หนึ่งในกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตของเต็ดตรา แพ้ค นอกเหนือจากการเป็นผู้พัฒนานำนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตอาหารในระดับโลกแล้ว เต็ดตรา แพ้ค ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยให้เติบโตไปด้วยกัน เตรียมพร้อมเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆในโลกอนาคต โลกที่คนทั่วโลกเริ่มหันมาแสวงหาแบรนด์ที่มีนวัตกรรมที่มีความยั่งยืนและคำนึงถึงสุขภาพมากขึ้น
ในขณะเดียวกันจากความท้าทายเหล่านี้ เต็ดตรา แพ้ค ยังมองเห็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตราว 5.25% มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 87,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 และการเติบโตนี้อาจเพิ่มมากขึ้นได้อีกหากมีนวัตกรรมเข้ามาช่วยสนับสนุนภาคธุรกิจนี้มากขึ้น
นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ เต็ดตรา แพ้ค จัดงาน “Innovation Starts Here” ขึ้นเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำทางความคิดและโซลูชันนวัตกรรมด้านอาหาร มีการนำเสนอนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่จะยกระดับประสิทธิภาพการผลิต พัฒนาแนวคิดด้านความยั่งยืน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และทำให้ธุรกิจอาหารสามารถเติบโตไปได้อย่างมั่นคง
ภายในงานนอกจากการโชว์นวัตกรรมในด้านต่างๆแล้ว เต็ดตรา แพ้ค ยังเชิญเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงผู้บริหารระดับสูงจาก 4 บริษัทเอเจนซี่ชื่อดัง Ipsos, Kantar, Mintel และ NielsenIQ มานำเสนอข้อมูลเชิงลึกเพื่อชี้ให้เห็นแนวโน้มและนวัตกรรมในอนาคตและวิธีการที่จะสามารถนำมาใช้ได้เพื่อพลิกโฉมธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารในประเทศไทยได้
ไฮไลท์ของงาน “Innovation Starts Here” ครั้งนี้ก็คือ มุมกิจกรรมที่ให้ผู้เข้าร่วมงาน หรือผู้ที่ทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรมอาหารได้พูดคุยสอบถามเกี่ยวกับแกนหลักนวัตกรรมใน 3 เรื่องไม่ว่าจะเป็น
Innovate for Growth หรือ นวัตกรรมเพื่อสร้างโอกาสเติบโต
มุมนี้เป็นมุมที่คนที่อยู่ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่กำลังหาไอเดียพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดดเด่นมากกว่าคู่แข่งจะได้ประโยชน์มาก โดยผู้เชี่ยวชาญของเต็ดตรา แพ้คนำเสนอโซลูชันที่สามารถช่วยพัฒนาอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย นับตั้งแต่ไอศกรีมไปจนถึงผลิตภัณฑ์จากธัญพืช รวมไปถึงเทคนิคในการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในการสร้างโอกาสและออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดได้
ยกตัวอย่าง โซลูชันระบบการตกแต่งผลิตภัณฑ์ไอศกรีมซึ่งมอบทางเลือกในการแต่งหน้าไอศกรีมที่แตกต่างกันได้ถึงแปดรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีโชลูชันจาก Tetra Pak® Extraction System หรือระบบการสกัดสำหรับผลิตภัณฑ์จากธัญพืช ที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มธัญพืช สร้างรสชาติที่ยอดเยี่ยมสำหรับวัตถุดิบประเภทถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต ข้าว และถั่วต่างๆ รวมไปถึงเครื่องบรรจุความเร็วสูง Tetra Pak® E3/Speed Hyper และเทคโนโลยี eBeam สำหรับการฆ่าเชื้อบนวัสดุบรรจุภัณฑ์โดยใช้ลำแสงอิเล็กตรอน ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่คุ้มค่าด้านราคาและยังสร้างความได้เปรียบด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นเทรนด์การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในเวลานี้
Design for Sustainability หรือ การออกแบบโดยยึดหลักความยั่งยืน
“ความยั่งยืน” เป็นหัวข้อที่ทุกคนในธุรกิจอาหารต้องให้ความสำคัญเพราะหากละเลยธุรกิจก็อาจไปไม่รอดได้ในยุคนี้ ดังนั้นในมุมนี้เต็ดตรา แพ้ค ได้พูดคุยถึงโซลูชันที่สามารถส่งเสริมความยั่งยืนในการดำเนินการผลิตและบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมได้อย่างตรงจุด นับตั้งแต่การลดขยะอาหารในระหว่างการผลิต ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มการใช้วัสดุจากทรัพยากรทดแทนได้ และเหมาะสมในกระบวนการรีไซเคิล พร้อมแนวทางสนองตอบความต้องการที่แตกต่างของลูกค้า รวมไปถึงการสร้างการหมุนเวียนวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่มั่นคงปลอดภัย
อีกสิ่งหนึ่งที่เต็ดตรา แพ้ค เชี่ยวชาญก็คือเรื่องกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน ทั้งในเรื่องการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การประหยัดพลังงาน และการรักษาพลังงานความร้อน ตลอดจนการมองโจทย์ร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในภาพรวม เช่น โซลูชันอุปกรณ์ Tetra Pak Processing Key Components ที่เป็นตัวพลิกเกมการผลิตสามารถเพิ่มผลผลิตและลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมากมายเป็นต้น
Connect for the Future หรือ การเชื่อมต่อเพื่ออนาคต
ในมุมนี้ เป็นมุมที่แนะนำวิธีการนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยยกระดับการทำงานในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มศักยภาพของผู้ปฎิบัติงาน เพิ่มความคล่องตัว ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยรวมด้วยระบบอัตโนมัติและสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบต่อไปเช่นการใช้ One Remote Support สนับสนุนจากระยะไกล ระบบ Asset Health Monitoring ที่ช่วยมอนิเตอร์การทำงานของเครื่องจักร และ Connected workforce ที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมโยงและใช้ประโยชน์จากระบบอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญของเต็ดตรา แพ้ค ยังแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันสามารถช่วยสนับสนุนผู้ผลิตในการดำเนินงานเชิงรุกบนแนวคิดที่ยั่งยืนได้จริงด้วยเช่นกัน
สำหรับภาพรวมการจัดงาน “Innovation Starts Here” ครั้งนี้ คุณรัตนศิริ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด มองว่าจากแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกรวมถึงความท้าทายในอนาคตอันใกล้ จะเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงปี พ.ศ. 2573 ก็ว่าได้ และ สำหรับนวัตกรรมของเต็ดตรา แพ้ค เราภูมิใจที่ได้สนับสนุนให้ลูกค้าเลือกโซลูชันที่เหมาะสมและตอบโจทย์ธุรกิจ ซึ่งภายในงานครั้งนี้ เราได้เห็นแล้วว่าอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารได้เปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ผลิตมากมาย และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับผู้นำอุตสาหกรรมและลูกค้าของเราในประเทศไทยเพื่อคว้าโอกาสการเติบโตร่วมกัน เราทุ่มเทเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน และร่วมสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าแต่ละรายเพื่ออนาคตที่ดีกว่าต่อไป