ถอดรหัสการ Repositioning ใหม่ OfficeMate สู่การเป็น Quick Win Partner “มีครบ จบไว” รุกจับกลุ่มเซ็กเมนต์อุตสาหกรรม ตั้งเป้าลูกค้าโรงงานโตเพิ่มเท่าตัว

  • 910
  •  
  •  
  •  
  •  

 

เพราะเรื่องของความไวจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของธุรกิจยุคใหม่ ล่าสุด “ออฟฟิศเมท” จับจุดการทำธุรกิจในยุค Next Normal สามารถปรับตัวและทรานส์ฟอร์มตัวเองสอดรับดิจิทัลเทรนด์และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ได้ประกาศ Repositioning ใหม่ ก้าวสู่การเป็น แบรนด์ Quick Win Partner ที่ไม่ใช่แค่ขวัญใจ “ออฟฟิศ” แต่ตั้งเป้าเป็นพันธมิตรที่หนึ่งในใจคนทำธุรกิจ มาพร้อมจุดขายสำคัญ “มีครบ จบไว” แบบ One-Stop Service ช่วยผู้ประกอบการ “ประหยัดเวลา” และ “ประหยัดต้นทุน” ซึ่งนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

“ออฟฟิศเมท” (OfficeMate) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ประกาศยกเครื่องแนวทางการทำธุรกิจผ่านการปรับจุดยืนของแบรนด์ใหม่ในฐานะ Quick Win Partner เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรในการสร้างธุรกิจไว ให้ทุกธุรกิจวิน พร้อมยืนเคียงข้างผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรมในการปรับตัวเข้ากับการทำธุรกิจวิถีใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น ในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ เราได้มีโอกาสพูดคุยถึงเบื้องหลังกับผู้บริหารคนสำคัญ ได้แก่ คุณจิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ออฟฟิศเมท ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ซึ่งจะมาเปิดเผยถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงและอนาคตที่จะก้าวต่อไปของออฟฟิศเมท

 

“ออฟฟิศเมท” ไม่ได้มีแค่ของ “ออฟฟิศ” แต่มีครบทุกอย่างที่ “ธุรกิจ” ต้องการ!

คุณจิตรลดา เล่าถึงที่มาของการ Repositioning แบรนด์ว่า สำหรับออฟฟิศเมทแล้วคนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงเราในฐานะรีเทลอุปกรณ์สำนักงานในออฟฟิศ ซึ่งด้วยชื่อของเราก็มีส่วนทำให้มองเช่นนั้น แต่แน่นอนว่าเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้หลายๆ อย่างเปลี่ยนไป ผู้คน work from home เข้าออฟฟิศน้อยลง ปรับตัวกับเทคโนโลยีมากขึ้น หรือแม้แต่เทรนด์ paperless ก็มา ทำให้หลายหมวดสินค้าไม่ได้โตเหมือนเดิม ดังนั้น เมื่อเราต้องการโตและต้องโตแบบก้าวกระโดดด้วย เราจึงปรับกลยุทธ์ ใหม่มาเป็น solution ที่จะตอบโจทย์ทางธุรกิจให้มากขึ้น โดย Repositioning ใหม่ ในฐานะ Quick Win Partner ให้ลูกค้านึกถึงออฟฟิศเมท ไม่ว่าจะทำงานหรือทำธุรกิจอะไรก็ตาม

 

 

 

 

เสริมทัพสินค้าจากหลักหมื่นสู่หลักแสน ตั้งเป้าอนาคตสู่หลักล้านรายการ

จุดแข็งที่สำคัญอีกประการของ “ออฟฟิศเมท” ก็คือความหลากหลายของหมวดหมู่สินค้า ซึ่งเรื่องนี้ออฟฟิศเมท ให้ความมั่นใจกับเราว่ามีสินค้าให้เลือกสรรมากมาย สามารถตอบสนองทุกความต้องการของทุกธุรกิจ ซึ่งได้เพิ่มจำนวนจากหลักหมื่นรายการ  สู่หลักแสนรายการ และในอนาคตจะไปสู่หลักล้านรายการได้อย่างแน่นอน

ในขณะที่สินค้าเฉพาะทางอย่างกลุ่ม Industrial Supplies ก็มีหลากหลายไม่แพ้กัน โดยปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 30,000รายการ ทั้งจากคู่ค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เยอรมัน เบลเยี่ยม อเมริกา หรือแม้แต่ผู้ผลิตไทยระดับแถวหน้าก็มีมาจัดจำหน่ายครบครันในที่เดียวแบบ “One Stop Factory Solution” ดังนั้น ลูกค้าสามารถมั่นใจในสินค้าได้เลยว่า เมื่อถูกวางอยู่บนแพล็ตฟอร์มของออฟฟิศเมทจะเต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพระดับสากล ซึ่งสามารถตอบโจทย์ลูกค้าของออฟฟิศเมทที่เป็นโรงงาน คลังสินค้า และก่อสร้าง กว่า 80,000 ราย รวมไปถึงลูกค้าใหม่ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ยังไม่เคยมาใช้บริการของออฟฟิศเมท เรียกได้ว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้ลูกค้าในฝั่งเซกเมนต์นี้เติบโตแบบดับเบิ้ลเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ทั้งนี้ ออฟฟิศเมท ยังมีทีม Industrial Sales Specialist เป็นทีมที่จะเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแก่ลูกค้า นำสินค้าไปให้ทดลองใช้เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการช่วยจัดหาสินค้าเฉพาะทางเพิ่มเติม

 

 

ซัพพอร์ตลูกค้า Save Cost – Save Time ผ่านเทคโนโลยีและสินค้าคุณภาพ 

“ส่วนที่คิดว่าอะไรที่จะมาตอบโจทย์ pain point ให้กับลูกค้าในปัจจุบันได้ และมากไปกว่านั้นยังสร้างความแตกต่างของแบรนด์เรากับรายอื่น คือการที่เราเข้ามาช่วยลดคอสต์ ลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า ผ่านสินค้าที่มีคุณภาพบนราคาที่เป็นมิตร ซึ่งจะสร้าง benefit ที่ดีให้ลูกค้าได้ในระยะยาวและยั่งยืน นอกจากนี้ เรายังจัดทำแพล็ตฟอร์มออนไลน์ OfficeMate e-Procurement” ที่เรียกว่าเป็น B2B Platform ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าองค์กรในการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ทั้งสะดวก ในการจัดการ การควบคุมค่าใช้จ่ายรายแผนก สามารถเลือก SKU ได้เอง หรือแม้แต่บริการ e-Tax เราก็มีให้ เพราะเรารู้ว่าไม่ใช่แค่การมีของใช้ แต่เป็นการที่เราเข้าไปช่วยตอบโจทย์ให้ลูกค้าทั้งเรื่องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลา สร้างทั้งความประทับใจและสร้าง Brand loyalty ได้สมกับการที่เรา ได้ประกาศตัวก้าวเข้ามาเป็น Quick Win Partner ให้กับลูกค้าของเราทุกราย”

 

 

ต่อยอดการเป็นรีเทลที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุค Next Normal

ด้วยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคโดยเฉพาะการมีไลฟ์สไตล์แบบ Next Normal ดังนั้น ออฟฟิศเมทซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในด้านการปรับตัวอยู่ตลอดเวลาจึงไม่อาจอยู่นิ่งได้ จากที่เคยโฟกัสรูปแบบการขายผ่านแคตตาล็อกสินค้า ปัจจุบันดำเนินกลยุทธ์ในรูปแบบ Omnichannel และเป็นหนึ่งในรีเทลเลอร์ที่มีช่องทางในการบริการมากที่สุด ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ ทั้งรูปแบบ Physical store และแพล็ตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งคุณจิตรลดา การันตีว่ามีเยอะมากจริงๆ จนเรียกได้ว่าลูกค้าสะดวกทางไหนก็ใช้ทางนั้นได้เลย

ปัจจุบันมีร้านออฟฟิศเมท และออฟฟิศเมท พลัส (ร้านแฟรนไชส์) กว่า 100 สาขา และยังมีการ ทยอยเปิดอีกเรื่อยๆ นอกจากนี้ เรายังมี Non-store บริการผ่าน Contact Center 1281 และช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ทั้งเว็บไซต์ officemate.co.th (คลิก! https://bit.ly/3A0jIRm ) โมบายแอปพลิเคชั่น โซเชียลคอมเมิร์ซ Line: @OfficeMate ที่บริการจัดส่งฟรีถึงธุรกิจ เมื่อช้อป499* หรือแม้แต่การให้บริการเดลิเวอร์รี่บน GrabMart หรือ PandaMart ทุกอย่างเรามีครบหมด แม้แต่ตัวสโตร์เองเราก็มีบริการ Drive-Thru เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องความสะดวกสบายให้กับลูกค้า

 

 

“ดังนั้น ตอนนี้มันเหมือนกับว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือเกิดล็อกดาวน์อีก เราก็แทบได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะว่าเราได้สร้างการเข้าถึงให้กับลูกค้าไว้ทุกช่องทางแล้ว ซึ่งตรงนี้คือหัวใจสำคัญและเป็นจุดแข็งของออฟฟิศเมทด้วย”


  • 910
  •  
  •  
  •  
  •