ในช่วงของการเลือกตั้งสหรัฐฯ แน่นอนว่าช่องทางหนึ่งในการติดตามข่าวสารคือผ่าน Social media แต่ปรากฏว่าภาพรวมของการใช้งานกลับลดลง เพราะดูเหมือนว่าผู้คนส่วนใหญ่จะหันไปติดตามผลการเลือกตั้งผ่าน TV เสียมากกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ชมจะเปลี่ยนหน้าจอในการติดตามข่าว แต่ก็ยังพบว่า Facebook มีการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเกือบ 30% ในคืนวันอังคารที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ในขณะที่ทราฟฟิกของ Twitter เองก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน เป็นผลการเก็บสำรวจโดยบริษัท Sandvine ซึ่งติดตามการใช้งานอินเตอร์เน็ทในการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2016
นอกจากนี้ ยังพบว่า Netflix ซึ่งโดยปกติจะครองทราฟฟิกการใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ของทางอเมริกาเหนือ ก็พบว่ามียอดการใช้ที่ลดลงอย่างมาก โดยทราฟฟิกตกลงถึง 25% เมื่อเปรียบเทียบกับวันปกติ ทั้งนี้ Sandvine เชื่อว่าระดับการใช้งานจะกลับมาในสภาพปกติเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าภาพรวมการใช้อินเตอร์เน็ตในคืนเลือกตั้ง พบว่าทราฟฟิคลดลงอย่างน้อย 15% นั่นเป็นเพราะผู้คนติดตามผลการเลือกตั้งผ่านทางทีวีมากกว่าทางเว็บดังเช่นปกติ ข้อเท็จจริงก็คือ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะติดตามดูข่าวจากพวก Breaking news ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่รายงานผ่านทาง TV มากกว่าเว็บ ไลฟ์สตรีม หรือทีวีออนไลน์
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลพบว่า ผุ้คนส่วนใหญ่ใช้ ‘หน้าจอที่ 2’ เช่น แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ในการ engage ข่าวสารที่พวกเขากำลังรับชมอยู่ ทั้งนี้ แท่งสไปค์ที่ขึ้นของ Social media มาจากการที่ผู้คนอ่านและแชร์ความรู้สึกความคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้งลงไปผ่าน Facebook ก็ดี หรือ Twitter ก็ดี
สิ่งนี้สะท้อนให้เราเห็นอะไร เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของพอร์ทัลต่างๆ ที่ user ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์มีมากขึ้นทุกที แต่ข่าวสารส่วนใหญ่เป็นข่าวลวง ข่าวเฟค ไวรัล และเต็มไปด้วยคลิกเบ็ท ก็อาจจะส่งผลให้ผู้คนเบื่อหน่ายกับข่าวสารประเภทนี้ก็ได้ และเพื่อตัดปัญหาการรับข่าวสารประเภทนี้ จึงหันไปชมการรายงานสดทาง TV แทน ซึ่งจุดนี้ก็เป็นเรื่องที่คนทำเว็บน่าจะได้นำมาฉุกคิดเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ดีให้กับผู้อ่านมากขึ้นเช่นกัน .