วิดีโอแนว “With me” มาแรง! ชวนช้อป-ทำอาหาร-อ่านหนังสือด้วยกัน เข้าใจ “จิตวิทยาคนดู” ให้ทำตาม

ที่ผ่านมาคนนิยมดู “YouTube” เพื่อเสพความบันเทิงเป็นหลัก เช่น คอนเทนต์เพลง, ดูรายการวาไรตี้ หรือทอลค์โชว์ ฯลฯ แต่ทุกวันนี้บนแพลตฟอร์ม “YouTube” มีวิดีโอมากมาย หลากหลายประเภท และรูปแบบการนำเสนอมากขึ้น ทำให้คนที่เข้ามาดูวิดีโอบนแพลตฟอร์มนี้ ไม่ใช่แค่รับชมคอนเทนต์บันเทิงเท่านั้น แต่ยังเข้ามาหา “แรงบันดาลใจ” และ “เรียนรู้สิ่งใหม่” หรือสร้างความรู้สึกอยาก “ลุกขึ้นมาทำ” หรือ “สนุกกับกิจกรรมนั้นๆ” แม้สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันทั่วไป

คอนเทนต์วิดีโอรูปแบบนี้เรียกว่า “With me” วิดีโอรีวิวกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่แสนเรียบง่าย แต่เรียล และสามารถกระตุ้น หรือสร้างแรงจูงใจให้คนดูมาทำตาม!

Laura Ludena หัวหน้าฝ่ายวิจัยโฆษณาบน YouTube ได้ทำการศึกษาคอนเทนต์บน YouTube และทำความเข้าใจพฤติกรรมคนดู YouTube ทั่วโลก พบว่า วิดีโอรูปแบบ “With Me” เป็นวิดีโอที่นำเสนอกิจกรรมในชีวิตประจำวันแสนเรียบง่าย เช่น ช้อปปิ้ง, ทำอาหาร, นั่งเรียน – นั่งอ่านหนังสือ, ออกกำลังกาย, ทำความสะอาดบ้าน แต่กลับมีพลัง Empower คนดูทำให้หันกลับมา “เรียนรู้สิ่งใหม่” หรือสิ่งที่เขาคุ้นเคย และทำอยู่แล้ว ให้เป็นเรื่องสนุกขึ้น

ข้อมูลสถิติการเติบโตของวิดีโอแนว “With Me” ทั่วโลก มีแนวโน้มเติบโต เช่น

• เยอรมนี วิดีโอ “Study with me” โตสองเท่า

• ญี่ปุ่น วิดีโอ “Cook with me” โตสามเท่า

• สหรัฐอเมริกา วิดีโอ “Clean with me” โตสามเท่า

• อินเดีย วิดีโอ “Shop with me” โตสามเท่า

• บราซิล วิดีโอ “Exercise with me” โตมากถึง 20 เท่า

ผลวิจัยบอกถึงสาเหตุว่า ทำไมคนถึงชอบดูวิดีโอแนว “With me” ที่รีวิวการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันอันแสนเรียบง่าย ทว่ากลับสร้าง Impact ต่อคนดู นั่นเพราะช่วยให้คนดูรู้สึก “มั่นใจขึ้น” ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันให้บรรลุเป้าหมาย

เช่น สร้างแรงกระตุ้นลุกขึ้นมาทำความสะอาดบ้าน เก็บกวาดข้าวของเครื่องใช้ให้สะอาด – ให้เป็นระเบียบ หรือสร้างกำลังใจให้อ่านหนังสือจนจบเล่ม หรือวิดีโอช้อปปิ้ง และแต่งหน้าไปด้วยกัน หรือแม้แต่วิดีโอที่ทำให้คนดูรู้สึกสนุกกับการตัดหญ้าหน้าบ้าน

นอกจากนี้ผลวิจัยยังบอกอีกว่า การได้เห็นคนในวิดีโอ ซึ่งเป็นคนทั่วไป ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเขาเองในการลงมือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้มากกว่า แสดงให้เห็นว่าผู้คนทั่วโลกหันมาดูวิดีโอเหล่านี้ เพื่อสร้างแรงกระตุ้น และแรงบันดาลใจ

ตัวอย่างหนึ่งของ “Study with me” เช่น “Jamie” ปัจจุบันเธอเป็นแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน (Emergency Medicine) และเป็น YouTube Creator ทำช่อง “TheStrive Studies” ทำวิดีโอ Real-time Moment ใช้เวลาอ่านหนังสือเรียน-หนังสือวิชาการ โดยตั้งกล้องทิ้งเอาไว้ และเธอก็จะอ่านหนังสือ ขีดๆ เขียนๆ และใช้คอมพิวเตอร์หาข้อมูลไปด้วย เช่นเดียวกับเวลาที่เราอ่านหนังสือเรียน เฉลี่ยความยาววิดีโอตั้งแต่ 30 กว่านาที ไปจนถึง 2 ชั่วโมงกว่า

เพื่อชวนให้คนดูมาอ่านหนังสือไปพร้อมกับเธอ โดยที่คนดูสามารถเลือกได้ว่าชอบเวอร์ชั่นมีเสียงดนตรี เพราะบางคนชอบอ่านหนังสือแล้วมีเสียงดนตรีเปิดเบาๆ คลอไปด้วย และเวอร์ชั่นไม่มีเสียงดนตรี สำหรับคนที่อยากอ่านแบบเงียบๆ

คนดู YouTube 70% เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่จากแบรนด์ – จับโอกาสสร้างวิดีโอ “With me” เข้าถึงผู้บริโภค

เมื่อทุกวันนี้ “YouTube” กลายเป็นแพลตฟอร์มเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นเมื่อเทรนด์วิดีโอแนว “With me” เติบโตทั่วโลก จึงเป็นโอกาสของแบรนด์ใน Category ต่างๆ จับโอกาสของเทรนด์นี้ ครีเอทวิดีโอแนว “With me” เพื่อให้คนดูรู้สึกมีส่วนร่วม และเกิด Experience ไปกับแบรนด์

ผลวิจัยเผยว่า 70% ของผู้ใช้ YouTube เปิดใจที่จะเรียนรู้โปรดักต์ใหม่จากแบรนด์บนช่องทางนี้ ดังนั้น นักการตลาดควรจับโอกาสใหญ่นี้ ครีเอทวิดีโอแนว With me มานำเสนอให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการเข้าถึง

เช่นกรณีแบรนด์เครื่องสำอาง “Glossier” ที่เพิ่งถือกำเนิดเมื่อกว่า 6 ปีที่แล้วโดย Beauty Blogger สาว “Emily Weiss” ผู้ก่อตั้งบล็อก “Into The Gross” ก่อนจะมาปลุกปั้นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม “Glossier” ที่ใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึง YouTube โดยทำวิดีโอแนว With Me เข้าไปอยู่ใน Playlist “Get Ready With Me” เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งการทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และใช้เป็นช่องทางสื่อสาร ส่งผลให้กลายเป็นแบรนด์ความงามที่ดังในกลุ่มคนรุ่นใหม่

Source : Think with Google