หลังจากที่รถยนต์ Tesla สร้างนวัตกรรมใหม่ด้วยการมีระบบ Autopilot เสมือนเป็นเครื่องบินในรถยนต์ไฟฟ้า 100% จนก่อให้เกิดกระแสเทคโนโลยีไร้คนขับ ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ทั้งหลายและบรรดาบริษัทไอทีทั่วโลกต่างพยายามคิดค้นและสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไร้คนขับที่สมบูรณ์แบบที่สุดออกมา แม้ว่า Tesla จะมีระบบไร้คนขับนี้ใช้มาระยะหนึ่ง และเรียกได้ว่าเป็นค่ายแรกของโลกที่นำระบบนี้มาใช้จริง แต่ระบบนี้ก็ถูกพิสูจน์แล้วว่ายังไม่สมบูรณ์แบบ 100%
นั่นเพราะอุบัติเหตุที่เกิดจากระบบ Autopilot ของ Tesla ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Tesla ก็เกิดอุบัติเหตุอีกครั้งที่รัฐซานฟรานซิสโก เมื่อเกิดเหตุการณ์รถยนต์ Tesla พุ่งเข้าชนรถยนต์ตำรวจที่จอดอยู่ริมถนน แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ตามรายงานข่าวระบุว่า ผู้ขับขี่ชี้แจงว่ามีการใช้ระบบ Autopilot ในการขับขี่รถยนต์ ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ต่อไปว่า มีการใช้ระบบนี้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การขับขี่โดยประมาท
โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานว่ารถยนต์ Tesla พุ่งเข้าชนกับอุปกรณ์สำหรับดับเพลิงจนเกิดความเสียหาย แม้จะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ก็มีการยืนยันว่าเกิดจากระบบ Autopilot ส่งผลให้เกิดข้อสังเกตว่า ระบบ Autopilot ไม่สามารถตรวจสอบวัตถุที่อยู่นิ่งได้ว่าคืออะไร โดยระบบประเมินว่า สิ่งเหล่านั้นไม่มีอันตรายในการเข้าไปใกล้หรือวิ่งผ่านไป
จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ของ Tesla ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า ระบบ Autopilot ต่างๆ ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนการขับรถของมนุษย์ หากแต่เป็นระบบที่ช่วยให้การขับรถของมนุษย์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรจับพวงมาลัยอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงการวางเท้าที่อยู่ในตำแหน่งพร้อมขับอยู่เสมอแม้จะมีการเปิด Autopilot ก็ตาม
เป็นที่น่าจับตาต่อไปว่า Elon Musk จะแก้ไขวิกฤตการณ์นี้ได้อย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้ Tesla พึ่งประสบปัญหาส่งมอบรถยนต์รุ่น Tesla Model 3 ล่าช้ากว่ากำหนด จน Elon Musk ต้องเข้าไปควบคุมการผลิตด้วยตัวเอง
