“ไมเนอร์” เชื่อมั่นเทรนด์การท่องเที่ยวมาแรงแน่! พร้อมใช้สองกลยุทธ์ตั้งเป้าโตกว่าเดิม 20%

  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  

หนีห่าวชาวจีน! ต้องขอบอกเลยว่า หลายธุรกิจในประเทศไทยกลับมายิ้มแย้มสดใสได้อีกครั้ง โดยเฉพาะหลังจากที่เปิดประเทศเต็มรูปแบบจนมีนักท่องเที่ยวทะลักเข้ามากันอย่างครึกครื้น และล่าสุดก็เป็นกลุ่มชาวจีนที่พร้อมใจกันกลับมาเที่ยว ซึ่งแน่นอนว่าภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ได้รับอานิสงส์ไปเต็ม ๆ หลังจากที่เฉามานาน

อย่างที่รู้กันกันว่ารายได้หลัก ๆ ของประเทศไทย มี 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือการการส่งออก และส่วนที่สองคือการท่องเที่ยว จากเดิมที่ประเทศไทยพึ่งพาแต่การส่งออกเป็นหลัก และในส่วนการท่องเที่ยวก็ไม่ค่อยมีรายได้มากนัก ทำให้การเปิดประเทศในการครั้งนี้เป็นโอกาสที่สำคัญในการทำรายได้ให้กับประเทศและธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย

ดังนั้นหลายบริษัทมีการตั้งรับการสถานการณ์ในครั้งนี้ อย่างทาง บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ก็มีการเตรียมความพร้อมเช่นกัน และจากปี 2565 ที่ผ่านมาก็เริ่มกลับมาเห็นการเติบโตอีกครั้ง ดูได้จากกำไรที่เพิ่มขึ้น ทั้งยังมีรายได้มากกว่าช่วงก่อนสถานการณ์ covid-19 ในปี 2562 เสียอีก สิ่งนี้อาจเป็นตัวชี้วัดได้ว่าเศรษฐกิจเริ่มทยอยฟื้นตัว ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวกลับมาเยอะเกินคาด

ด้วยเหตุนี้ทาง MINT จึงได้เตรียมวางแผนกลยุทธ์ 3 ปี (ปี 2566-2568)  พร้อมเดินหน้า “กลับสู่การเติบโต” (Back to Growth) อย่างเต็มรูปแบบโดยวางเป้าหมายรายได้ให้มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อน และหลัก ๆ แบ่งออกมาได้เป็นสองกลยุทธ์

ไมเนอร์มั่นใจ “Pricings strategy” ยกระดับมาตรฐานของโรงแรมขึ้นให้ดีกว่าเดิม

ไมเนอร์มองเห็นถึงเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคตที่กำลังกลับมา จึงวางแผยกลยุทธ์ในการยกระดับมาตรฐานของโรงแรมให้ดีกว่าเดิม พร้อมกับกลยุทธ์การปรับราคาหรือ Pricing strategy ที่สูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 15-40% และมั่นใจกับวิธีการนี้ เพราะมองว่านักท่องเที่ยวมีความต้องการสูงและพร้อมที่จะจ่ายในราคาที่มากขึ้นเช่นกัน เพื่อแลกกับคุณภาพและการบริการที่ดีขึ้นนั้นเอง

ด้วยการเติบโตของธุรกิจโรงแรม ทำให้ทางไมเนอร์มีแผนเปิดโรงแรมอีกกว่า 70 แห่ง ในช่วง 2-3 ปีหลังจากนี้ เช่น มัลดีฟส์, เยอรมนี, และออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังเตรียมบุกธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่านการขายที่พักอาศัยระดับ Luxury เช่น อนันตรา เรสซิเดนซ์ สวีท รวมถึงการให้บริการอาคารสำนักงานย่านสีลม เป็นต้น

 

Diversification Strategy” ตัวช่วยในการกระจายกสร้างรายได้ให้เติบโต

แน่นอนว่าร้านอาหารเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจสำหรับลูกค้า การที่ไม่เนอร์มองเห็นถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านคุณภาพของร้าน และอาหาร อาจจะทำให้ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวที่พึ่งเข้ามาเป็นครั้งแรกรู้สึกประทับในรสชาติของอาหาร และอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือ การสร้างรายได้ผ่านหลายช่องทางหรือ Diversification Strategy ยังมีความสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ควบคู่ไปกับการสร้างการเติบโต ด้วยแนวทางต่าง ๆ เช่น

  • ขยายร้านสาขาเพิ่มเติม
  • สร้างร้านค้ารูปแบบใหม่
  • ปรับโฉมแบรนด์ให้มีความทันสมัย
  • ปั้นแพลตฟอร์ม Loyalty Program ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์
  • ขยายแบรนด์ข้ามประเทศ

โดยเฉพาะด้านธุรกิจร้านอาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญและสามารถสร้างรายได้ไม่ใช่น้อย เนื่องจากร้านอาหารที่ดีมักจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ และยิ่งในสถานการณ์ช่วงนี้ที่ได้มีการเปิดประเทศ ทำให้โอกาสในการให้บริการลูกค้าจะไม่ใช่แค่คนไทยเพียงอย่างเดียว แต่จะรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการร้าน  มองในมุมต่างประเทศ การที่มีร้านอาหารที่ดี ตลอดจนการพัฒนาเมนูอาหารใหม่ ๆ ก็สามารถสร้างความตื่นเต้นทางการตลาดได้ และเป็นส่วนที่ทำให้ร้านมียอดขายเพิ่มขึ้นได้

ยกตัวอย่างที่ผ่านมา ไมเนอร์ก็ได้เข้าลงทุนในร้านเครื่องดื่ม “GAGA” เนื่องจากเห็นศักยภาพการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ โดยเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 50.1%

 

เตรียมขยายใหญ่กว่าเดิมด้วย “ระดมทุนหุ้นกู้” รอบใหม่ ต้อนรับการเติบโตแรง

จากการที่ไมเนอร์เป็นยักษ์ใหญ่ของธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร ประกอบการการที่ทางบริษัทปรับตัวได้ดีจนยอดขายเติบโตจนบางธุรกิจแซงหน้าก่อน covid-19 ระบาด พร้อมกับการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวจีนจะยิ่งสร้างแรงบวกให้กับไมเนอร์ในการเติบโตต่อได้อีกในอนาคต

ทั้งนี้ทางบริษัทจึงเตรียมเปิดจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ชุดใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 7-9 ก.พ. 66 วงเงินรวม 11,000 ล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินหุ้นกู้ 9,000 ล้านบาท และวงเงินสำรอง 2,000 ล้านบาท กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.1%

สุดท้ายนี้ การที่ไมเนอร์มีการวางแผนกลยุทธ์ตามที่กล่าวไปขั้นต้น ก็เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่กำลังทะลักเข้ามา และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นกว่านี้ ดังนั้นการที่ทางไมเนอร์ตัดสินใจเปิดให้จองซื้อหุ้นกู้ อาจะเป็นการสื่อถึงการขยับขยายธุรกิจครั้งใหญ่อีกครั้ง 

 


  • 7
  •  
  •  
  •  
  •  
CLOSE
CLOSE