Sony กับกลยุทธ์ Sport Marketing

  • 22
  •  
  •  
  •  
  •  

sony_bravia_3

ไทสุเกะ นากานิชิ CEO, Sony Thai เผยในงานการประชุมผู้แทนจำหน่าย ประจำปีว่า แนวทางการทำตลาดของโซนี่ประเทศไทยในปีงบประมาณใหม่ (เม.ย.2552-มี.ค.2553) จะยังคงโฟกัสไปที่สินค้ากลุ่มเ AV และ IT ทั้ง notebook Vaio, CyberShotต, LCD TV, กล้อง Digital SLR, Walkman และ กล้อง Handycam ซึ่งเมื่อรวมทั้งหมดแล้ว โซนี่มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดถึง 25%

ในภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้บริษัทจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยปีนี้ โซนี่จะให้ความสำคัญกับ Sport Marketing มากขึ้น ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์เดียวกันทั่วโลก ที่บริษัทแม่โซนี่ ได้กำหนดในทิศทางไว้

กิจกรรมหลักที่ดำเนินการ คือ โซนี่ ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า 2010 ที่ประเทศแอฟริกา อย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกัน โซนี่ ยังได้เซ็นสัญญากับนักเตะแข้งทองชื่อก้องโลก “กาก้า” (ริคาร์โด อิเซคสัน ดอส ซานโตส ไลเต) ภายใต้แคมเปญโฆษณา Bravia LCD TV ด้วย ขณะที่ประเทศไทย บริษัทได้เป็นพันธมิตรกับ True Visions ในการเป็นสปอนเซอร์ True EPL  หรือ TRUE English Premier League 

“ทั้งหมดนี้ จะถูกมาผนวกด้วยการใช้ Sport Marketing ทำแคมเปญในรูปแบบต่างๆ ผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ หันมาสนใจกีฬามากขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้ ชื่นชอบสินค้าที่มีดีไซน์ และไฮเทคโนโลยี ซึ่งจะทำให้เขาตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น เราต้องการขยายฐานลูกค้ากลุ่มนี้ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันฐานลูกค้าเดิมเราก็ไม่ได้ทิ้ง บริษัทได้ตั้งแผนก CRM ขึ้น ซึ่งถือเป็นแผนกใหม่ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ใกล้ชิดและทำกิจกรรมกับลูกค้าเดิม เราต้องรักษาฐานลูกค้ากลุ่มนี้ไว้ด้วย เพราะมี Brand Awareness ” นายไทสุเกะ นากานิชิ

เขายังกล่าวด้วยว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเช่นนี้ ส่งผลให้ผลประกอบการโซนี่ในปีที่ผ่านมา (เม.ย.2551-มี.ค.2552) มีอัตราการเติบโตลดลง คือเติบโตไม่ถึง 10% แต่สำหรับปีนี้ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถโตได้ถึง 10% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ การทำตลาดเชิงรุก การจัดโปรโมชั่นร่วมกับดีลเลอร์ และการจับมือกับพันธมิตรมากขึ้น โดยสัดส่วนรายได้แอลซีดี ทีวี และกล้องดิจิทัลยังคงมีสัดส่วนรายได้สูงสุด อย่างละ 35% รองลงมาคือ ไวโอ้ 15% ที่เหลือ 15% คือออดิโอและอุปกรณ์

“ยอดขายลดลงเรามองว่าเป็นเรื่องปกติ ของทุกครั้งที่เกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องทำในช่วงเวลาแบบนี้ คือ การเพิ่มมูลค่าของแบรนด์ เพราะนั่นหมายถึงการรักษาฐานลูกค้า และการได้เพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามา” ผู้บริหารโซนี่ กล่าวและว่า ในช่วงเวลาแบบนี้ การทำตลาดสินค้าให้ถูกจุด ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง

ในช่วงเวลาแบบนี้ โซนี่แบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

  1. กลุ่มที่มีการเติบโตถดถอย เช่น CRT TV, Car Audio และ Mini Hi-Fi
  2. กลุ่มที่มีการเติบโตทรงตัว เช่น Camcorder
  3. กลุ่มสินค้าที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือ AV และ IT เช่น Notebook, LCD TV, Digital Camera ซึ่งโซนี่ให้ความสำคัญกับกลุ่มที่ 3 มากที่สุด

Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


  • 22
  •  
  •  
  •  
  •