หลังจากประเทศไทยมีการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กันอย่างคึกคักเมื่อไม่นานมานี้ ช่วยให้เห็นถึงอนาคตตลาดยานยนต์ในประเทศไทยที่กำลังจะมีเซ็กเม้นต์ใหม่เกิดขึ้นมา สอดรับกับตลาดโลกที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคยานยนต์ EV ที่ให้ความสำคัญเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องหลัก รวมไปถึงการลดใช้ทรัพยากรของโลกอย่างน้ำมัน
ทว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับโลกอย่าง TOYOTA หันไปวางแผนลงทุนขนาดใหญ่ ด้วยมูลค่ากว่า 28.3 ล้านล้านรูเปียห์หรือราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอินโดนีเซีย โดยเริ่มจาก “ยานยนต์ไฮบริด” เป็นอันดับแรก หลังจากไม่สบความสำเร็จกับการพัฒนายานยนต์ไฮบริดในประเทศไทย โดยแผนดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่ปี 2019 ถึงปี 2023
โดย TOYOTA คาดว่า การพัฒนาในอินโดนีเซียจะช่วยให้มียอดขายทั่วโลกครึ่งหนึ่งมาจากยานยนต์ EV ภายใต้การผลิตที่ประเทศอินโดนีเซียในปี 2025 สำหรับเหตุผลที่อยู่โตโยต้าหันไปลงทุนที่ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนในการพัฒนายานยนต์ EV อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้อินโดนีเซียยังเป็นฐานการผลิตรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอนาคตอาจจะกลายเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมรายใหญ่ในภูมิภาค หากตลาดยานยนต์ EV ได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์ Mitsubishi ก็มีการประกาศความร่วมมือกับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อวิจัยโครงสร้างพื้นฐานในการรองรับการใช้งานยานยนต์ EV ได้ในอนาคต
Source: Reuters
