“กลัวมากกับคำว่า แบรนด์ดารา” โอปอล์ ปาณิสรา เผยเคล็ดลับทำธุรกิจอย่างไรให้รอด

  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

opal

เราเห็นภาพของดาราและบุคคลมีชื่อเสียงมากมายที่ตัดสินใจกระโจนตัวเองลงทำธุรกิจ ซึ่งหลายคนก็ใช้ความดังของตัวเองในการสร้าง Awareness ให้กับสินค้าซึ่งบ้างก็ประสบความสำเร็จ และบ้างก็ดังเหมือนพลุที่จุดติดแล้วก็ดับหายไป

แต่อาจจะไม่ใช่สำหรับนักแสดงมากความสามารถคนนี้ เธอเป็นทั้งพิธีกร เป็นคุณแม่ลูกสอง และยังเป็นไอดอลของใครอีกหลายคน “โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล หรือแม่โอป ของบรรดาชาวเน็ตทั้งหลาย ที่วันนี้เธอได้มาเผยเคล็ดลับการทำธุรกิจมากมายของเธอ ในงานThailand e-commerce Week 2017 จัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในช่วงที่ผ่านมา

โอปอล์ เล่าถึงธุรกิจแรกที่ทำได้แก่ ธุรกิจร้านกาแฟ O’s Coffee By Opal (โอ คอฟฟี่) โดยบอกว่าเริ่มต้นจากแพสชั่นความชอบกาแฟ และเห็นว่ากาแฟดีๆ ส่วนใหญ่จะราคาแพงตอนนั้นมีแต่ร้านแฟรนช์ไชส์ต่างประเทศที่นำเข้ามา ก็เลยเกิดความคิดว่าคนไทยน่าจะทำเองได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายสาขาและประสบความสำเร็จด้วยดี

ต่อมาก็เปิดบริษัทออนไลน์มาร์เกตติ้ง ชื่อว่า “บริษัท นางแมวป่า จำกัด” ซึ่งเป็นไอเดียที่ผุดขึ้นในห้องซีร็อกซ์ของจีทีเอช ที่มีความรู้สึกว่าเราจบนิเทศศาสตร์ แต่ยังไม่ได้ทำงานในสิ่งที่ตัวเองเรียนมาอย่างเต็มที่ ก็เลยชักชวนเพื่อนๆ ที่รู้จักเปิดบริษัทโปรดักส์ชั่นเฮาส์ขึ้น ทำรายการแรกคือ Loukgolf’s English Room และ รายการ “DOCTOR SMITH” เป็นรายการสุขภาพ รายการ Opal Law เฟิร์ม เป็นรายการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรายการ Edutainment นำเสนอสาระความรู้ที่ย่อยให้เข้าใจง่าย

opal2

มาถึงตรงนี้ โอปอล์ ก็เล่าถึงโปรดักส์ล่าสุด ที่ทำมาได้พักใหญ่แต่เพิ่งมาทำการตลาด ได้แก่ โอปโซพ (Oab’s Soap) ซึ่งปรากฏว่ากลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนการันตีว่าดีจริง

โอปอล์ เล่าถึงที่มาของสบู่ตัวนี้ว่า มันเริ่มมาจากที่ร้านกาแฟของตัวเองชอบมีลูกค้ามาขอกากกาแฟบ่อยๆ ว่าเอาไปขัดผิวแล้วจะสวย ทำให้เราเกิดไอเดียที่จะต่อยอดมาทำเป็นธุรกิจ ก็เลยมาปรึกษากับสามีซึ่งเป็นแพทย์ผิวหนัง (โอ๊ค-สมิทธิ์ อารยะสกุล) จนได้มาเป็นผลิตภัณฑสบู่ที่มีส่วนผสมของกากกาแฟ เป็นคุณประโยชน์จากกากกาแฟที่นำเข้าเมล็ดกาแฟอาราบิกาอย่างดีนำมาบดละเอียดซึ่งพัฒนาโปรดักส์อยู่ 2 ปีจนเป็นผลิตภัณฑ์โอปโซพในปัจจุบัน

“เราตั้งใจทำด้วยวัตถุดิบที่ดีที่สุด และระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยอย่างมาก ระวังเรื่องอันตรายว่าใครใช้แล้วจะแพ้หรือเปล่า ตรงนี้ระวังและเป็นสิ่งที่กลัวมาก เพราะอะไร เพราะปอกลัวว่าสิ่งนี้จะมาทำลายความน่าเชื่อถือทั้งหมดที่เราทำมา ตลอดอาชีพของเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่ปอทำจะต้องดี ต้องไม่เป็นอันตราย ฉะนั้นของๆ เราจะไม่มีสารเคมีและไม่มีการแพ้”

ส่วนช่องทางในการขายสินค้า โอปอล์ กล่าวว่า เริ่มจาก LINE@ ก่อนเป็นช่องทางออนไลน์ก่อน จนคนเห็นแล้วเริ่มเอาไปใช้ รีวิวด้วยตัวเอง ไม่ได้ทำการตลาดอะไรเลย อย่างมากคือก็นำลงไอจีของตัวเอง ทีนี้พอมีคนใช้แล้วชอบถูกใจ ก็เกิดสิ่งที่เรียกว่า Word of mouth จนล่าสุด เรายังได้รับเลือกให้เป็น TopThaiBrand2017 จากกรมส่งเสริมการส่งออกกระทรวงพาณิชย์

“อย่างแพ็กเกจที่เห็นก็ต้องบอกว่า เป็นความชอบของตัวเอง ไม่ได้เน้นตลาดกลุ่มใดเลย ไม่ได้เน้นความแมสเลย เพราะเรารู้ว่าสบู่ก้อนละ 200 ไม่แมสแน่นอน แต่เราก็เชื่อว่าในเมื่อเราชอบเรามั่นใจก็น่าจะมีกลุ่มคนที่ชอบเหมือนกับเรา ฉะนั้นมันไม่แมสแน่นอน เป็นตัวของเราเองจริงๆ คือชั้นแค่ชอบแบบนี้ ก็เชื่อว่าต้องมีคนชอบแบบเรา อะไรที่เรากล้าถือคือต้องเป็นสิ่งที่เรามั่นใจเป็นตัวเอง”

ปัจจุบันช่องทางการขายสบู่ โอปโซพ มีตัวแทนจำหน่ายด้วยแต่ในจำนวนไม่มากนัก นอกจากนี้ ก็มีที่ร้านวัตสัน ร้าน EVEANDBOY และร้านขายยาทั่วไป

opal3

สิ่งที่โอปอล์ได้ให้คำแนะนำที่ดีแก่ผู้ประกอบการทุกคนเลยคือ การโปรโมท ว่าให้ระมัดระวังการโฆษณาที่เกินจริง

“ปอล์จะระวังมากเรื่องการโปรโมท เราจะระวังเรื่องความเกินจริง เราไม่ทำแบบนั้น เช่น สบู่ของปอล์ไม่ได้ทำให้ผิวขาว เราจะระวังมาก ฉะนั้นทุกคำพูดที่ออกมาจึงต้องทำได้จริง”

อีกสิ่งที่โอปอล์ ย้ำกับเราอีกเรื่องก็คือ ความเป็นดาราจริงๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยว่า การที่เราเป็นดารา มีคนฟอลโลว์เราเป็นล้าน มันได้เปรียบแค่ Awareness แรกเท่านั้น แต่การซื้อแล้วกลับมาซื้อซ้ำ คือต้อง ‘ของที่ดีจริง’ เท่านั้น

“เรากลับมากกับคำว่า แบรนด์ดารา ดังนั้น เราจึงต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเป็นของจริง ซึ่งที่ผ่านมาแม้ว่าปอล์จะรู้กลยุทธ์การวางแผนการตลาดออนไลน์ แต่เราก็อยากจะลองขายตามช่องทางที่มี อยากจะลองให้มันโตแบบออแกนิกจริงๆ ว่ามันเป็นยังไง”

โอปอล์ บอกอีกว่า เราอยากเติบโตอย่างมั่นคง โดยใช้วิธีหาช่องทางการขายที่มากขึ้น พร้อมกับดูโอกาสจากต่างประเทศด้วย ซึ่งตอนนี้มีทั้ง AEC และจีน ที่เข้ามาติดต่อ

ท้ายที่สุดสิ่งที่ โอปอล์ฝากไว้ให้กับการทำธุรกิจที่ดีว่า การเป็นดาราหรือคนมีชื่อเสียงก็ไม่ได้ทำให้สินค้าไปรอด แต่สิ่งที่ยั่งยืนคือเรื่องของความซื่อสัตย์ ทำของไม่เป็นอันตราย ถ้าของดีจะเกิดการบอกต่อเอง ไม่ว่าเทรนด์จะเป็นอย่างไร ของดี น่าเชื่อถือขายได้เสมอ.

Copyright © MarketingOops.com


  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!