ถึงเวลารึยังที่จะคิดถึงวิธีการทำการตลาดใหม่ ๆ

  • 216
  •  
  •  
  •  
  •  

การตลาดในยุคนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย โดยเฉพาะการที่ Digital กลายเป็นหัวใจหลักในการสื่อสารทางการตลาดในยุคนี้อย่างมาก และการแข่งขันนี้ก็มีสูงขึ้นจากที่นักการตลาดนั้นต้องแข่งระหว่างแบรนด์คู่แข่งหรือโฆษณาอื่น ๆ เพื่อแย่งความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมารู้จักแบรนด์แล้ทำให้กลายเป็นลูกค้าให้ได้ แต่ยุคนี้นอกจากจะแข่งกับแบรนด์ด้วยกันเองแล้ว ยังต้องแข่งกับสื่ออื่น ๆ ทั่วไป และผู้บริโภคที่กลายเป็นสื่อเองในการทำ Content ซึ่งแย่งความสนใจไปจากแบรนด์มากมายอีกด้วย

AAEAAQAAAAAAAAe6AAAAJDRiM2NkYWEwLTY1M2ItNDUxNS1iMWVlLTQ2YTViMGExYzQwZQ

แบรนด์หลาย ๆ แบรนด์ต้องปรับตัวอย่างมาก จากที่เคยต้องทำการตลาดแบบ Campaign ต่อ  Campaign กลายมาเป็นต้องมาทำการตลาดแบบ Always on ที่ต้องสื่อสารกับผู้บริโภคตลอดเวลา และปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคตลอดเวลา ดึงความสนใจกับผู้บริโภคตลอดเวลาให้อยู่กับแบรนด์นั้นเอง นอกจากนี้แบรนด์ยังต้องปรับตัวและโตเพื่อให้สามารถแข่งขันในการตลาดยุคใหม่นี้ด้วยวิธีการใหม่ ๆ จากที่อดีีตเคยคิดถึงการสื่อสารทางการตลาดแบบ Mass Media ก็มาเป็นยุคนี้ที่ใช้การสื่อสารแบบ Segmentation จนถึงระดับ Personalise หรือการใช้ Demographic มาเป็น Interest ต่าง ๆ ขึ้นมา แบรนด์ต่าง ๆ ต้องปรับกลยุทธ์ในการสื่อสารทางการตลาด เทคโนโลยีที่จะใช้ ความร่วมมือและการดำเนินงานต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้วิธีแบบใหม่เช่น Agile ที่เลิกการทำงานแบบ silos และมาทำงานร่วมกันทุกฝ่ายทุกแผนกเพื่อเป้าหมายเดียวกัน การใช้ระบบการวัดผลแบบใหม่เช่น OKR แทน KPI และการสนใจประสบการณ์ผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจากแค่จุดใดจุดหนึ่งมาเป็นภาพรวมทั้งหมด ในยุคนี้นักการตลาดต้องเริ่มกลับมามองและคิดใหม่ว่าการตลาดตัวเองว่ายังทำอะไรแบบเก่าหรือเปล่า หรือได้ลองมามองและเริ่มอะไรใหม่ ๆ รึยัง

the-basics-of-okr-googles-secret-sauce-2-638

จาก Journey Mapping มาทำ Journey Optimisation  : เมื่อก่อนนักการตลาดนั้นพยายามจะหาว่าชีวิตหนึ่งวันของผู้บริโภคเจออะไรบ้าง และผู้บริโภคเข้ามาเจอแบรนด์จนถึงใช้แบรนด์ได้อย่างไร มาในยุคนี้นักการตลาดต้องเข้าใจมากกว่านั้นด้วยการใช้การวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ เข้าไป เช่นระบบ Customer Analytics ต่าง ๆ ที่สามารถทำให้เข้าใจผู้บริโภคว่ามี Journey อย่างไร และมีประสบการณ์อย่างไรมากขึ้น ซึ่งเมื่อเอา mapping ที่บอกว่าผู้บริโภคมีทางเดินอย่างไร มาผสมกับ Analytics ที่จะบอกว่าผู้บริโภคเจอและรู้สึกอย่างไร ก็สามารถนำไปสู่การคิดที่จะทำ Journey Optimisation ได้ ซึ่งด้วยการทำแบบนี้ทำให้นักการตลาดจะเจอจุดอ่อนในการตลาดตัวเอง และพบจุดใหม่ ๆ ที่คิดไม่ได้ถึงได้อย่างมาก

Analytics จะทำให้เราได้ insight ว่าผู้บริโภคเข้ามาปฏิสัมพันธ์อย่างไร ซึ่งทำให้นักการตลาดสามารถทดลองและทำการ Optimise เพื่อให้ผู้บริโภคมีประสบการณ์และทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากที่สุดออกมา ซึ่งแน่นอนสุดท้ายจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Conversion ขึ้นมาได้มากขึ้นนั้นเอง

BillyGoat2

จากการพบสิ่งผิดปกติด้วยตามาใช้เครื่องมือแทน : เมื่อก่อนนักการตลาดจะมองความผิดปกติต่าง ๆ ทางการตลาดด้วยการใช้จากการสังเกตและใช้สัญชาตญาณตัดสิน ซึ่งความผิดปกติเหล่านี้กลายมามีผลที่สร้างความแตกต่างทางการตลาดได้เลยทีเดียว และก็ใช้กันมาจนถึงในยุคนี้ปรับแต่งการตลาดให้สมบูรณ์ขึ้นจากการเห็นสิ่งเหล่านี้ ทั้งนี้ด้วยการที่ยุคนี้มีเครื่องมือมากมายทำให้นักการตลาดสามารถจับความผิดปกติเหล่านี้ได้จากเครื่องมือซึ่งแน่นอนใช้เวลาได้เร็วกว่าอย่างมาก และสามารถลองปรับแต่งความต้องการต่างๆ เพื่อทดสอบผลที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติเหล่านั้นได้ทันที ในยุคนี้ใครที่พบความผิดปกติต่าง ๆ ได้ก่อนและสามารถตอบสนองความผิดปกติเหล่านั้นได้ก่อน เป็นตัวชีวิตว่าใครจะเร็วกว่ากันและสามารถตอบสนองผู้บริโภคได้ก่อนกันอีกด้วย

Funnels-1

จาก Customer Experience มาสู่ Personalized Experience  : ประสบการณ์ผู้บริโภคนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ด้วยการที่ Digital กลายเป็นศูนย์กลางแบบนี้ทำให้สามารถเก็บข้อมูลทุก ๆ อย่างและทำความเข้าใจผู้บริโภคว่ามีปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้อย่างดี ด้วยยุคนี้ที่สามารถจับความต้องการหรือเข้าใจผู้บริโภคในระดับบุคคลได้ ทำให้การสื่อสารแบบ Mass ในอดีตนั้นกลายเป็นหลักการที่เก่า และเริ่มหันมาทำ Personalised ที่ให้ประสบการณ์ในแต่ละคนที่ต้องการออกมาได้ ทำให้สามารถดึงผู้บริโภคให้เปลี่ยนมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้ง่ายมากขึ้น เกิดการที่อยากจะอยู่กับแบรนด์ได้ดีขึ้นหรือจับจ่ายกับแบรนด์บ่อย ๆ ได้ต่อไป

ทั้งนี้การสร้าง Personalised Experience นี้ต้องมองถึงในระดับ Seamless อีกด้วยไม่ใช่แค่จุดใดจุดหนึ่งแต่ต้องต่อเนื่องกันที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกไม่ติดขัดหรือรู้สึกสะดุดในการใช้แบรนด์ต่าง ๆ อีกด้วย

440x317-Download-Amadeus-Infographic-Personalised-Journey

ทั้งนี้สนามการแข่งขันทางการตลาดนั้นเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาและด้วยความเร็วอย่างมากจนนักการตลาดหลาย ๆ คนนั้นตามไม่ทัน เพราะฉะนั้นใครที่รู้ตัวก่อน ลองก่อนและใช้ก่อนกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ได้เปรียบ ส่วนใครที่รอแน่นอนสุดท้ายอาจจะกลายไปอยู่ท้ายตลาดแทนได้ทันที


  • 216
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ