การศึกษาเรียนรู้ในการทำธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้องอาศัยประสบการณ์ความรู้ในหลากหลายด้าน การศึกษาหาความรู้ และสั่งสมประสบการณ์ รวมถึงการได้ลองผิดลองถูก แม้จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นบ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นก็เสมือนเป็นเกราะป้องกันในการดำเนินธุรกิจให้เรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น
สงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ จำกัด (มหาชน) ถือเป็นอีกหนึ่งบุคคลตัวอย่างที่เขากล้าจะโลดแล่นลงมาพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ ถ้าย้อนกลับไปนับเป็นเวลากว่า 65 ปี ที่ “ชาญอิสสระ” ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้วงการอสังหาริมทรัพย์ของไทย ด้วยหัวใจที่มีความมุ่งมั่นที่อยากจะต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ของครอบครัว ให้สร้างรายได้ ผลตอบแทนที่ทวีคูณขึ้นไป แม้ช่วงแรกในการดำเนินธุรกิจจะมีติดขัดบ้าง แต่ด้วยความกล้าที่จะเข้ามาทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามที่ใฝ่ฝันนั้นไม่เคยทำให้ สงกรานต์ อิสสระ ย่อท้อ และก็เป็นสิ่งพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นเป็นที่ประจักรแล้วว่าทุกวันนี้ ชื่อของชาญอิสสระ คือผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ที่สร้างความแตกต่างด้านความคิด นวัตกรรม ความทันสมัย ออกมาตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยอย่างไม่หยุดยั้ง
โครงการเริ่มแรกที่ สงกรานต์ อิสสระ ได้ลงมือทำเพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเอง คือ การจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท ซี.ไอ.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เพื่อพัฒนาที่ดินกว่า 3 ไร่ ติดถนนพระราม 4 ให้กลายเป็น อาคาร “ชาญอิสสระทาวเวอร์ 1” อาคารสำนักงานสูง 27 ชั้น ซึ่งนับเป็นอาคารสูงแรกๆ ของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของชาญอิสสระในปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลา 65 ปี ความสำเร็จของชาญอิสสระ มาจากแนวคิด “คิดนอกกรอบ ทำในกรอบ” ซึ่งหมายถึง การคิดสร้างสรรค์ การใช้ปัญญาพิจารณา และความถูกต้อง ซึ่งแนวคิดดังกล่าวนี้เป็นสิ่งที่ สงกรานต์ อิสสระ ยึดถือเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจ และสานต่อหลักแนวคิดนี้ส่งต่อไปยังเจเนอเรชั่นรุ่นต่อๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นรุ่นลูกๆ ตั้งแต่วรสิทธิ อิสสระ ลูกชายคนโต, ดิฐวัฒน์ อิสสระ ลูกชายคนกลาง รวมไปถึงกรัชเพรช อิสสระ ลูกสาวคนสุดท้อง และทีมงานในองค์กรทุกคน ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย จึงก่อเกิดเป็นทีมงานที่แข็งแกร่งที่สุดของชาญอิสสระในเวลานี้
ไขรหัสลับความสำเร็จ 65 ปีชาญอิสสระ
ทั้งนี้ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไม่ใช่กระแสที่จะต้องทำตามกัน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ชาญอิสสระถือเป็นอีกหนึ่งองค์กร ที่ให้ความสำคัญกับการใช้นวัตกรรมมาโดยตลอด ทั้งการศึกษา พัฒนา และนำมาใช้เพื่อสร้างความแตกต่างให้ทุกโครงการของชาญอิสสระ อีกยังเดินหน้าศึกษานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า ซึ่งนี่คือความใส่ใจ ในแบบฉบับของชาญอิสสระ
หากนับตั้งแต่โครงการชาญอิสสระทาวเวอร์ 1 จนถึงวันนี้ ชาญอิสสระได้พัฒนาโครงการมามากมาย อาทิ โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต, ดิ อิสสระ ลาดพร้าว , ดิ อิสสระ เชียงใหม่, โครงการบ้านสีตวัน ปากช่อง-เขาใหญ่, โครงการบ้านทิวทะเล อความารีน, โครงการบลู,โครงการอิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม 9, โครงการบ้านอิสสระ บางนา,โรงแรมบาบาบีช คลับ จังหวัดภูเก็ต พังงา และ หัวหิน รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่เป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร
จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ “ชาญอิสสระ ภูมิใจพัฒนา สร้างสุขที่ยั่งยืน” จึงเป็นที่มาของแนวคิดในการฉลองครบรอบ 65 ปี ด้วยแนวคิด “Happy Together” เป็นการมอบความสุขให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งลูกค้า พันธมิตร และทีมงาน ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ล้วนเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ และเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จที่ทำให้ชาญอิสสระประสบความสำเร็จมาได้ 65 ปีอย่างเต็มภาคภูมิ
และเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจและสนับสนุนโครงการต่างๆของชาญอิสสระ มาตลอด 65 ปี จึงได้จัดโปรโมชั่น “Big Thanks” 65 ปีมีครั้งเดียว กับ 16 โครงการพรีเมี่ยม ถือเป็นแคมเปญใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
“คิดนอกกรอบ ทำในกรอบ”
ส่วนหนึ่งของหนังสือคิดนอกกรอบ ทำในกรอบ ที่จัดทำเนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปี ของชาญอิสสระ คุณสงกรานต์ ได้เล่าถึงปรัชญาการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จว่า “การคิดนอกกรอบ เป็นสิ่งที่ผมทำอยู่เสมอ ผมมักจะมองไปทุกๆ ด้าน สิ่งที่กำลังเกิดอยู่ในปัจจุบัน สิ่งต่างๆ รอบข้าง มองไปข้างหลังคือ ประสบการณ์และการเรียนรู้ และมองไปข้างหน้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับอาชีพพัฒนาอสังหาริมทรัพย์”
ซึ่งทั้งหมดนี้ ต้องอยู่ภายใต้การเลือกทางเดิน และกระทำในสิ่งที่อยู่ในกรอบศีลธรรม ความดีงาม และความ ถูกต้อง ตลอดระยะเวลา 65 ปี ชาญอิสสระ ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านความคิด การบุกเบิกในการใช้นวัตกรรม และเครื่องมือทางการเงินต่างๆ อาทิ
• ทำโครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยที่ชายหาดชะอำและจดทะเบียนเป็นอาคารชุดแรกๆ ในจังหวัดเพชรบุรี
• เป็นบริษัทแรกที่รวมผู้ออกแบบชั้นนำของประเทศไทยมาออกแบบบ้านเดี่ยว 3 ชั้นในโครงการเดียวกัน
• เป็นผู้ใช้เครื่องมือทางการเงิน อาทิ การนำอาคารสำนักงาน และโรงแรมศรีพันวาเข้า Property Fund แปลงสภาพกอง Property Fund เป็น REIT ซึ่งชาญอิสสระมีส่วนในการผลักดันกฎระเบียบต่างๆ ที่จะรองรับการแปลงสภาพครั้งนี้จนสำเร็จ และยังเป็นเจ้าแรกที่แปลงสภาพได้สำเร็จเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมา
• เป็นพาร์ทเนอร์กับ SCG Heim ในการนำนวัตกรรมการสร้างบ้านแบบ Modular มาผสมผสานกับการก่อสร้างบ้านแบบเดิม แล้วพัฒนามาเป็นบ้านที่เหมาะกับสภาพอากาศของเมืองไทย จนกลายเป็นโครงการบ้านสีตวัน (Baan Sitawan) ปากช่อง-เขาใหญ่ บ้านเดี่ยวดีไซน์รีสอร์ท ที่ชาญอิสสระ และ SCG Heim ร่วมกันพัฒนาแบบบ้าน
เข้าถึงทุกรายละเอียดการออกแบบที่อยู่อาศัย
“อสังหาริมทรัพย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย หากจะทำให้ดีไร้ปัญหา เราจะต้องเข้าถึงรายละเอียดในทุกๆ เรื่อง และทุกๆ ขั้นตอน”
ด้วยแนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ชาญอิสสระจึงได้พัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีฟังก์ชั่นใช้สอยลงตัว ง่ายต่อการบำรุงรักษา เพื่อความลงตัวของการใช้ชีวิตให้มีความสุขในทุกระดับ และยังคงมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อมาตอบโจทย์ทุกรสนิยม และไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าอย่างไม่หยุดนิ่ง
ทายาทรุ่นที่ 3 สืบทอดความสำเร็จ
“คนเก่งคือเก่งในวิชาชีพ และดีในด้านคุณธรรม เราต้องมีความไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ ต้องรู้สึกปรารถนาดีต่อกัน บริษัทของเราจะประสบความสำเร็จไม่ได้ หากไม่มีพนักงานที่มีความสามารถและรักองค์กร ผมจึงสำนึกในบุญคุณของพนักงานและรักทุกคนเหมือนลูกเหมือนน้อง”
เมื่อเบื้องหลังแบบความสำเร็จของชาญอิสสระมาจาก “พนักงานที่มีความสามารถ” คงจะขาดสองท่านนี้ไปไม่ได้ นั่นก็คือ คุณวรสิทธิ อิสสระ ลูกชายคนโตและ คุณดิฐวัฒน์ อิสสระ ลูกชายคนรอง สองผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว ทายาทรุ่น 3 ที่เข้ามารับไม้ต่อจากคุณชาญ และคุณสงกรานต์ จึงมั่นใจได้ว่าชาญอิสสระภายใต้การบริหารงานของทั้งสองท่านนี้ จะเป็นการส่งต่อความสำเร็จจากรุ่นสู่รุ่น
คุณวรสิทธิ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ เรสซิเดนซ์ จำกัด นับเป็นผู้ปลุกปั้นโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในปีที่ผ่านมาศรีพันวาได้เปิดตัวเฟสใหม่อย่าง เดอะ ฮาบิตะ (The Habita) ห้องพักโรงแรมหรู 2 อาคาร จำนวน 30 ห้องพัก และได้มีการแปลงสภาพกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (“กองทรัสต์ SRIPANWA”) ไปเมื่อปลายปี 2559 โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์กว่า 10,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
65 ปี ชาญอิสสระ ปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล
ในส่วนของการตลาด คุณดิฐวัฒน์ อิสสระ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปีนี้จะเน้นการใช้ Social Media มากขึ้น ด้วยการทำ Line@ “@charnissara” ปรับปรุงเว็บไซต์ www.charnissara.com ให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทุกโครงการในเครือของบริษัทมาอยู่รวมกัน ใช้ Live-Stream Video เพื่อสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่นต่างๆ สำหรับรองรับการทำงานของบริษัทและลูกบ้านทุกโครงการ
นอกจากการบริหารงานของคน 3 รุ่นแล้ว ชาญอิสสระยังมีพาร์ทเนอร์ที่ดีตั้งแต่สมัยผู้บริหารรุ่นแรก ที่คอยร่วมสุขและทุกข์ด้วยกัน อาทิ กลุ่มพิธานพานิชย์, บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน), บริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน), กลุ่มวิภาพล, บริษัท จุนฟาเรียลเอสเตท จำกัด และบริษัท เทียนหยวน จำกัด เมื่อรวมกับการมีทีมเวิร์คที่แข็งแกร่ง ทำให้ชาญอิสสระพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้า หรือผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง
หากเปรียบชาญอิสสระเป็นคนอายุ 65 ต้องบอกว่าเป็นหนุ่มใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ในวัยเกษียณ แต่เป็นคนที่มีหัวคิดทันสมัย ก้าวทันเทคโนโลยี นำเทรนด์ และคิดนอกกรอบ ทำให้ย่างก้าวสู่ปีที่ 66 นี้ เป็นก้าวที่แข็งแรงที่สุดของชาญอิสสระเท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะการมีวิสัยทัศน์ที่ดี มองไปข้างหน้าตลอดเวลา ความต่อเนื่องของการส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น ที่จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ และทำให้องค์กรอยู่รอดได้
จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ “คิดนอกกรอบ ทำในกรอบ” จึงเป็นที่มาของการฉลองครบรอบ 65 ปี ด้วยแนวคิด “Happy Together” มุ่งสร้างความสุขให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น ผู้รับเหมา และสถาบันการเงิน ชาญอิสสระ ได้จัดโปรโมชั่น “Big Thanks” 65 ปีมีครั้งเดียว กับ 16 โครงการระดับพรีเมี่ยม เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ และลูกค้าที่มียอดการซื้อโครงการในเครือชาญอิสสระรวมกันสูงสุด ณ สิ้นวันที่ 31 ตุลาคม 2560 จำนวน 65 ท่านแรก รับแพ็กเกจจากโรงแรมศรีพันวา จ.ภูเก็ต
นอกจากนี้ ชาญอิสสระยังได้มอบของขวัญให้แก่ลูกค้าทุกโครงการของชาญอิสสระ มูลค่า 13,000 บาทอีกด้วย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://charnissara.com , Facebook : Charn Issara, Instagram : Charn Issara และ YouTube : Charn Issara Group