คนในยุคเจเนเรชั่น Y ก้าวเข้าสู่การดำเนินชีวิตแบบ ‘ชีวิต…เคลื่อนที่’ ซึ่งหมายถึงการดำเนินชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่เสมอไป การทำงานนอกสถานที่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของบริษัทไอที เพราะหลายองค์กรในปัจจุบันใช้ระบบเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเป็นศูนย์กลางแทนการพบเจอกัน
CYOD เทรนด์ไอทีของปี 2014
CYOD (Choose Your Own Device) เป็นเทรนด์ที่มีการพัฒนามาจาก BYOD (Bring Your Own Device) แต่เดิมที่พนักงานนำอุปกรณ์ไอทีส่วนตัวอาทิ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เข้ามาใช้ในที่ทำงาน ทำให้องค์กรสามารถประหยัดงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ไอทีราคาสูงเหล่านี้ให้กับพนักงาน แต่ขณะเดียวกันอุปกรณ์ที่นำมาใช้ต้องได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยก่อนนำมาเชื่อมต่อกับระบบกลางขององค์กรด้วยเช่นกัน
ผลสำรวจจากไซแมนเทคพบว่า หน่วยงานที่เสียงต่อการติดไวรัสมากที่สุดอาจเป็นแผนก HR เนื่องจากแผนกบุคคลต้องเปิดอีเมลล์เพื่อเช็คประวัติผู้สมัคร เมื่อมีคนส่งไฟล์แนบมาก็จำเป็นต้องคลิกดู จึงเป็นช่องทางให้อาชญากรไซเบอร์สามารถเข้าไปยังข้อมูลของบริษัทได้ ดังนั้นความปลอดภัย ได้กลายเป็นปัจจัยหลักเมื่อระบบเครือข่ายขององค์กรมีการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้งานจนยากต่อการควบคุม ส่งผลให้หลายองค์กรออกนโยบาย CYOD หรือจำกัดอุปกรณ์เพื่อให้พนักงานเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น การจำแนกประเภทของอุปกรณ์ เช่น OS X, Lenux, Windows, Android, และ iOS เป็นต้น เพื่อให้การใช้งานในสำนักงานมีความคล่องตัวและปลอดภัยมากที่สุด
หยุดการให้บริการ Windows XP
หลังจากวันที่ 8 เมษายน 2557 ไมโครซอฟท์ได้ประกาศยุติบริการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ Windows XP ที่ให้บริการมานานกว่า 10 ปี ซึ่งน่าจะถือว่า เป็นการสิ้นสุดยุคของ PC เพื่อเริ่มต้นเข้าสู่ ยุคของคลาวด์อย่างแท้จริง เป็นสาเหตุให้เกิดผลกระทบต่อองค์กรธุรกิจบางประเภท ซึ่งฝ่ายไอทีของแต่ละบริษัทต้องกลับมาทบทวนเรื่องของอุปกรณ์ไอทีต่างๆที่จะนำมาใช้ ให้มีความสะดวก คล่องตัว และรองรับการใช้งานนอกสถานที่ของพนักงาน พร้อมคำนึงถึงความปลอดภัยเมื่อเชื่อมต่อยังระบบออนไลน์เป็นสำคัญ
ทางเลือกขององค์กรหลังการหยุดให้บริการคือ 1.เลือกซีเคียวริตี้ที่ช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่รันระบบปฏิบัติการ Windows XP ต่อได้จนกว่าองค์กรจะมีงบประมาณพร้อมในการอัพเกรดระบบปฏิบัติการโดยไม่ต้องกังวลเรื่องช่องโหว่ใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้น 2.เปลี่ยนเป็นระบบปฏิบัติการ Windows 8 Pro หรือ Office ตัวใหม่ (Office 365 หรือ Office 2013) ที่จะช่วยในการผลักดันธุรกิจ เพิ่มความปลอดภัย ความสะดวกในการพกพา การใช้งานและความยืดหยุ่นในการทำงาน
Macintosh หนึ่งในตัวเลือกคุ้มค่า
ปัจจุบัน ความต้องการของผู้บริโภคและองค์กรมีความแตกต่างกัน องค์กรส่วนมากต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีสมรรถนะสูง มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และมีความแข็งแรงคงทน ในขณะที่ผู้ใช้งานทั่วไปต้องการอุปกรณ์พกพาที่มีลักษณะสวยงาม พกพาสะดวก ส่งผลให้หลายองค์กรที่กำลังวางแผนจัดซื้ออุปกรณ์ อาทิเช่น โน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ต ให้แก่พนักงานเพื่อความคล่องตัวในการใช้งานที่บริษัทและที่บ้าน รวมถึงองค์กรที่มีนโยบายสนับสนุนเงินจำนวนหนึ่งในการซื้ออุปกรณ์ให้กับพนักงาน นำเครื่องแม็คฯเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของระบบ CYOD
ที่ผ่านมา โมเดลของบริษัทแอปเปิ้ลไม่เคยอยู่ในลิสต์อุปกรณที่ได้รับอนุญาติใช้งานจากบริษัทต่างๆในประเทศไทย ด้วยสาเหตุของโครงสร้างระบบปฏิบัติการวินโดวน์ที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในทุกอุตสาหกรรมโดยเฉพาะภาครัฐ การเงินธนาคาร และภาคการผลิต แต่ด้วยมุมมองของผู้คนที่เห็นว่าแม็คบุ๊กมีดีไซน์ทันสมัย ภายนอกดูหรูหรา พร้อมด้วยสมรรถนะสูง เมื่อองค์กรนำเครื่องแมคฯไปเป็นหนึ่งในตัวเลือก แนวโน้มของพนักงานจึงเอนเอียงไปทางแม็คบุ๊กมากขึ้น เนื่องจากเป็นการตัดสินใจโดยไม่เสียเงินหรือเสียจำนวนน้อยแต่ได้อุปกรณ์สิ่งคุ้มค่า ซึ่งตรงกันกับผลสำรวจของ Gartner บริษัทวิจัยและให้คำแนะนำด้าน IT ในสหรัฐอเมริกา ที่บ่งชี้ว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ของแอปเปิ้ลในปี 2013 เติบโตขึ้นจากปี 2012 ถึง 28 เปอร์เซ็นต์ และมีการคาดเดาว่าปี 2014 นี้ก็จะเติบโตขึ้นอีกเช่นกัน
ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับความปลอดภัยบน Mac OS X
ถึงแม้ว่า แม็คบุ๊คจะเป็นที่ต้องการมากขึ้น แต่ผู้ใช้งานส่วนมากมักจะเข้าใจว่าระบบปฏิบัติการ OS X ของ Mac ไม่มีทางติดไวรัส สืบเนื่องจากในอดีตแอปเปิ้ลเคยโฆษณาในเว็บไซต์ของบริษัทว่า ”It doesn’t get PC viruses“ และ “Safeguard your data. By doing nothing.” เป็นต้น เพราะขณะนั้นผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ OS X มีสัดส่วนน้อยกว่าวินโดว์ อีกทั้งยังมีผู้ให้บริการหลายเจ้าที่ใช้ระบบปฏิบัติวินโดว์ อาทิเช่น HP, Lenovo, Dell, Acer, และ Asus เป็นต้น ซึ่งแต่เดิมการติดไวรัสจะเกิดต่อเมื่อผู้ใช้นำฮาร์ดดิสหรือแฟลชไดรฟ์ส่งต่อข้อมูล ต่างจากปัจจุบันที่เครื่อข่ายเน็ตเวิร์คเชื่อมต่อถึงกันหมด ทำให้ไวรัสในรูปแบบต่างๆสามารถแพร่กระจายได้เพียงแค่คลิ๊กลิงค์หรือดาวน์โหลดไฟลล์ จึงสรุปได้ว่าผู้สร้างไวรัสเลือกโจมตีระบบที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า ส่งผลให้การเพิ่มจำนวนของไวรัสบนคอมพิวเตอร์เติบโตขึ้นตามปริมาณการใช้งานของผู้บริโภคเป็นหลัก
การติดตั้งโปรแกรมไม่ไม่มีลิขสิทธิ์บนเครื่องแมค เป็นอีกหนึ่งช่องโหว่สำหรับองค์กร เมื่อมีการนำแม็คบุ๊กมาใช้ในองค์กร ความเสี่ยงก็จะอาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกันกับระบบปฏิบัติการอื่นๆ ดังนั้นหลายองค์กรจึงมีความต้องการในการควบคุมที่มีมาตรฐานมากขึ้น
ป้องกันความเสี่ยงด้วยระบบซีเคียวริตี้ที่น่าเชื่อถือ
นพชัย ตั้งไตรธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ไซแมนเทค ประเทศไทย ให้ความเห็นว่า รูปแบบของภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีแนวโน้มจะกลายเป็นการโจมตีแบบมีเป้าหมายมากขึ้น เพราะเริ่มมีการคำนึงถึงแรงจูงใจ และเป้าหมายในการโจมตีด้วย โดยเป้าหมายหลักของการโจมตีแบบมีเป้าหมายจะเล็งผลไปที่องค์กรขนาดเล็ก เพราะมีการป้องกันต่ำกว่าองค์กรขนาดใหญ่ ทั้งในแง่ของเงินลงทุนเพื่อป้องกันภัยคุกคาม และความแข็งแรงของระบบ เพื่อเป็นช่องทางในการโจมตีเข้าไปยังองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายหลักต่อไป
“ไซแมนเทค ได้เพิ่มเติมเทคโนโลยีการป้องกันภัยคุกคามบนเครือข่าย (Network Threat Protection) ให้กับเวอร์ชั่นของเครื่องแม็ค จากจุดเริ่มต้นที่การโจมตีส่วนใหญ่จะมาจากการเปิดไฟล์แนบ หรือคลิกลิงก์ ซึ่งการป้องกันไม่ให้เกิดการโจมตีจะใช้จากการเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้หลงเปิดไฟล์ที่ไม่แน่นอน แล้วก็มีอีกวิธีคือการ Disarmed หรือปลดชนวนไฟล์ให้มีความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดการเชื่อมต่อจากในไฟล์”
โดยการป้องกันภัยคุกคามบนเครือข่ายของไซแมนเทคจะแทรกแซงทราฟิกเครือข่ายขาเข้าก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์แมค โดยจะมองหาเฉพาะจุดอ่อนสำหรับการโจมตีแบบมีกลุ่มเป้าหมาย และจะป้องกันการโจมตีดังกล่าวโดยอัตโนมัติ
MacBook ที่น่าสนใจเพื่อนักธุรกิจและคนรุ่นใหม่
MacBook Pro with Retina Display 13″
โน้ตบุ๊คตระกูลโปร สำหรับผู้ใช้งานมืออาชีพ หน้าจอขนาด 13 นิ้ว พร้อม Retina Display ความละเอียดสูงที่เหมาะกับงานตัดต่อต่าง ๆ รวมถึงมีน้ำหนักเบา ประมาณ 1.6 กิโลกรัม มีพอร์ตเชื่อมต่อความเร็วสูง และแบตเตอร์รี่ที่อยู่ได้ประมาณมากกว่า 6 ชั่วโมง (โน้ตบุ๊กทั่วไปจะสามารถใช้งานโดยไม่ชาร์ตได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง) ทำให้สามารถพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้สะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งวัสดุของตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี ‘Unibody’ ซึ่งมีความแข็งแรงมากกว่าพลาสติกทั่วไป นอกจากนั้นยังมีะบบปฏิบัติการที่เสถียรอย่าง Mac OS X, ชุดโปรแกรม iLife, iTunes และ iCloud ที่เข้ามาเสริมกันและกันให้โน้ตบุคในตระกูล MacBook คุ้มค่าต้อการเลือกใช้ในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม MacBook ยังมีปัญหาในเรื่องของการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ชนิดอื่น อาทิเช่น การใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการวินโดว์ โดยเฉพาะงานเอกสาร แม้จะใช้ Microsoft เหมือนกัน แต่การเปิดงานนั้นจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดหน้า หรือฟอนต์ที่มีไม่เหมือนกัน ดังนั้นการเลือกแล็บท๊อปนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษรการใช้งานของแต่ละบุคคล เพื่อให้การใช้งานทั่วไปและการดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สามารถติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ นิตยสาร E-Commerce ฉบับที่ 184
หรือทาง www.ecommerce-magazine.com
