เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด คิโกะ มิซูฮาระ ตอกย้ำผู้นำด้านไลฟ์สไตล์

  • 123
  •  
  •  
  •  
  •  

Central-Embassy-5

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เปิดฉากถ่ายทอดปรากฏการณ์ที่สุดของความสมบูรณ์แบบอย่างเต็มขั้น พร้อมเผยโฉม The Most Iconic Retail Landmark ที่เสร็จสมบูรณ์ ผ่านแคมเปญล่าสุด This brings me here” (ดิส บริง มี เฮียร์) ตอกย้ำความเป็นที่สุดแห่งจุดหมายด้านไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ใจกลางกรุงเทพมหานคร เติมเต็มทุกความต้องการที่แตกต่าง ด้วยการเปิดตัวไฮไลท์ 2 โซนไลฟ์สไตล์ใหม่สุดล้ำ

Open House (โอเพ่น เฮ้าส์) และ SIWILAI CITY CLUB (ศิวิไล ซิตี้ คลับ) รวมถึง โรงแรม Park Hyatt Bangkok (พาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ) ที่พร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในเดือนพ.ค.นี้ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักช้อปจากทั่วทุกมุมโลกอย่างครบครัน ทั้งไลฟ์สไตล์ชั้นเลิศ, แฟชั่นชั้นนำ, อาหารรสเยี่ยมหลากเชื้อชาติ, ดนตร,ศิลปะ และงานดีไซน์จากศิลปินชื่อดังทั่วโลก ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เดินทางมาสัมผัสประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก สมเป็น The retail beacon of Bangkok หนึ่งเดียวในใจกลางย่าน “Central Bangkok”

เพื่อสะท้อนนิยามของแคมเปญ This brings me here เซ็นทรัล เอ็มบาสซี จึงประเดิมสร้างกระแสความฮือฮา ด้วยการเลือก ‘Kiko Mizuhara’ นางแบบและนักแสดงชั้นนำของเอเชีย สไตล์ไอค่อนที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ (ปัจจุบันมีผู้ติดตาม IG จำนวน 4.3 ล้านคน)  มาเป็นตัวแทนถ่ายทอดประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีรสนิยมและมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นของสาวมั่นเป็นตัวของตัวเองอย่างเด่นชัด บวกกับความสามารถในหลายๆ ด้านทั้งงานแสดง บทบาทแฟชั่นดีไซเนอร์ ไปจนถึงผลงานเดินแบบบนรันเวย์ระดับโลก ทำให้สาวน้อยลูกครึ่งอเมริกัน-เกาหลีคนนี้ สามารถถ่ายทอดคาแร็คเตอร์ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ในฐานะอาณาจักรแห่งผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ระดับสากลที่แตกต่างด้วยศิลปะและรสนิยมที่ถูกคัดสรรมาเป็นพิเศษได้อย่างชัดเจน

Central-Embassy-4

บรม พิจารณ์จิตร กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เล่าถึงที่มาของแคมเปญ “This brings me hereว่า “บนพื้นที่กว่า 1.4 แสน ตร.ม. ของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี และโรงแรม Park Hyatt Bangkok ถือเป็นศูนย์กลางของรสนิยมและไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตทุกรูปแบบ ที่นอกจากจะมีมาตรฐานของการให้บริการเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแล้ว ยังเข้าถึงได้ง่ายอีกด้วยโดยในปีนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ได้เติมเต็มด้วยแมกเน็ตนำเสนอสินค้าและของการบริการในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ความโดดเด่นคือการเปิดตัวพื้นที่ใหม่2 โซนหลัก คือ Open House พื้นที่สร้างสรรค์และเชื่อมโยงความสุขของทุกเจเนอเรชั่น ในคอนเซ็ปต์ “Co-Living Space” บนชั้น 6 ที่รายล้อมไปด้วยองค์ประกอบของไลฟ์สไตล์ที่สร้างสรรค์ทั้งหนังสือ ศิลปะ อาหาร งานดีไซน์ ไปจนถึงสนามเด็กเล่นสำหรับครอบครัว และยังมีส่วนของพื้นที่ทำงานแบบ Co-Thinking Space ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่พร้อมริเริ่มไอเดียต่างๆ ได้ทุกที่ ด้วยบรรยากาศวิวทิวทัศน์360 องศา และยังเชื่อมต่อถึงโรงภาพยนตร์ระดับ VIP ที่ดีที่สุดในประเทศไทย อย่าง Embassy Diplomat Screen by AIS และทางเชื่อมสู่การนอนพักผ่อนระดับเวิลด์คลาสที่โรงแรมปาร์ค ไฮแอท กรุงเทพ

เรียกว่าเป็นการรวมความหมายการใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบ Eat-Live-Sleep ไว้อย่างลงตัวและเตรียมเปิดตัว SIWILAI CITY CLUB โซเชียลคลับที่ต้อนรับทุกคน บนชั้น 5 ซึ่งเป็นส่วนขยายของศิวิไลที่เน้นเรื่องไลฟ์สไตล์,อาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษ รวมไปถึงโปรแกรมเอ็นเตอร์เม้นท์ที่จัดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้เป็นสถานที่แห่งการพักผ่อน สังสรรค์กับเพื่อนฝูงและครอบครัว มีจุดเด่นอยู่ที่วิวรูฟท็อป (roof top) ใจกลางกรุงเทพฯโดยจะเปิดให้บริการในเดือนมี.ค.

อีกทั้ง โรงแรม Park Hyatt Bangkok โรงแรมลักชัวรี่ระดับพรีเมี่ยมในเครือไฮแอท ที่ชั้นบนของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่พร้อมเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 12 พ.ค. นี้  พร้อมร่วมจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่เสร็จสมบูรณ์ ในเดือนพ.ค. นี้ นอกจากนี้ ยังได้มีการขยายโซน Eathai ไปเมื่อปีที่แล้ว

Central-Embassy-6

ทั้งนี้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี ยังมุ่งมั่นพัฒนาเพิ่มความหลากหลายทั้งแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่ต่างทยอยเปิดร้านใหม่อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น MCM,Alice and Olivia,Topshop,MUJI ด้วยคอนเซปต์สโตร์ใหม่ล่าสุด และคัดสรรไอเท็มยูนีคไม่ซ้ำกับสาขาอื่นไปจนถึงอีกหลากหลายแบรนด์ดังที่กำลังจะตามมาในอนาคต รวมถึงร้านอาหารชื่อดังอย่าง Another Hound Caféส้มตำนัว และ Siwilai Café ตลอดจนการนำเสนอกิจกรรมทางการตลาดทั้งอีเว้นท์และโปรโมชั่นที่หลากหลาย สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการที่สุดพิเศษ ภายใต้การออกแบบภายในที่สวยงามทันสมัยและอบอุ่น ในขณะที่ดีไซน์ภายนอกอาคารมีความโดดเด่นสะดุดตา สื่อถึงพลังของอาณาจักรไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์ สำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัยที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว

ด้วยความสมบูรณ์แบบของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ที่เสร็จสมบูรณ์ ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาของแคมเปญ “This Bring Me Here” ไม่เพียงตอกย้ำภาพลักษณ์ผู้นำด้านรีเทลและไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นของเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เท่านั้น แต่ยังตอบโจทย์ถึงความสมบูรณ์แบบในการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ทุกเพศทุกวัย ทั้งกลุ่มเทรนด์เซตเตอร์ กลุ่มนักธุรกิจ กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ชื่นชอบสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์แต่ยังเข้าถึงได้ง่าย โดยจะเป็นตัวแทนที่แสดงให้เห็นว่า ทุกคนมีเหตุผลในการเดินทางไปในที่ต่างๆ แม้แต่สไตล์ ไอค่อนระดับโลก

‘คิโกะ’ เองก็เช่นกัน ถึงแม้ประเทศไทยมีสถานที่ช้อปปิ้งมากมาย แต่เธอเลือกที่จะเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เพื่อการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง ใช้เวลากับคนรัก กับครอบครัว การรับประทานอาหาร หรือการช้อปปิ้งกับโปรโมชั่นดีที่สุด การมอบของขวัญ การสร้างเซอร์ไพรส์ การชมศิลปะ ฯลฯ ทำให้ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี คือ เดสทิเนชั่น (Destination)สถานที่ลำดับแรกในหัวใจของทุกคนเสมอ และเชื่อว่าทุกคนจะมาสัมผัสและพบคำตอบด้วยตัวเอง ว่าทำไม ‘คิโกะ’ และทุกคนถึงได้มาที่นี่ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี

มาร่วมติดตามหาคำตอบด้วยกัน กับวิดีโอเบื้องหลังการถ่ายทำแคมเปญ “This brings me here” โดย เต๋อ- นวพลธำรงรัตนฤทธิ์ พร้อมแชร์เรื่องราวและประสบการณ์ดีๆร่วมกับ Central Embassy ผ่าน#thisbringsmehere ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/centralembassy และ Instagram @centralembassy

httpv://youtu.be/gPHupZMCvYc


  • 123
  •  
  •  
  •  
  •