การแข่งขันในตลาด ‘สมาร์ทโฟน’ นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น ซึ่งล่าสุดบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัว Pixel รุ่นใหม่พร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น ได้แก่ Pixel 4A, Pixel 5 และ Pixel 4A 5G ทั้งนี้ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ จะเป็นวันแรกที่เริ่มจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้า หลังจากที่เปิดให้จองได้แล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ในล็อตที่หนึ่งที่เตรียมจัดส่งลูกค้าจะมีแค่ ‘Pixel 4A’ ก่อนเท่านั้น โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 10,855 บาท)
ส่วนรุ่นที่จะเปิดตัวต่อมา คือ Pixel 5 ความโดดเด่นและเป็นคุณสมบัติแรกของ Google Pixel นั่นคือ สามารถรองรับเทคโนโลยี 5G ได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถจัดส่งสินค้าได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ระหว่าง ก.ย. ถึง พ.ย.) โดยสมาร์ทโฟน Pixel 4A และ Pixel 5 จะจัดจำหน่ายในบางประเทศเท่านั้น ได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น ไต้หวัน และ ออสเตรเลีย (ซึ่งไม่มีในประเทศไทย)
และรุ่นสุดท้าย คือ Pixel 4A 5G ซึ่งสนนราคาอยู่ที่ 499 ดอลลารสหรัฐฯ (ราว 15,528 บาท) โดยจะเริ่มจัดส่งสินค้าได้ ตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ กล้องถ่ายรูปในซีรีส์ Pixel ถือเป็นทั้งจุดเด่นและเอกลักษณ์ของแบรนด์มานาน ด้วยคุณภาพของภาพที่ออกมาและสไตล์ภาพแนว HDR โดย Pixel 4A จะเป็นกล้องโมเดลเดียวกับ Pixel 4 และ 4 XL ซึ่งมีความละเอียด 12.2MP พร้อมระบบโฟกัส dual pixel + PDAF ขณะที่ ฟีเจอร์อื่นที่ได้รับความสนใจคงเป็น HDR+, Portrait Mode, Top Shot, Night Sight with astrophotography และ Super Res Zoom ซึ่งอยู่ในซีรีส์ Pixel ทั้งหมดเช่นเดิม
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เด่นๆ ที่ยกมาจาก Pixel 4 ได้นำมาใส่ในรุ่นใหม่ด้วย เช่น Recorder และ Live Caption สำหรับถอดเสียงให้เป็น text แบบ real-time (รองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้นในปัจจุบัน) ทั้งยังมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่น่าสนใจ อย่าง Personal Safety ที่ตัวเครื่องจะทำการโทรแจ้งตำรวจให้อัตโนมัติหากผู้ใช้ประสบอุบัติเหตุรถชน แต่ฟีเจอร์นี้จะรองรับแค่บางประเทศเท่านั้น
ทางด้าน Brian Rakowski รองประธานฝ่ายการจัดการโปรดักซ์ของ Google บอกว่า “ความสำเร็จของ Pixel 3a สำหรับโมเดลทั้งหมดยังอยู่ครบใน Pixel 4A และรุ่นใหม่ที่เปิดตัวด้วย แต่มีฟีเจอร์ และฟังก์ชั่นบางอย่างเพิ่มเข้ามาเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิม สำหรับจุดยืนของ Pixel คือ ราคาไม่แพง แต่คุณสมบัติของสมาร์ทโฟนเกินราคา โดยเฉพาะระบบ hardware”
ที่มา : theverge, japantoday, store.google