หรือจะเกิดสงครามการค้าอีกคู่ หลัง #Boycott Japan ต้านสินค้า-การท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น ขึ้น trending บนโลกโซเชียลเกาหลีใต้

  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

ไม่รู้ว่าจะเกิดสงครามทางการค้าอีกคู่หรือไม่ หลัง #BoycottJapan ติดอันดับ trending บนโลกโซเชียลที่เกาหลีใต้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการคว่ำบาตรการท่องเที่ยวและสินค้าอุปโภคบริโภคของญี่ปุ่น

“ไม่ , คว่ำบาตรญี่ปุ่น : อย่าไปอย่าซื้อ” (No , Boycott Japan : Don’t go , don’t buy) เป็นข้อความที่ระบุ พร้อมกับแฮชแท็ก

ที่มาของแฮกแท็กนี้ เป็นการแสดงความไม่พอใจจากกรณีรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงแก่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 5.79 ล้านล้านเยน หรือราว 53.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากแฮกแท็ก แล้ว ชาวเกาหลีใต้ยังมีมาตราการต่อต้านต่าง ๆ ออกมาร่วมด้วย อาทิ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชาวเกาหลีใต้ได้ยกเลิกการจองเที่ยวบินเพื่อไปญี่ปุ่น ทั้งโตเกียว , โอซาก้าและเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ ซึ่งหน่วยงานการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในปี 2561 ชาวเกาหลีใต้เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายอยู่ราว 584.2 พันล้านเยน คิดเป็น 13 % ของการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาญี่ปุ่นทั้งหมด

ส่วนกลุ่มพันธมิตรซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลี ซึ่งเป็นตัวแทนของร้านค้ามากกว่า 23,000 แห่งก็ได้มีแถลงการณ์ จะหยุดการขายผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นชั่วคราวรวมถึงเบียร์ของ Asahi และ Kirin Holdings Co. และบุหรี่ จาก บริษัท Mild Seven ของญี่ปุ่น

ความแสดงไม่พอใจและมาตราการต่อต้านที่แสดงถึงชาตินิยมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ปะทุมาตลอดหลายสิบปีจากปัญหาความไม่พอใจที่ญี่ปุ่นได้รุกรานเกาหลีใต้ในช่วงการล่าอาณานิคมเมื่อปี 1910-1945

 

ที่มา :boycott-japan


  • 1.3K
  •  
  •  
  •  
  •