ปัจจุบันงาน HR เข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรที่มีความหลากหลายของพนักงานในแต่ละช่วงอายุ หรือ Generation น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าปัจจุบันหลายๆ องค์กรเผยว่ากลุ่มคน Gen Y เริ่มเข้ามามีบทบาทในองค์กรมากขึ้น และมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นในองค์กร แต่ทว่าแนวความคิดทัศนคติในการทำงานค่อนข้างแตกต่างอย่างมากกับกลุ่มคน Baby Boom และคน Gen X ซึ่งอยู่มาก่อนในองค์กร ฉะนั้น จึงอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญอย่างยิ่งของหน่วยงาน HR ที่จะประสานกลุ่มคนทั้งสาม Generation นี้ให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน และให้เกิดข้อขัดแย้งน้อยที่สุด
ดังเช่น AIS บริษัทผู้นำด้าน Telco อันดับ 1 ของเมืองไทย ซึ่งมีพนักงาน Gen Y มากถึง 70% มีพนักงาน Gen X ถึง 28.6% และมีพนักงาน Baby Boom อยู่ 2.4% แต่พนักงานทั้ง 3 รุ่นนี้ ก็สามารถทำงานกันได้อย่างกลมเกลียว จนกระทั่งได้รับรางวัล สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2016 ซึ่งถือว่าเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของชาว AIS ดังนั้น Marketing Oops! จึงได้มีโอกาสเข้ามาพูดคุยกับ ผู้บริหาร HR คนสำคัญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในการบริหารบุคคลและองค์กรจนสามารถทำให้ทุกๆ ฝ่ายรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกันได้ เธอคนนั้นคือ กานติมา เลอเลิศยุติธรรม Chief Human Resources Officer หรือ “พี่เจี๊ยบ” ของชาว AIS ทุกคนนั่นเอง
AIS องค์กรที่ตื่นรู้
ในโอกาสที่ได้พูดคุยกับ “พี่เจี๊ยบ” ที่น่ารักของชาว AIS พี่เจี๊ยบเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรที่สำคัญหรือ Transformation โดยบอกว่า เป็นความว่องไวของ AIS ที่จะได้ตื่นรู้ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้น AIS เราจะต้องเห็นว่าตอนนี้ Positioning ของเราในตลาดอยู่ที่ไหนแล้ว และเราจะต้องทำอะไรบ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่ทางคณะผู้บริหารเห็นทิศทางคือการทำ Transformation ขององค์กร เนื่องจากว่าถ้าเรารอให้ประสบปัญหาก่อน หรือรอให้เกิดปัญหาก่อนแล้วค่อยมาแก้ตรงนั้นแล้ว มันอาจจะช้าเกินไป มันอาจจะไม่ทัน
“ฉะนั้นด้วย Positioning ในความที่เราเป็นลีดเดอร์ ดังนั้น เราจะต้องรีบทำอะไรก่อนที่มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะในแง่ของความต้องการของลูกค้า หรือในแง่ของตลาดแรงงานที่มันเปลี่ยนไป โจทย์ของพี่คือการทำ Transformation ซึ่งมักจะเป็นโจทย์ที่พี่ได้รับเสมอๆ เวลาที่ได้ย้ายไปแต่ละที่”
นอกจากนี้ ความท้าทายที่สำคัญของการทำหน้าที่ HR คือการผสานความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนแต่ละช่วงวัยในองค์กรซึ่งเป็นงานที่ท้าทายมาก โดยพี่เจี๊ยบ เล่าว่า องค์กรเรามี Gen Y อยู่ประมาณ 70% ด้วยความที่มีพนักงานเป็นคนกลุ่มนี้สูงที่สุด เราในฐานะผู้บริหารองค์กรจึงลืมคนกลุ่มนี้ไม่ได้เลยว่าเขามองหาอะไรอยู่ เช่นความสนุก ความท้าทาย และพื้นที่ที่จะแสดงศักยภาพ โดยมีรุ่นพี่คอยช่วยเหลือและแนะนำ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่สำคัญของคนที่เป็นผู้นำก็คือ การถ่ายทอดประสบการณ์ที่เรามีไปผสานกับศักยภาพที่น้องๆ มี เพื่อช่วยกันนำพาองค์กรเติบโตไปอย่างยั่งยืน สิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ AIS ขยายตัวเร็วได้กว่าคนอื่น
รางวัล “นายจ้างดีเด่น”
กับ รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2016 ซึ่งจัดขึ้นโดย บริษัท เอออน ฮิววิท (ประเทศไทย) ร่วมกับสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พี่เจี๊ยบ กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า ต้องบอกว่า AIS รู้สึกภูมิใจ ที่เราได้รับเกียรติได้รับรางวัลนี้ และรางวัลนี้เป็นการตัดสินจากข้างนอกไม่ได้ตัดสินกันเองจากคนข้างใน ไม่ได้แค่พนักงานไปลงคะแนนสูงๆ แล้วได้มา ไม่ใช่แค่นั้น มีการเข้ามาสัมภาษณ์ แม้แต่ CEO ก็ต้องทำแบบสอบถาม ซึ่งสิ่งนี้น่าจะเป็นตัวชี้วัดตัวหนึ่งได้ว่าการ Transformation ของ AIS น่าจะมาได้ถูกทาง และได้รับการยอมรับกับองค์กรภายนอก
“คนมักคิดว่ามันเกิดจากคะแนนความพึงพอใจของพนักงานที่มีต่อองค์กร แต่จริงๆ แล้วมันมีอะไรที่ลึกไปกว่านั้น เช่น การประเมินพัฒนาการในด้านต่างๆ มีการเข้ามาสัมภาษณ์ผู้บริหาร มีการเข้ามาดูโปรแกรมในการพัฒนาพนักงานต่างๆ เป็นอย่างไรบ้าง มีการดูแลพนักงานอย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ได้มีแค่ต้องจ่ายเยอะๆ เท่านั้น รางวัลนี้จึงเป็นที่สุดแห่งความภูมิใจของชาว AIS ทุกคน”
วัฒนธรรมองค์กรของ AIS คือ “ความเป็นทีมเวิร์ค”
พี่เจี๊ยบ ยังกล่าวด้วยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เราได้รับรางวัลนี้ น่าจะมาจากวัฒนธรรมองค์กรที่น่ารักของชาว AIS นั่นคือความเป็นทีมเวิร์ค เพราะชาว AIS ทุกคนมีความผูกพันกับองค์กรอย่างจริงจัง มีความจงรักภักดีกับองค์กรสูง อย่างเวลาที่มีอีเวนท์หรือเหตุกาณณ์ต่างๆ เราจะเห็นความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของพนักงาน อย่างล่าสุดการประมูลคลื่น เราจะเห็นคน AIS ต่างจับจ้องร่วมลุ้นและเชียร์ไปด้วยกัน เวลาที่ได้ดูตามฟีด Facebook ของพนักงาน ทุกคนก็จะจดจ่ออยู่กับความเคลื่อนไหวในองค์กรอย่างมาก เพราะฉะนั้น ตัวตนของคน AIS คือ AIS มีความเป็นทีม
“และนอกจากความภักดีต่อองค์กรแล้ว AIS ยังให้ความสำคัญเรื่องความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าด้วย ต้องบอกว่า ลูกค้ามาเป็นอันดับที่ 1 เสมอ เพราะฉะนั้นเวลาที่แสดงความเป็นตัวเรา หรือความเป็น AIS หนึ่งในนั้นคือความพร้อมด้านศักยภาพในการดูแลลูกค้าเป็นสำคัญ”
เคล็ดลับการเชื่อมโยงบุคคล คือการมองแบบ Gen C
อย่างที่เกริ่นตอนต้นหน้าที่สำคัญอีกอย่างของ HR คือการผสานคนทุก Gen ให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันให้ได้ ซึ่งพี่เจี๊ยบได้แนะนำ Gen ใหม่ให้เราได้รู้จักด้วย ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมคนทุก Gen เข้าหากัน โดยกล่าวว่า ในบริบทของทั้ง 4 Gen นี้ ก็มีศัพท์ใหม่ขึ้นมาเขาเรียกว่า Gen C คือ Generation Connect ซึ่งไม่ได้พูดถึงอายุแล้ว แต่พูดถึงพฤติกรรม ตรงนี้เป็นตัวตอบโจทย์ของ AIS ได้ดีว่า ทำไมในความหลากหลายของ Gen ใน AIS ทำไมเราจึงอยู่ร่วมกันได้อย่างแฮปปี้ เพราะคาแร็คเตอร์หนึ่งที่เรามีคือ ความเป็น Gen C คือความสัมพันธ์เรื่องอายุไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ความเชื่อมโยงเรื่องพฤติกรรมต่างๆ เข้าหากัน นำความชอบเข้าหากัน ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็น Gen ไหนก็สามารถ Connect เข้าหากันได้ สิ่งนี้นับเป็นความท้าทายของเรา ซึ่งก็คิดว่าคงไม่ใช่มีแค่ AIS ที่เดียวน่าจะเกิดขึ้นในหลายๆ องค์กร
“การเปิดใจยอมรับเป็นเรื่องสำคัญ มันก็จะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ ผู้บริหารจะต้องพยายามมองความแตกต่างเหล่านี้ให้ได้ จะทำให้องค์กรอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข”
การวิ่งหนีความสำเร็จของตัวเอง คือความท้าทายให้กับคนรุ่นใหม่
ในเมื่อ AIS คือผู้นำในอุตสาหกรรมมาโดยตลอด อะไรจะเป็นแรงผลักดันที่ทำให้คนรุ่นใหม่อยากจะเข้ามาทำงานในองค์กร บริษัทยังจะมีความท้าทายให้กับคนกลุ่มนี้ได้หรือ ซึ่งพี่เจี๊ยบตอบคำถามนี้อย่างมั่นใจว่า มันคือ การวิ่งหนีความสำเร็จของตัวเอง
“เมื่อใดก็ตามที่ AIS มองว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วและดื่มด่ำอยู่กับความสำเร็จนั้น แปลว่าเราหลงทาง เพราะว่าโลกมันเปลี่ยนทุกวัน แต่ว่าเราโชคดีตรงที่ AIS ไม่ได้หลงทางอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้บ่อยครั้งที่ AIS จะลุกไปคุยเรื่องคนอื่น หรือเปรียบเทียบตัวเองกับใคร ไม่ใช่ว่าเราทนงว่าเป็นที่ 1 หรืออะไร แต่ทุกวันเราแข่งกับตัวเราเอง เนื่องจาก success story เราก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 แล้ว สิ่งที่เราทำคือเราวิ่งหนีความสำเร็จในอดีต เพื่อให้เราเติบโตไปได้อย่างยั่งยืน นั่นคือความท้าทายมากกว่า”
พี่เจี๊ยบ กล่าวด้วยว่า เมื่อมันมีบริบทความคิดแบบนี้อยู่ด้วยกันแล้ว เมื่อ Gen ใหม่เข้ามา เขาได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่เราผ่านมา 27 ปี ในระหว่างนั้นเขาจะต้องวิ่งเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์ที่เราผ่านมา ในขณะเดียวกันก็จะต้องช่วยกันวิ่งหนีความสำเร็จในอดีตที่มี นี่คือความชาเลนจ์ของคน AIS เราไม่สามารถไปมองเทียบตัวเองกับคนโน้นคนนี่ได้ตลอดเวลา แต่ถามว่าต้องเรียนรู้จากคนอื่นไหม ต้องเรียนรู้ แต่ที่สุดของการแข่งคือการแข่งเพื่อการเป็นที่ 1 อย่างยั่งยืน อันนี้แหละคือสิ่งที่ท้าทายเรา
คำแนะนำแก่น้องๆ Gen Z ที่กำลังก้าวมาสู่ชีวิตการทำงาน
พี่เจี๊ยบ ให้คำแนะนำแก่น้องๆ รุ่นใหม่ที่จะมาสู่ตลาดแรงงานว่า สำหรับน้องๆ รุ่นใหม่ต้องถือว่าเขาโตมาในบริบทที่โชคดีมาก เพราะว่าในสภาวะสังคมที่มีการต่อสู้มากขึ้นทำให้ภูมิคุ้มกันของเขาจะดีกว่าในยุคก่อนๆ แต่สิ่งสำคัญไม่ว่าจะคนยุคไหน เวลาที่เราเข้ามาในสถานที่ทำงานใหม่ เรื่องของ Observation เป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะช่วยให้เข้าใจได้ว่าคนเขาทำอะไร และทำทำไม
“และอีกสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ว่า Gen ไหน คือการยอมรับคนแต่ละคนที่เขาเป็น เรื่องของความหลากหลาย Diversity เป็นเรื่องสวยงาม ถ้าที่ไหนไม่มี Diversity ที่นั่นจะเป็นที่ๆ มีความจำกัดทางความคิด และไม่สามารถสร้างให้เกิดโอกาสและนวัตกรรมต่างๆ ได้เลย”
ด้วยแนวคิดของการเปิดใจกว้างพร้อมยอมรับสิ่งใหม่ๆ พร้อมกับการปรับตัวอยู่เสมอ ทำให้ AIS สามารถคงความเป็นผู้นำด้าน Telco มาได้อย่างยาวนาน ซึ่งจุดนี้เองหลายองค์กรที่กำลังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาในสัดส่วนที่มากขึ้นและเริ่มมีบทบาทสำคัญในองค์กร ก็น่าจะนำไปเป็นกรณีศึกษาเพื่อหาหนทางในการทำงานร่วมกันได้ เพราะเชื่อมั่นว่าไม่ว่าจะคนยุคไหนต่างก็มีศักยภาพในแบบของตัวเอง ดังนั้น หากนำสิ่งเหล่านี้มาเติมเต็มซึ่งกันและกันก็จะทำให้องค์กรของเราเข้มแข็งและยั่งยืนได้ในที่สุด