
สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ในหลายๆ ประเทศส่งสัญญาณเริ่มดีขึ้น หรือถือว่าอยู่ในระดับที่ ‘ทรงตัว’ ขณะเดียวกันหลายประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการ lockdown ในหลายส่วน รวมไปถึง ประเทศไทยเองที่ในวันนี้ (17 พ.ค. 63) ห้างสรรพสินค้ากลับมาเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก หลังจากที่ปิดให้บริการมานานกว่า 2 เดือน แต่ยังมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดตามที่รัฐบาลประกาศ
ในฝั่งของ ‘ญี่ปุ่น’ หนึ่งในประเทศที่รัฐบาลประกาศให้ lockdown เป็นครั้งที่ 2 เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา หลังจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพราะประชาชนออกไปนอกบ้านมากเกินไป รวมไปถึงหลายๆ บริษัทในญี่ปุ่นเริ่มกลับมาทำงานตามปกติได้แล้ว ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สหพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของญี่ปุ่น ได้เรียกร้องให้บริษัทที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม และกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกประมาณ 80 กลุ่มด้วยกัน ได้เสนอแนวทางที่สามารถลดความเสี่ยงในการเพิ่มผู้ติดเชื้อ COVID-19 มากขึ้น ด้วยการทำงานเพียง 4 วัน/สัปดาห์ ซึ่งมองว่า เป็นการช่วยลดความแออัดในที่สาธารณะได้มาก
นอกจากนี้ ได้เสนอให้มีการจัดการประชุมผู้ถือหุ้นอย่างยืดหยุ่น เช่น อนุญาตให้ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าก่อนการประชุมได้ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่การประชุมผู้ถือหุ้นจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้
หลังจากที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉินใน 39 จาก 47 จังหวัด เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา คาดว่าจะบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 2563
ตัวอย่างเช่น บริษัท Hitachi ประกาศจะเริ่มกลับมาทำงานที่สำนักงานในวันที่ 18 พ.ค.นี้ เป็นเวลา 1-2 วัน/สัปดาห์ ขณะที่ บริษัท Toshiba ประกาศว่า เป็นไปได้ว่าจะอนุญาตให้พนักงานในส่วนของโรงงานกลับมาทำงานได้ 4 วัน/สัปดาห์ ตามคำแนะนำของ สหพันธุ์ธุรกิจญี่ปุ่น
ขณะที่ นายชินิชิโระ ทากาโอะกะ (Shinichiro Takaoka) ประธานของสหพันธุ์ธุรกิจญี่ปุ่น กล่าวแนะนำไปถึง ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงร้านค้าสะดวกซื้อด้วย “ควรจำกัดเวลาสำหรับผู้สูงอายุ และสตรีที่มีครรภ์ในการเข้ามาช้อปปิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงสำหรับกลุ่มคนเหล่านั้น”

ที่มา : japantoday