ในปัจจุบันสภาวะหลายๆอย่างมีผลกระทบกับการใช้จ่ายและซื้อขายของผู้บริโภคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ภัยธรรมชาติ หรือ ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น รวมไปถึงกฎหมายและระเบียบต่างๆ จึงเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมรูปแบบใหม่ในการซื้อขายของผู้บริโภค โดย 1 ใน 12 เทรนด์แห่งปี จาก trendwatching.com ที่ทำให้การซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบการแลกเปลี่ยนผ่านความพึงพอใจที่เรียกกันว่า “RECOMMERCE”
วิดิโอ Infographic เพื่ออธิบายเทรนด์ Recommerce
RECOMMERCE คือการสร้างคุณค่าจากสิ่งของที่เคยซื้อไปแล้ว ให้กลับมามีประโยชน์สำหรับผู้บริโภคอีก ไม่ว่าจะเป็น การ TRADE-IN เพื่อซื้อของใหม่กับแบรนด์ หรือ การแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้บริโภคด้วยกัน โดยสามารถสร้างประโยชน์ในเชิง เศรษฐศาสตร์ (เงินในกระเป๋าที่เพิ่มขึ้น) หรือ ทางด้านสิ่งแวดล้อม (ลดการผลิต) รวมไปถึงทางด้านจิตใจ (แลกของที่อาจจะไม่ได้ใช้ไปให้ผู้ที่ต้องการ) โดยปัจจุบัน RECOMMERCE ถือเป็นอีกส่วนช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคที่ต้องการขยายประสบการณ์การใช้สินค้าหรือบริการให้มากขึ้น โดย RECOMMERCE ถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยหลัก 3 อย่างคือ
- NEXTISMหรือ ความต้องการในสิ่งใหม่ๆที่น่าตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลาของผู้บริโภค ซึ่งในปัจจุบันผู้บริโภคต้องการสิ่งที่ดีที่สุด(ของที่สุด) เสมอในการจับจ่ายแต่ละครั้ง และผู้บริโภคก็จะเรียกร้องในสิ่งที่ดียิ่งๆขึ้นไปเพื่อประสบการณ์ใหม่ๆ เสมอๆ ยกตัวอย่างเช่น ลูกเล่นใหม่ๆ คุณภาพที่พัฒนาขึ้น ประสบการณ์ที่ไม่เคยได้เจอมาก่อน ที่จะทำให้ชีวิตน่าสนใจขึ้น
- STATUSPHEREหรือ การสร้างสถานะของตนเองผ่านการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดและมีความรับผิดชอบ โดยการสร้างสถานะไม่ได้หมายถึงแค่การซื้อที่ดีที่สุดเสมอไป แต่ยังหมายถึง การได้เพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ ความเอื้อเฟื้อ การเชื่อมโยงถึงคนอื่นๆ และ การดูแลสิ่งแวดล้อม อีกด้วย โดยปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นของผู้บริโภคที่วางตนเองเป็นผู้ที่ใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดมากกว่าที่จะเป็นแค่ผู้บริโภคธรรมดาๆ
- EXCUSMPTIONหรือ การที่ผู้บริโภคที่มีข้อจำกัดทางด้านการเงิน นำเอาวิธีที่สร้างสรรค์มาใช้ในการแก้ปัญหา เหตุเพราะเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ (โดยเฉพาะทางฝั่งตะวันตก) ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังเรื่องการใช้จ่าย แต่ถึงอย่างไรก็ต้อง ผู้บริโภคก็ยังคงเรียกร้องประสบการณ์ใหม่ๆอยู่เสมอ จึงทำให้การแลกเปลี่ยน หรือ การขายของที่ไม่จำเป็นหรือไม่ต้องการแล้ว เป็นทางเลือกใหม่ที่ฉลาด และ ไม่ต้องรู้สึกผิดกับการใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่เข้าใจในเรื่อง RECOMMERCE อยู่แล้วจะมีการพัฒนาการบริโภคของตนเองอยู่ตลอดและคนกลุ่มนี้จะเลือกใช้ แบรนด์คุณภาพ หรือ มีชื่อเสียงที่สามารถนำไปขายหรือแลกเปลี่ยนได้ง่ายอีกด้วย
โดยแสนสิริเองก็ได้เล็งเห็นถึง พฤติกรรมใหม่ๆของผู้บริโภคในเรื่องการแลกเปลี่ยนอย่างชาญฉลาด และต้องการสร้างสังคมระหว่างครอบครัวของแสนสิริด้วยกันให้แข็งแรงและเชื่อมโยงถึงกันมากยิ่งขึ้น ดังนั้นทางแสนสิริ จึงได้สร้าง เครือสังคมแบบ RECOMMERCE (RECOMMERCE Social Network): SAYSWOP ขึ้นมาเพื่อให้ลูกบ้านในครอบครัวแสนสิริ สามารถแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกันได้ โดยการแลกเปลี่ยนสิ่งที่คนหนึ่งอาจจะไม่ต้องการ แต่เป็นที่ต้องการของอีกคนหนึ่งตามความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย สิ่งจะสร้างการแบ่งปันความสุขให้กับทั้งผู้แลกภายในครอบครัวแสนสิริ สังคม รวมไปถึงสิ่งแวดล้อมของโลกเราใบนี้อีกด้วย โดยลูกบ้านในครอบครัวแสนสิริสามารถร่วมในสังคมของการแบ่งปันความสุขไม่รู้จบได้ที่ Sansiri SaySwop
แสนสิริ SaySwop
Source: www.trendwatching.com