อย่างที่ทราบกันว่า สถานการณ์ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดไปในหลายพื้นที่ของโลกใบนี้ ส่งผลให้ประชากรทั่วโลกต้องได้รับผลกระทบ รวมไปถึงอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมสายการบินที่เป็นช่องทางในการท่องเที่ยวไปในพื้นที่ต่างๆ ของโลก จนหลายอุตสาหกรรมการบินต้องออกมาปรับตัว รวมไปถึงการปลดพนักงานออกเพื่อลดต้นทุน และให้ธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อไปได้
ล่าสุด SAS สายการบินสแกนดิเนเวียเป็นสายการบินที่ออกนโยบายปลดพนักงานชั่วคราวลง 90% หรือราว 10,000 คน ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากมาตรการห้ามการเดินทางระหว่างประเทศ โดย Rickard Gustafson ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAS ย้ำว่า มาตรการนี้ไม่ใช่แผนการไล่พนักงานออกถาวร นอกจากนี้ยังยกเลิกเส้นทางการบินจำนวนมาก แต่ยังคงเส้นทางการบินหลักไว้เพื่อยังคงโครงสร้างพื้นฐานการเดินทาง คาดว่าจะสิ้นสุดมาตรการดังกล่าววันที่ 14 เมษายนนี้
ขณะที่ก่อนหน้านี้ Norwegian Air ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 85% รวมถึงการปลดพนักงานลงชั่วคราวกว่า 7,300 คน ซึ่งเป็นผลมาจาก COVID-19 ที่ทำให้ความต้องการเดินทางลดลง โดยมาตรการดังกล่าวจะถูกทบทวนใหม่อีกครั้งในวันที่ 17 เมษายนนี้ ด้านสายการบิน Air France และ KLM ก็ได้รับผลกระทบ COVID-19 โดยเตรียมแผนลดการทำงานลง 90% รวมไปถึงการปลดพนักงานลงชั่วคราว 80% โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลอย่างน้อย 2 เดือน
ไม่เว้นแม้แต่สายการบิน Cebu Pacific ของฟิลิปปินส์ก็ประสบปัญหา COVID-19 เช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการเข้มข้นของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่ห้ามเดินทางไปและกลับจากกรุงมะนิลาและจังหวัดสำคัญๆ รวมถึงห้ามเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยง เช่น จีน ฮ่องกง มาเก๊า ส่งผลให้ต้องเลิกจ้างพนักงานอย่างน้อย 150 คน ส่วนสายการบิน Cathay Pacific ขอให้พนักงานกว่า 27,000 คนหยุดงานโดยไม่จ่ายเงิน เพื่อรักษาสภาพเงินสดและลดค่าใช้จ่ายในภาวะที่ไม่มีรายได้
Source: Bloomberg, Reuters, AeroTimes, CNN
