เปิดไอเดีย “Pretia” บิวตี้แบรนด์น้องใหม่ที่กล้าชูประเด็นความงามอันนิรันดร์ “The Eternity begin” ความน่าสนใจของแบรนด์คือการสื่อถึงผลิตภัณฑ์ความงามแบบ Multi Benefit ที่จับต้องได้ โดยเฉพาะการวางจุดยืนว่า Pretia เป็นสกินแคร์ที่เริ่มต้นด้วยการโฟกัสถึงพลังธรรมชาติ จนค้นพบวิธีมอบความงามแบบยั่งยืน
กลยุทธ์ที่ Pretia เปิดเกมไว้คือการมุ่งตอบไลฟ์สไตล์อันแสนรีบเร่งของสาวยุคใหม่ บนภารกิจปลดล็อคปัญหาผิวทุกมิติ ( 5 Benefits in one ) คีย์หลักที่แบรนด์เลือกใช้คือพลังมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติมานานหลายพันปี กาลเวลาเหล่านี้เป็นปริศนาที่สะท้อนว่าธรรมชาติย่อมมีคุณค่าเป็นกุญแจที่ปลดล็อคปัญหาผิวได้อย่างแท้จริง
Pretia โฟกัสที่การ “บำรุงล้ำลึก” พร้อมกับฟื้นฟูผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติอันเก่าแก่ตามรอยแพทย์โบราณ หนึ่งในส่วนผสมหลักที่ถูกชูขึ้นมาคือโสมสีม่วง (Purple Ginseng) ซึ่งเป็นสารสกัดเดียวกับที่ชาวยุโรปและจีนใช้เป็นยารักษาสารพัดโรคตั้งแต่ศตวรรษที่ 9
ย้ำเทรนด์ “Multi Benefit”
ข้อมูลจาก Euromonitor ชี้ว่าตลาดสินค้าความงามในไทยยังมีการเติบโตต่อเนื่องแม้จะมีวิกฤติเศรษฐกิจและภัยโควิด-19 ในตลาดรวมที่มีมูลค่ามากกว่า 2.18 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วน 42% ในเค้กก้อนนี้แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 81% , ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกาย 12% , ผลิตภัณฑ์กันแดด 6% และผลิตภัณฑ์สำหรับริมฝีปาก 1% ตัวเลขนี้แปลว่าสาวส่วนใหญ่พยายามดูแลตัวเองให้รอบด้านโดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ใช้ชีวิตเร่งรีบในสังคมเมืองปัจจุบัน ส่งให้แนวโน้ม Multi Benefit เป็นเทรนด์สินค้าความงามที่ร้อนแรงตามไปด้วย
สำหรับ Pretia แบรนด์พยายามสร้างจุดต่างที่เหนือกว่าผู้เล่นกลุ่ม Multi Benefit ด้วยการชูวิธีการสกัดรากโสม สีม่วง โดยใช้วิธีสกัดซ้ำมากกว่า 3 ครั้ง ซึ่งส่งผลให้สารสกัดออกฤทธิ์ ( Anti-oxidant ) มีความเข้มข้นสูงกว่าการสกัดครั้งเดียว เหนือกว่าสินค้ากลุ่มโสมทั่วไป 8-10 เท่า เป็นการเสริมให้ Pretia โดดเด่นมากเมื่อเทียบกับผู้เล่นรายอื่นในตลาดสกินแคร์ Multi Benefit ที่เจาะตลาดสาวรุ่นใหม่ด้วยความสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตครบในขั้นตอนเดียว
ในอีกด้าน Pretia เน้นการสื่อสารให้แบรนด์เป็นสกินแคร์แห่งการค้นพบสิ่งที่มีค่าที่สุด เพื่อผิวสวยดุจอยู่เหนือกาลเวลาที่ Pretia นิยามว่าเป็น “ผิวที่เนียนเรียบ สีผิวสม่ำเสมอ ชุ่มชื้น ริ้วรอยแห่งกาลเวลาถูกลดเลือน ผิวแลดูอ่อนเยาว์ ควบคุมความมันส่วนเกินอย่างมีสมดุล เปล่งประกายผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก เหมือนอัญมณีต้องแสง” ทั้งหมดนี้เป็น Multi Benefit ที่แบรนด์สื่อสารออกมาผ่านโลโก้ของแบรนด์คือดวงดาวที่ Pretia อธิบายว่ามีแสงเปล่งประกายในทุกมิติเวลา บนตัวสินค้าสีเรียบหรู รูปแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ใช้แสงสะท้อนเหมือนผิวที่เจิดจรัส
สินค้าเรือธงของแบรนด์ประกอบด้วยเซรั่ม ที่เน้นจุดขายเรื่องปรับสมดุลผิวด้วยสารสกัดธรรมชาติ ช่วยผิวให้อ่อนเยาว์เปล่งประกาย สุขภาพดีจากภายใน นอกจากนี้ยังมี facial cream ที่การันตีคุณค่าจากสมุนไพรคัดพิเศษ มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า
คีย์หลักคือ Purple Ginseng
เหตุผลที่ทำให้ Pretia เลือกชู Purple Ginseng เป็นตัวหลักในการเสริมภาพแบรนด์ คือประวัติการใช้ประโยชน์ยาวนานทั้งซีกโลกตะวันออกและตะวันตก มีบันทึกว่าในยุโรปโบราณ โสมสีม่วงถูกใช้เป็นยารักษาโรคตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 รากของโสมสีม่วงไม่เพียงเป็นยาสมุนไพรที่มีฤทธิ์สมานแผล แต่ยังเป็นยาชูกำลังที่มีประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือมีฤทธิ์รักษาอาการอักเสบได้ดีมาก เหมาะกับการนำมาประยุกต์ใช้กับสินค้าสกินแคร์
ขณะที่แพทย์แผนจีนเลือกใช้โสมสีม่วงเป็นยาลดอาการบวมน้ำ คู่กับการดีท็อกซ์หรือขับสารพิษในร่างกาย กลายเป็นสรรพคุณชัดเจนว่าโสมสีม่วงใช้รักษาได้ทั้งภายนอกและภายในร่างกาย สร้างความต่างให้สินค้ากลุ่ม Purple Ginseng ได้ด้วยจำนวนแอนตี้ออกซิแดนท์ คล้ายกับวิตามินซีบริสุทธิ์ และมีจำนวนแอนตี้ออกซิแดนท์ที่มากกว่าวิตามินอี
Pretia ไม่เพียงโฟกัสที่รากโสมสีม่วงเท่านั้น แต่ยังมีอีก 2 ส่วนประกอบหลักที่ Pretia คัดมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ ได้แก่ 8X hyaluronic acid ทั้งไบโอแซคคาไรด์และกรดไฮยาลูโรนิกโมเลกุลต่ำและสูง 8 ชนิด ที่ผ่านกระบวนการพิเศษจนทำให้เป็นเนื้อเดียวกันด้วยความดันสูง เกิดเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ที่สามารถฟื้นฟู เพิ่มความยืดหยุ่น และลดการอักเสบได้ดีขึ้น อีกสารคือ Licorice Extract หรือสารสกัดจากรากชะเอมที่เน้นบำรุงผิวกระจ่างใสแบบไร้สารเคมี
สิ่งที่ Pretia ไม่ลืมบอกเพื่อกระตุ้นต่อมอยากซื้อของลูกค้า คือการย้ำจุดยืนเรื่องการปราศจากสารเคมีอันตรายต่อผิว ทั้งพาราเบน แอลกอฮอล์ และซัลเฟต อีกทั้งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดยังผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง ( Dermatologically Test ) ทั้งหมดนี้เป็นส่วนผสมครบเครื่องที่ทำให้ Pretia กล้าที่จะชูประเด็นความงามอันนิรันดร์หรือ The Eternity begin ตามสโลแกนที่แบรนด์ยึดมั่นเพื่อตอบไลฟ์สไตล์สาวยุคใหม่ โดยที่ยังตระหนักถึงความลับอัศจรรย์ที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้พลังธรรมชาติมาตลอด