ก่อนหน้านี้เราได้ยินมาตลอดว่า “มือถือ” คือคลื่นลูกใหม่ของ Digital Marketing เป็น “The next big thing” ที่กำลังมา แต่กระทั่งปี 2014 เป็นต้นมา “มือถือ” ก็สามารถเอาชนะ “เดสก์ท็อป” ได้ในที่สุด ดังนั้น สิ่งที่เราจะพูดถึงก็คือ การตลาดในอนาคตนับแต่ปี 2015 เป็นต้นไป หน้าตาจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะมือถือลองมาดูกัน
JBH Marketing & Smart Insights ร่วมกันทำอินโฟกราฟฟิกเกี่ยวกับ Mobile Marketing ในปี 2015 ซึ่งมีทั้งข้อมูลและสถิติที่น่าสนใจ อาทิ เปอร์เซนต์ของช่วงเวลาที่คนใช้แอพฯ ในมือถือปี 2015 คือ 86% และ ผู้ใช้บอกว่าพวกเขาใช้แอพฯ แทบจะทุกวันถึง 79% ซึ่งน่าคิดว่าต่อไปสำหรับธุรกิจแล้วแอพฯ บนมือถือมีความจำเป็นหรือไม่
อีกข้อมูลหนึ่งที่น่าสนใจคือ ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของเราไปเลยคือว่า พฤติกรรมของผู้ใช้มือถือนั้นเปิดเว็บคนละอย่างกับผู้ใช้เดสก์ท็อป และข้อมูลยังบอกอีกว่า ผู้ใช้มือถือส่วนใหญ่มักจะอยู่ในอารมณ์การท่องเว็บแบบเรื่อยๆ เพลินๆ ในขณะที่ผู้ใช้เดสก์ท็อปส่วนใหญ่จะเน้นการจับจ่ายหรือสับเปลี่ยนอารมณ์ไปเรื่อย โดยมีตัวเลขระบุว่า 90% ของผู้ใช้มือถือมักจะใช้เพื่อการรีเสิร์ชและเปรียบเทียบราคาเบื้องต้นก่อนทำการซื้อ
นอกจากนี้ ค่อนข้างชัดว่านักโฆษณาเชื่อว่ามือถือคือที่ที่ของ demographic ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการใช้จ่ายโฆษณาบนมือถือสูงมาก โดยประเมินไว้ว่าในปี 2019 จะสูงถึง 1.95 แสนล้านดอลล่าร์ โดยในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 6.8 หมื่นล้านดอลล่าร์
โดยรวมแล้วอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดที่มุ่งไปหามือถือ แต่หลายๆ สัญญาณก็ชี้ไปยังมือถืออย่างช้าๆ และกำลังจะกลายมาเป็นดีไวซ์ที่เพอร์เฟ็คที่สุดทั้งกับผู้บริโภคและกับธุรกิจ ดังนั้น ลองพิจารณาจากอินโฟกราฟฟิกด้านล่างนี้ดูนะคะเพื่อประกอบการพิจารณา โดยเราได้สรุปข้อมูลไว้คร่าวๆ ดังนี้
- เปอร์เซนต์ของช่วงเวลาที่คนใช้แอพฯ ในมือถือคือ 86%
- 79% ผู้ใช้มือถือบอกว่าเขาใช้แอพฯ เกือบจะทุกวัน
- 90% ของนักช้อปผู้ใช้มือถือ มักจะใช้เพื่อเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อ
- 84% ของนักช้อปผู้ใช้มือถือ จะใช้ดีไวซ์เพื่อช่วยช้อปขณะไปยังร้านค้า รวมทั้งการหาข้อมูลสินค้าและโปรโมชั่นต่างๆ
- ข้อมูลการใช้จ่ายโฆษณาบนมือถือ ปี 2015 อยู่ที่ประมาณ 68,690 ล้านดอลล่าร์ ปี 2016 มากเกินกว่าที่ใช้บนเดสก์ท็อป ปี 2019 คาดว่าอยู่ที่ประมาณ 195,550 ล้านดอลล่าร์
- เปิดอีเมล์
– เปิดผ่านมือถือ 48%
-เปิดผ่านเว็บ 30%
-เปิดผ่าเดสก์ท็อป 22%