เวลาเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน แบรนด์ต่างๆ จึงต้องตอบสนองให้ทันความต้องการของผู้บริโภค เฟเดอร์บรอย (Federbräu) แบรนด์เบียร์ระดับพรีเมี่ยม จึงนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ ด้วยแนวคิด Simply German, Passion für Perfektion (Passion for Perfection) คือการนำ Passion ทุ่มเททำสิ่งที่ตนรักและเชื่อมั่น สร้างสรรค์ผลงานที่โดนเด่นอย่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียด เช่นเดียวกับ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ที่เลือกใช้เฉพาะวัตถุดิบคุณภาพ ใส่ใจในทุกขั้นตอนและรายละเอียด เพื่อให้เป็นเบียร์ที่สมบูรณ์แบบด้วยคุณภาพระดับพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง ผสานกับภาพลักษณ์ทันสมัย และมีระดับ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้น ทั้งการดีไซน์ รูปทรงบรรจุภัณฑ์ การคัดเลือกวัตถุดิบ รวมถึงช่องทางการสื่อสาร
โดยเหตุผลที่เฟเดอร์บรอย (Federbräu) นำเสนอโฉมใหม่ในปีนี้ มาจากการเติบโตของตลาดเบียร์พรีเมี่ยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ที่เติบโตขึ้น 24% เป็นอันดับ 2 ของอาเซียน (อันดับ 1 คือ อินโดนีเซีย 42%) และมีส่วนแบ่งการตลาด 13% ทำให้ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) เล็งเห็นศักยภาพในการทำตลาดของเบียร์กลุ่มนี้ว่ายังเติบโตได้อีกมาก จึงตัดสินใจนำเสนอ เฟเดอร์บรอย (Federbräu) โฉมใหม่ เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภค โดยเสนอความสดใหม่ที่แตกต่าง ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติหลักของการแข่งขันในเซ็กเมนท์นี้ เป็นการเปิดศึกเบียร์พรีเมี่ยมด้วยความมั่นใจแบบเต็มร้อยของ เฟเดอร์บรอย (Federbräu)
เฟเดอร์บรอย (Federbräu) ได้เก็บข้อมูลและเรียนรู้ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย โดย มร.เอ็ดมอนด์ เนียว คิม ซูน CEO Beer Product Group เผยว่า คนรุ่นใหม่ต้องการสินค้าที่เสริมภาพลักษณ์ของตัวเอง ถ้าเป็นเครื่องดื่มก็ต้องการเครื่องดื่มที่มีรสชาติแตกต่าง
เฟเดอร์บรอย (Federbräu) โฉมใหม่จึงนำเสนอทั้งรสชาติและบรรจุภัณฑ์ให้สมกับเป็นเบียร์ในระดับสากล และเหมือนกันทั่วโลก ด้วยการดีไซน์ฉลากให้ทันสมัยและพรีเมี่ยม ซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากศิลปะและปรัชญาสไตล์ เบาเฮ้าส์ (Bauhaus) โรงเรียนสอนศิลปะและวิจิตรศิลป์ในประเทศเยอรมัน โดยยังคงเอกลักษณ์ของขนนกสีแดงไว้เช่นเดิม เพิ่มเติมด้วยการมีหลายขนาด ทั้งขวดใหญ่ ขวดเล็ก กระป๋อง Sleek can และลังบรรจุขนาด 12 ขวด/กระป๋อง ในส่วนของรสชาติเบียร์เฟเดอร์บรอย ชูจุดเด่นการใช้ส่วนประกอบหลักอย่าง เยอรมัน ซิงเกอร์ มอลต์ (German Single Malt) คือมอลต์จากแหล่งผลิตเพียงแหล่งเดียว ที่นำเข้าจากประเทศเยอรมนี เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย
สำหรับการถ่ายทอดภาพลักษณ์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย เฟเดอร์บรอยได้เลือกสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆที่ตรงกลุ่มยิ่งขึ้น อาทิ การพิมพ์โลโก้แบรนด์ลงบน Beer Tower, ที่รองแก้ว, ป้ายไฟ, Website และ Facebook รวมถึงเป็นผู้สนับสนุนหลักของการจัดงาน “Hive Salon 5th Year Anniversary The Irresistible Night” พร้อมโชว์ชุดพิเศษ
มร.เอ็ดมอนด์ เผยถึง 3 ปัจจัยที่ทำให้สินค้าระดับพรีเมี่ยมประสบความสำเร็จ ได้แก่ การมีนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย, ต้องทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และกลยุทธ์ด้านราคา แม้จะเป็นสินค้าพรีเมี่ยม ถ้าราคาสูงเกินไปก็ไม่เกิด ทั้งนี้ เฟเดอร์บรอยกำหนดราคาให้อยู่เกณฑ์ที่จับต้องได้ จะแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ประมาณ 5-10% (ขวดใหญ่ 620 มิลลิลิตร ราคา 65 บาท, ขวดเล็ก 320 มิลลิลิตร ราคา 42 บาท และกระป๋อง Sleek can 320 มิลลิลิตร ราคา 40 บาท) ทั้งนี้ เฟเดอร์บรอยโฉมใหม่ได้วางจำหน่ายในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้วตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แน่นอนว่าความคาดหวังของเฟเดอร์บรอย (Federbräu) จะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากการตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเซ็กเมนท์เบียร์พรีเมี่ยม และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค จากการลงทุนทั้งหมด บวกกับแนวคิด Simply German, Passion für Perfektion ไม่ใช่แค่ดี…แต่ต้องดีที่สุด สะท้อนออกมาสู่ความพิถีพิถันในทุกองค์ประกอบ ถ่ายทอดความมีรสนิยม ทันสมัยและไลฟ์สไตล์ของคนมีระดับ มีเอกลักษ์แบบ Simply German นุ่มนวลแต่หนักแน่น ให้ความรู้สึกเป็นคนแรกที่ก้าวนำคนอื่นไปก่อนทำให้เฟเดอร์บรอย (Federbräu) เป็นแบรนด์ที่มีความชัดเจนและมั่นใจมากขึ้น เรียกได้ว่ามีความพร้อมอย่างมากในการสู้ศึกกับผู้เล่นรายใหญ่อย่างไฮเนเก้นที่มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 96% เราคงต้องดูกันว่าในระยะยาว เฟเดอร์บรอย (Federbräu) จะชิงส่วนแบ่งตลาดเบียร์พรีเมี่ยมมาได้มากแค่ไหน
รายละเอียดเพิ่มเติม www.federbrau.de และ www.facebook.com/federbrauofficial