Woody ย้ำชัดงานเทศกาลดนตรี S2O ของไทยก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 โดยได้รับการตอบรับอย่างดีจากต่างประเทศ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘เทศกาลสงกรานต์’ ด้วยรูปแบบที่ผสมผสานความเป็นไทยและความเป็นสากล ภายใต้นวัตกรรมการฉีดน้ำผสมผสานเสียงดนตรีที่ไม่เหมือนใครในโลก โดยปีนี้เทศกาลดนตรี S2O เตรียมบุกตลาดญี่ปุ่นและไต้หวัน พร้อมเล็งเป้าขยายทั่วโลกภายในปี 2022
“Songkran Festival”
เทศกาลสงกรานต์กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกในฐานะเทศกาลที่เป็นประเพณีวัฒนธรรมของไทยมาอย่างยาวนาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทศกาลเล่นน้ำเกิดขึ้นในหลายประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะบริเวณลุ่มน้ำโขงและลุ่มน้ำอิรวดี ซิ่งแล้วแต่ละประเทศจะเรียกชื่อเทศกาลสาดน้ำแตกต่างกันไปในแต่ละภาษา แต่มีที่มาที่ไปใกล้เคียงหรือเหมือนกันเกือบทั้งหมด
เทศกาลเล่นน้ำเกิดขึ้นมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งการเล่นน้ำมีวัตถุประสงค์หลักสองอย่าง ทั้งการลดอุณหภูมิความร้อนจากสภาพอากาศ และการออกมาพบปะกันของวัยรุ่นในสมัยโบราณ รวมไปถึงการทำความเคารพผู้ใหญ่ในรูปแบบของการรดน้ำดำหัว ช่วยให้ครอบครัวได้พบปะพร้อมหน้ากัน แม้ในปัจจุบันรูปแบบของการเล่นน้ำจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่วัตถุประสงค์หลักทั้งสองอย่าง ยังคงอยู่เช่นเดิม
แน่นอนว่าประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของสงกรานต์เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ แต่เพราะสงกรานต์คือประเพณีและวัฒนธรรม การนำประเพณีและวัฒนธรรมของไทยไปเผยแพร่ออกสู่สากลจึงเป็นเรื่องยาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Woody World ที่พร้อมนำเทศกาลสงกรานต์ของไทยผนวกกับเทศกาลดนตรีสากลเผยแพร่สู่ระดับสากล พร้อมผสานเทคโนโลยีในการสาดน้ำช่วยให้กลายเป็นเทศกาลที่โดดเด่นและแตกต่างไม่เหมือนใคร
5 ปีของการสร้างแบรนด์ S2O
วุฒิธร มิลินทจินดา กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายครีเอทีฟ (Chief Creative Officer) บริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด หรือที่ทุกคนมักจะเรียกสั้นๆ ว่า “วู้ดดี้” ยิ้มสวยๆ ก่อนจะชี้ว่า ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา S2O เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากสร้างงานเทศกาลดนตรีที่คนไทยภูมิใจ S2O จึงเป็นงานที่ไม่ได้ติดอยู่ในกรอบของเทศกาลดนตรีทั่วไป แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์แบบ Unique Experience ที่หาไม่ได้จากเทศกาลดนตรีอื่นๆ
สำหรับความโดดเด่นมากของ S2O คือการเป็นเทศกาลมิวสิคเฟสติวัลที่สนุก มันส์ จัดเต็ม คุ้มทั้งเงินและเวลา ที่สำคัญมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมากที่เป็นแฟนประจำต้องบินมาทุกปี จนทำให้ S2O เป็นงานที่ต้องมาซักครั้งในชีวิตเป็นประสบการณ์แห่งความสุขสุดขีด มันส์สุดขั้ว เปียกแบบมีนวัตกรรม แสง สี เสียง น้ำตระการตาจัดเต็ม ในขณะเดียวกันก็เป็นเทศกาลดนตรีที่มาพร้อมมาตรการความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง เพื่อให้ S2O เป็นสงกรานต์มิวสิคเฟสติวัลที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
โดยเป้าหมายของการจัดงาน S2O ต้องยิ่งใหญ่ขึ้นและแปลกใหม่ทุกปี สำหรับในปีที่ผ่านมามีผู้ร่วมงานกว่า 54,000 คน แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวไทย 70% นักท่องเที่ยวต่างชาติ 30% ที่มาจากหลายประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน อเมริกา ออสเตรเลีย เป็นต้น
จุดเด่นที่ต้องมา S2O สักครั้ง
ส่วน ปุลิน มิลินทจินดา กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operation Officer) บริษัท วู้ดดี้ เวิลด์ จำกัด น้องชายแท้ๆ ของวู้ดดี้อธิบายว่า จุดเด่นของ S2O คือการสร้างประสบการณ์ในทุกสัมผัส ไม่ใช่แค่ดนตรี ไม่ใช่แค่ดีเจ ไม่ใช่แค่เทคนิคตระการตา แต่คือการจัดวางทุกอย่างให้สอดประสานกันเพื่อพาทุกคนตื่นตาตื่นใจ สนุก มันส์ คุ้มค่ากับการรอคอย
ในช่วงครบรอบปีที่ 5 ของ S2O ได้เตรียมจัดเต็ม 5 ไฮไลท์สำคัญ ทั้ง ดีเจระดับโลก อาทิ FAT BOY SLIM , TIESTO , STEVE AOKI , David Gravell, CAT DEALERS, 1788-L และอีกมากมาย พร้อมด้วย เวทีขนาดยักษ์ (Mega Stage) ที่ยาวกว่า 65 เมตร สูงเท่ากับตึก 10 ชั้น ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็จะสามารถเห็นเวทีได้อย่างชัดเจน ที่อยากให้ทุกคนได้มาเห็นกับตาตัวเอง
ขาดไม่ได้กับ สเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ ของแสง สี เสียง พลุ สุดตระการตากับ Signature ของ S2O กับ นวัตกรรมเทคนิคน้ำ 360 องศา ที่จะสาดความเปียกไปทุกตารางนิ้ว พร้อมด้วยการสร้างเอฟเฟกต์ใหม่ๆ แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และประสบการณ์ความสนุกแบบ S2O ที่จะอัพเลเวลไปอีกขั้นด้วย เซอร์ไพรซ์พิเศษ ตลอดงานให้สมกับที่ได้ชื่อว่าเป็นเทศกาลดนตรีที่ต้องมาซักครั้งในชีวิต
S2O เล็งฉีดน้ำสู่ต่างประเทศ
อาจกล่าวได้ว่า S2O คือความสำเร็จและความภาคภูมิใจของไทยในการเผยแพร่ประเพณีวัฒนธรรมของไทยอย่างเทศกาลสงกรานต์สู่ชาวโลก โดยในปีที่ผ่านมา Woody World พา S2O สงกรานต์มิวสิคเฟสติวัลของไทยไปไกลถึงแดนปลาดิบในชื่องาน “S2O Japan” ที่เมืองโอไดบะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีผู้ร่วมงานกว่า 16,000 คน เป็นการตอบรับอย่างดีเกินคาด
ในปีนี้ Woody World ไม่รอช้า เมื่อแรงดันน้ำพุ่งถึงจุดสูงสุด เตรียมเปิดก๊อกสาดน้ำไปไกลสู่ระดับ Go Inter! โดยร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่นในการจัดงาน “S2O Taiwan” ในวันที่ 6-7 กรกฎาคมนี้ และตอกย้ำความสำเร็จในงาน “S2O Japan” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในวันที่ 13-14 กรกฎาคมเช่นเดียวกัน ถือได้ว่า S2O คือมิวสิคเฟสติวัลสัญชาติไทยรายแรกที่ก้าวสู่งานระดับสากลได้สำเร็จ แถมวู๊ดดี้ยังแอบชำเลืองตามองไปไกลสุดลูกหูลูกตาถึงกรุงริโอฯ เมืองหลวงบราซิล ที่ ‘อาจจะ’ มีโปรแกรมไปสาดน้ำดับร้อนถึงที่นั่น
โดยวู๊ดดี้กลาสวถึง Wow Project ที่จะสร้างให้ S2O กลายเป็นเทศกาลที่ทุกคนทั่วโลกเข้าถึงได้ โดยวู๊ดดี้เล็งไว้ในปี 2022 จะมีงานเทศกาล S2O ในทุกทวีปทั่วโลกอย่างน้อยทวีปละ 1 งาน ซึ่งเป้าหายสูงสุดที่วู๊ดดี้เล็งไว้คือการสร้างให้ใครที่อยากมางาน S2O สามารถมาได้ทั้งปี แต่วู๊ดดี้บอกยังคิดไม่ออกว่าจะออกมาเป็นแบบไหน จากที่คาดการณ์ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นการจัดงานแบบเดือนละครั้งในหลายประเทศเพื่อให้มีงานทั้งปี แต่วู๊ดดี้อาจจะเหนื่อยเกินไป หรืออาจจะสร้างเป็น Theme Park S2O ก็เป็นไปได้
ใช่ว่า S2O จะจัดได้ทุกประเทศ
หลายคนอาจสงสัยทำไมไม่ลองไปจัดที่จีนดู เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ใกล้เคียงกับไทย ที่สำคัญเมื่อนึกถึงจำนวนประชากร สเกลการจัดงานระดับ 2-6 หมื่นคนอาจจะดูเล็กไปถนัดตา ซึ่งเรื่องนี้วู๊ดดี้และปุลินให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากงาน S2O มีเรื่องของประเพณีและวัฒนธรรมของไทยไปด้วย ดังนั้นจึงต้องเลือกประเทศที่งาน S2O จะไปจัดเพื่อให้เหมาะสมกับการจัดงาน
โดยปัจจัยแรกที่ทั้งคู่ให้ความสำคัญคือเรื่องของ สภาพภูมิอากาศ เนื่องจากธีมหลักของงาน S2O คือการฉีดน้ำอย่างเทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นหากไปจัดในเมืองหนาวนอกจากจะไม่สนุกแล้ว ยังอาจจะต้องทรมานจากความหนาวเย็นของน้ำอีกด้วย ปัจจัยต่อมาคือ ความต้องการของผู้คน เนื่องจากสเกลการจัดงานของ S2O อยู่ในระดับ 2-6 หมื่นคน ซึ่งหากผู้คนไม่รู้สึกสนุกสนานไปกับเทศกาลดนตรี ความปังของงาน S2O ก็อาจจะตกลงและอาจทำให้มาตรฐานความสนุกลดลงด้วย
และปัจจัยสุดท้ายคือ Partnership ในแต่ละประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องเข้าใจการจัดงานและมองเห็นความสนุกของงาน ที่สำคัญต้องเข้าใจผู้เข้าร่วมงานด้วย โดยวู๊ดดี้ชี้ว่าหลายครั้งที่ปฏิเสธการจัดงานไป เนื่องจากคุยกันแล้วไม่เข้าใจกันเพราะงาน S2O ไม่ใช้งานแต่จัดแล้วจบ แต่เพราะเป็นงานที่ใช้นวัตกรรมระบบกลไกซับซ้อน น้ำกับกระแสไฟฟ้าเป็นเรื่องที่อัตราย ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ ความสะอาดเป็นอีกเรื่องที่วู๊ดดี้ใส่ใจ นั่นเพราะงาน S2O เป็นหน้าตาของประเทศไทย
สำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ ประเทศไทยเตรียมต้อนรับงาน Pepsi presents S2O Songkran Music Festival 2019 ที่จะระเบิดความมันส์ตั้งแต่วันที่ 13 – 15 เมษายนนี้ ณ Live Park ถนนพระราม 9 โดยเปิดจำหน่ายบัตรแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปในราคา 2,000 บาท (สำหรับ 1 วัน) ไม่อยากพลาดความสนุกที่ควรมาโดนซักครั้งในชีวิต! ซื้อบัตรและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ S2O Festival เท่านั้น ผู้มีสิทธิ์ซื้อบัตรต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป