรือมีการติดตามน้อยกว่า 12 เดือนซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ เพราะนั่นหมายถึงการไม่มีการจัดการที่ดีของแบรนด์ ซึ่งจะกระทบต่อการพัฒนาและเติบโตของธุรกิจในภาพรวม
ทั้งนี้ CMO บางรายได้ระบุว่า การลงทุนในการวิจัยการตลาดครั้งแรกหากต้องการข้อมูลเชิงลึกในระดับที่นำไปต่อยอดได้ ควรลงทุนอยู่ที่ 10% ของงบประมาณขององค์กร แต่สำหรับการลงทุนเพื่ออัปเดตข้อมูลการตลาด, พฤติกรรมผู้บริโภค ฯลฯ ที่เป็นการวิจัยประจำการลงทุนควรอยู่ที่ 5% หรือมากกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ขององค์กร
ที่มา: marketing week
