ในยุคที่ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรับสื่อบันเทิงจากอนาล็อกสู่ดิจิทัล กลายเป็นภาวะกดดันให้ “ธุรกิจบันเทิง” ต้องปรับตัวให้สองคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน “อาร์เอส” ผู้วางตำแหน่งเป็น Entertainment Network ทั้งการผลิตคอนเทนท์และมีเดีย ประกาศความพร้อมแผนการดำเนินธุรกิจบันเทิงปี 2553 หลังใช้เวลาปรับโครงสร้างองค์กรช่วงปี 2551-2552
ช่วงเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา อาร์เอส ใช้เวลากับการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อก้าวสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการทยอยตัดทิ้งสต็อกแผ่นซีดีและวีซีดี อย่างต่อเนื่องในช่วงสองปีนี้ และมุ่งหารายได้ผ่านช่องทางดิจิทัล ผ่านการดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ และโทรศัพท์มือถือแทน ทำให้ตัวเลขทางบัญชีในปี 2550-2551 อยู่ในภาวะขาดทุน จากการแบกรับตัวเลขค่าใช้จ่ายการตัดสต็อกแผ่นซีดีและวีซีดี – สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)
“ทุกคนรู้ดีว่าบิซิเนส โมเดล ธุรกิจเพลงเปลี่ยนไปแล้ว คนฟังไม่ได้บริโภคจากแผ่นซีดีอีกต่อไป คนที่เริ่มปรับตัวก่อน จึงต้องเจ็บก่อน เราขายทิ้งโรงงานผลิตแผ่นซีดี ตัดสต็อก ลงตัวเลขต้นทุนทางบัญชี ช่วงสองปีผลประกอบการจึงขาดทุน แต่วันนี้เราตัวเบาแล้ว และแฮปปี้มาก” สุรชัย กล่าว
นอกจากปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงแล้ว ช่วงเวลาเดียวกันได้ใช้เวลาในการปรับโครงสร้างธุรกิจที่แบกต้นทุนสูง และไม่ทำกำไรไปพร้อมกัน ด้วยการยุบทิ้งฝ่ายผลิตละคร รวมกับรายการทีวี เพื่อเปิดกว้างรับผู้ผลิตอิสระที่จะมานำเสนอผลงาน โดยไม่ต้องแบกต้นทุนด้านบุคลากรเหมือนในอดีต เช่นเดียวกับธุรกิจภาพยนตร์ ที่ใช้โมเดล เปิดรับผู้กำกับอิสระให้มานำเสนอผลงานเช่นกัน
โฟกัส 3 ธุรกิจเด่นปีหน้า
หลังจากปรับบิซิเนส โมเดล รองรับคอนเทนท์ และสื่อในยุคดิจิทัลแล้ว และโครงการการบริหารธุรกิจใหม่แล้ว ในปี 2553 อาร์เอสวางเป้าหมายจะให้ความสำคัญกับสามธุรกิจ คือ
- ออนไลน์ บิซิเนส ผ่านสองเว็บไซต์หลัก คือ http://www.pleng.com/ เว็บไซต์ดาวน์โหลดเพลงของอาร์เอส ที่มีผู้เข้าชมวันละ 1 แสนราย และ http://www.zheza.com/ เวอร์ชวล เว็บไซต์ที่มีสมาชิก 2 ล้านราย ซึ่งสองเว็บไซต์จะเป็นฐานสร้างรายได้ในธุรกิจ ออนไลน์ บิซิเนส ในปีหน้าจะเปิดตัวอีกหนึ่งเว็บไซต์ ในคอนเทนท์ประเภท เอดดูเทนเมนท์ ชื่อ http://www.schoolbus.com/
- ธุรกิจทีวีดาวเทียม ขณะนี้ได้เปิดตัวไปแล้ว 2 ช่อง คือ you channel เนื้อหาเพลงและวาไรตี้สำหรับกลุ่มวัยรุ่น และ สบายดีทีวี เพลงลูกทุ่งสำหรับกลุ่มครอบครัว โดยทั้ง 2 ช่อง อยู่ในช่อง MVTV ซึ่งมีฐานผู้ชมอยู่แล้วทำให้ไม่ต้องเริ่มทำตลาดใหม่ โดยออกอากาศทั้ง 3 แพลตฟอร์ม คือ จานซีแบนด์, เคยูแบนด์ และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ในปีหน้าวางแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2-3 ช่อง ซึ่งอาร์เอสมีความพร้อมและโดดเด่นจากการเป็นเจ้าของคอนเทนท์เอง
- สปอร์ต บิซิเนส ซึ่งอาร์เอส เป็นผู้ดูแลและบริหารลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 จากประเทศแอฟริกาใต้ ระหว่าง 11 มิ.ย.-11 ก.ค. 2553 จึงเตรียมต่อยอดจัดกิจกรรมต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีนี้
หวังบอลโลกทุบสถิติรายได้
ปัจจุบันรายได้ของอาร์เอส จะมาจากกลุ่มคอนเทนท์ 55-60% ประกอบไปด้วย เพลง, ภาพยนตร์, รายการทีวี, ดิจิทัล คอนเทนท์, สปอร์ต คอนเทนท์ และอีก 40-45% มาจากกลุ่มมีเดีย ในปี 2553 โครงสร้างสัดส่วนรายได้ของอาร์เอสยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากปีนี้
แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงคือ โอกาสการทำรายได้จาก สปอร์ต บิซิเนส ในทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลโลก ปี 2010 ที่ตั้งเป้ารายได้ไว้ 500 ล้านบาท และจะเป็นรายได้พิเศษ ผลักดันให้รายได้ทั้งปีใน 2553 สร้างสถิติรายได้สูงสุดของอาร์เอส ในรอบ 3 ปี หลังจากทำรายได้สูงสุดที่ 3,140 ล้านบาท ในปี 2549 มาแล้ว
“ผลประกอบการของอาร์เอส เริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ไตรมาสสองปีนี้ และไตรมาสอื่นๆ ที่เหลือส่งสัญญาณดีเช่นกัน เราเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้งอย่างชัดเจนในปลายปีนี้ และปีหน้า อาร์เอส จะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแรงอีกครั้ง”
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์