The Voice กับความสำเร็จบน Social Network

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลายคนคงได้ดูรายการเรียลลิตี้ใหม่ The voice Thailand สำหรับคนที่ยังไม่คุ้ยเคยกับรายการนี้ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้เพลงแบบใหม่ ที่ให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน “เลือก” ไปอยู่ทีมนักร้องมืออาชีพ 1 ท่านจาก 4 ท่าน แล้วให้สมาชิกในแต่ละทีมมาแข่งกันเองก่อน เพื่อหาตัวแทนของทีม ก่อนจะไปแข่งขันระหว่างทีมอีกที ซึ่งในรอบที่แข่งขันกันระหว่างทีมของโค้ชแต่ละคนนั้นจะมีผลโหวตของแฟนๆ จากทางบ้านเป็นตัวตัดสินว่าใครจะเข้าไปในรอบต่อไป

The Voice นั้นเป็นที่พูดถึงอย่างมากในอเมริกาว่าเป็นรายการที่มีความแปลกใหม่อย่างแท้จริง และสามารถดึงผู้ชมจากทางบ้านเข้าร่วมได้เป็นอย่างดีผ่านทาง Social Network อย่าง Twitter ทำให้เรทติ้งนั้นพุ่งกระฉูดไปเป็นอันดับหนึ่งในซีซั่นเปิดตัว อันที่จริงแล้วรายการนี้ดัดแปลงมาจากรายการโทรทัศน์ของประเทศฮอลแลนด์ The Voice of Holland โดยระหว่างในรายการนั้นจะมีการทวิตสดๆ จากผู้ร่วมรายการแข่งขัน (ซึ่งจะมีห้อง Social Media room ไว้ให้ผู้เข้าแข่งขันทวิต และตอบทวิตคำถามจากผู้ชมทางบ้าน) และด้วยเหตุผลนี้รายการจึงกลายเป็นหัวข้อ Trending ของทั่วโลก ทีมงานของ NBC เห็นดังนั้น จึงได้นำมาทำเป็นรายการเรียลลิตี้ใหม่ แต่จะทำยังไงให้ไอเดียนี้ประสบความสำเร็จในอเมริกา

“ในตอนแรก Social media และภาพลักษณ์ด้าน Digital ของรายการนั้นสำคัญต่อพวกเรามาก” Nicolle Yaron, Supervising Producer ของรายการกล่าว Nicolle ต้องการสร้าง Active Engagement และสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงโค้ชทั้ง 4 คน เพื่อให้ผู้ชมเห็นว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเข้าถึงดาราดัง “เราต้องการสร้างประสบการณ์แบบ Real-time ในการดูรายการโทรทัศน์ร่วมกัน (ผ่าน Social network) อย่างแท้จริง”

The Voice อเมริกานั้นได้เปิดมุมมองด้าน Social Media ให้กว้างขึ้นไปอีก โดยได้ให้โค้ช และแฟนๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการทวิต (tweet) ด้วยจำนวนผู้ชมที่ทวิตเข้ามามหาศาลทำให้ NBC ต้องทำการคัดกรองข้อความทวิต เพื่อที่จะสามารถควบคุมปริมาณการทวิตได้

 

แต่สิ่งที่ทำให้รายการ The Voice แตกต่างจากรายการโทรทัศน์อื่นๆ นั้นก็คือรายการอื่นใช้ Social media เป็นเครื่องมือในการตลาดและ การสร้างกระแส แต่สำหรับ The Voice แล้ว Social media นั้นถือเป็นหัวใจหลักของรายการ ทำให้การประยุกต์ใช้สื่อ Digital ในรายการเป็นสิ่งสำคัญมาก “ในปัจจุบันนี้ การใช้สื่อดิจิตอลและ Social Media เข้ามาช่วยให้รายโทรทัศน์ประสบความสำเร็จนั้นเป็นเรื่องที่ไม่นึกถึงไม่ได้ เราใช้ทั้งสองสื่อนี้มาตั้งแต่ช่วง Pre-production มาจนถึงตอนจบรายการ” Nicolle Yaron กล่าว ทางทีมงานได้วางกลยุทธ์ด้านดิจิตอลไว้ถึงสามขั้นตอน รวมไปถึงอดหลับอดนอนเพื่อพยายามคิดหากลยุทธ์บน  Social Media ที่เหมาะสม “พวกเราทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เผลอๆ จะทะลุเป้าอีก และฉันคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่จะยิ่งมีการเติบโตมากขึ้นไปอีกในซีซั่นใหม่ ในขณะที่ดิจิตอล และ Social Media นั้นเปลี่ยนไปเราก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปด้วย ตอนนี้เราเป็นผู้นำเทรนด์แล้ว และเราจะพยายามนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มารวมไว้ด้วยกันเพื่อพัฒนารายการให้ดียิ่งขึ้น” Nicolle กล่าวปิดท้าย

เป็นรายการทีวีอีกรายการหนึ่งที่หน้าจับตามองว่า ทาง The Voice Thailand ของเราจะประสบความสำเร็จเหมือนกับที่อเมริกาหรือไม่ เพราะตัวคอนเทนส์ของรายการนั้นดีอยู่แล้ว ก็เหลือแต่การนำสื่อดิจิตอลและสื่อ Social Media มาใช้ให้เข้ากับพฤติกรรมคนไทยก็เท่านั้นเอง ถ้าทาง The Voice Thailand ทำสำเร็จได้นอกจากจะเป็นที่ฮือฮาแล้ว ก็คงจะเป็นการปฏิวัติรายการเพลงแบบเรียลลิตี้ในบ้านเราอีกด้วย

ที่มา: Mashable


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
Mayie May
เมย์ยี่...ด้วยความที่เป็นเด็กการตลาด จึงชอบที่จะสนุกสนานไปกับไอเดียโฆษณาเก๋ แปลก และล้ำ เพื่อเอามาเล่าต่อให้เพื่อนๆ ฟังอย่างรื่นเริง การได้เพลิดเพลินบนโลกดิจิตอลมาร์เกตติ้ง รวมไปถึงโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ คือความสุขของเมย์ยี่ สามารถติดตามผลงานการเขียนของเมย์ยี่ได้ที่ @MarketingOops และ facebook.com/MarketingOopsFan