คึกคัก! บริษัทเทคจีนเรียงแถวเปิดตัว AI แบบ ChatGPT ด้านรัฐบาลจีนเตรียมออกกฎกำกับดูแล

เทคโนโลยี Generative AI กลายเป็นอนาคตที่โลกต้องก้าวไปอย่างไม่สงสัย และจะเป็นทิศทางที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกต่างต้องแข่งกันพัฒนา เช่นเดียวกันกับในประเทศจีนที่เวลานี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่างออกมาเปิดตัว Generative AI แบบเดียวกับ ChatGPT แบบตามกันมาติดๆ

ล่าสุด Nikei Asia รายงานว่า Alibaba’s Cloud ได้เปิดตัวโมเดล AI ตัวใหม่ในงาน Alibaba Cloud Summit โดย AI ดังกล่าวมีชื่อว่า Tongyi Qianwen เป็น Generative AI แบบ ChatGPT ที่มีความสามารถสื่อสารได้แบบมนุษย์ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ มีความสามารถในการร่างอีเมล์ แก้โจทย์คณิตศาสตร์ เขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงสามารถรับรู้ภาพดิจิทัล และสร้างภาพจากข้อความได้

โดย Alibaba ระบุว่าจะนำ Tongyi Qianwen ไปใช้กับ บริการอย่าง DingTalk บริการ Digital Workplace แบบเดียวกับ Slack และนำไปใช้กับระบบ voice assistant อย่าง Tmall Genie ด้วย นอกจากนี้ Alibaba’s Cloud ยังมีแผนที่จะนำ Tongyi Qianwen ไปใช้กับธุรกิจต่างๆของบริษัททั้งการสื่อสารในองค์กร, อีคอมเมิร์ซ, search, navigation และ entertainment ด้วย

การเปิดตัว Tongyi Qianwenของ Alibaba มีขึ้นหลังจาก Baidu บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอีกบริษัทเพิ่งเปิดตัว Ernie Bot ที่มีการทำงานแบบ ChatGPT ที่ปล่อยออกมาให้ทดสอบกันไปแล้วเมื่อเดือนก่อนหน้า ขณะที่บริษัท SenseTime อีกหนึ่งบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ของจีน ก็เพิ่งเปิดตัว SenseNova เอไอโมเดลที่มีความสามารถหลากหลายเช่น ความสามารถในการรับรู้ภาพดิจิทัล, การสื่อสารแบบมนุษย์, การสร้างคอนเทนต์ เป็นต้น

นอกจากนี้แล้วยังมีบริษัทด้านความปลอดภัยอย่าง Qihoo 360 ที่เปิดตัว AI โมเดลของตัวเองไปก่อนหน้านี้ รวมไปถึงบริษัทอย่าง iFlytek บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ของจีนที่เตรียมเปิดตัวโมเดล AI ของตัวเองในเดือนพฤษภาคมนี้ด้วยเช่นกัน

การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ของบริษัทยักษ์ใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาแน่นอนว่าสร้างความกังวลให้กับหน่วยงานกำกับดูแลโลกไซเบอร์ของรัฐบาลจีนเช่นกัน โดย Bloomberg รายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลอย่าง Cyberspace Administration of China หรือ CAC ที่ออกมาเปิดเผยผ่านร่างกรอบแนวปฏิบัติที่ระบุว่าผู้ให้บริการ AI จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเพื่อสร้างความโปร่งใสเกี่ยวกับข้อมูลที่นำมาเทรนโมเดลขนาดใหญ่ รวมไปถึงควบคุมข้อมูลที่อ่อนไหวต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าสร้างความกังวลว่าการกำกับดูแลอาจส่งผลกระทบกับพัฒนาการของอุตสาหกรรม AI ของจีนได้

อย่างไรก็ตามจีนไม่ใช่ประเทศแรกที่เตรียมที่จะให้หน่วยงานของรัฐเข้ามาควบคุมเทคโนโลยี AI เนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “อิตาลี” กลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ประกาศแบน ChatGPT เอไอของบริษัท OpenAI ที่สร้างความฮือฮาไปทั่วโลกก่อนหน้านี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ผู้นำอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของโลกนับสิบคน ที่หนึ่งในนั้นมี Elon Musk ก็ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้ระงับการเทรน AI บางระบบลงอย่างน้อย 6 เดือนโดยอ้างถึง “ความเสี่ยงจริงจังที่มีต่อสังคมและมนุษยชาติ”

ปรากฏการณ์นี้นอกจากจะทำให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะในประเทศจีนที่ไม่แตกต่างจากโลกตะวันตกแล้ว ยังพอจะทำให้เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคตด้วยนั่นก็คือบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลจากภาครัฐที่จะมีมากขึ้นกับอุตสาหกรรม AI แบบที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับเทคโนโลยีสกุลเงินดิจิทัลก่อนหน้านี้ด้วยนั่นเอง