ย้อนกลับไปเมื่อกลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ดร.พงศ์ศรันย์ พลศรีเลิศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเคยเขียนลงในเว็บล็อกของตัวเองว่า มูลค่าตลาดต่อปีของธุรกิจสินค้าเพื่อสัตว์เลี้ยงนั้นมีมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตทุกปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20-25 โดยธุรกิจเสื้อผ้าและของเล่นถือเป็นตลาดอันดับ 2 รองจากตลาดอาหารและขนม (สัดส่วนคือ 7,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาท)
ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบัน จำนวนร้านเสื้อผ้าและเครื่องประดับสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่สามารถสร้างชื่อให้แบรนด์ตัวเองแข็งแกร่งนั้นยังมีไม่มากนัก
ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ในขณะนี้คือการตรวจเทรนด์เครื่องประดับน้องหมาน้องแมวเพื่อให้รู้ทิศทางความต้องการของตลาด ซึ่งหนทางในการตรวจแนวโน้มเหล่านี้สามารถทำได้ง่ายมากบนเครือข่าย Instagram
อีกข้อมูลที่น่าสนใจจากเพจของดร.พงศ์ศรันย์ คือผลการวิจัยของนักศึกษาปริญญาโทภาคพิเศษ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หัวข้อ “4 ขา Marketing เปิดขุมทรัพย์หมื่นล้าน ตลาดโฮ่งเหมียว” ซึ่งพบว่า ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ใช้จ่ายเงินให้กับสัตว์เลี้ยง มากกว่า 1,000 บาท/ตัว/เดือน ซึ่งคิดเป็น 5-10 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ โดยค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าอาหาร รองลงมาเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหารเสริมและวิตามิน ค่าเสื้อผ้า/อุปกรณ์ตกแต่ง ค่าบริการอาบน้ำ-ตัดขน และอันดับ 6 คือบริการอื่นอย่างโรงแรมหรือสปา
ขอบคุณภาพจาก @snoopybabe, @coachthebostonterrier, @bullylife, @yourdogcharlie, @ginny_jrt, @digbyvanwinkle และ @colonelmeow