เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา เกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์กับพรานป่าล่าสัตว์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
พิเชียร ทองทา คือ ชื่อของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ประจำหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ที่ มว.5 (ปางสัก) ที่ถูกยิงจากเหตุปะทะครั้งนี้ระหว่างการลาดตระเวน และเหตุปะทะครั้งนี้ถือเป็นเหตุปะทะครั้งแรกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ขึ้นชื่อว่าเกิด “เหตุปะทะ” และ “ถูกยิง” นั่นหมายถึง “ชีวิต” ที่เอาเข้าแลกเพื่อผืนป่าแม่วงก์
“ผมเดินลาดตระเวนเส้นปางสัก ผมไปเฝ้าไม้หอมอยู่สองคืนกับเพื่อนๆผู้พิทักษ์ป่า ตอนบ่ายสองโมง เดินออกมาได้ยินเสียงปืน ก็เลยอ้อมจับกัน เรายิงขู่ขึ้นฟ้า นัดสอง เขายิงกลับมา ช่วงที่โดนทีแรกมันก็ชา ผมตั้งสติแล้วค่อยเดินออกจากป่ามาอีกประมาณ 1 กิโล ก่อนที่จะถูกส่งไปโรงพยาบาล” คุณพิเชียร ทองทา กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับอาการของคุณพิเชียรฯ นั้นถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง ลูกปราย 8 เม็ด แพทย์วินิจฉัยผ่าตัดกระสุนบริเวณปากออก 1 เม็ด ส่วนกระสุนอีกจำนวน 7 เม็ดนั้นฝังในบริเวณอื่น คือ ใต้ราวนม 1 เม็ด และแขนซ้าย จำนวน 6 เม็ด แพทย์วินิจฉัยว่าไม่ควรผ่าตัดออกมาเพราะจะทำให้เกิดบาดแผลผ่าตัดขนาดใหญ่ ซึ่งกระสุนที่ฝังอยู่ในร่างกายไม่มีผลอันตรายร้ายแรงต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาผืนป่าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ได้กลับมีระบบนิเวศที่สมบูรณ์อีกครั้ง มีสัตว์ป่าชุกชุม โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่มีความสำคัญอย่างเสือโคร่งกว่า 13 ตัวที่ได้พบหลักฐานจากกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ ส่วนสำคัญก็เพราะเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าทำงานกันอย่างเข้มแข็ง
“เราทำงานหนัก เพราะทำงานหนัก การปะทะจึงเกิดขึ้น ผมภูมิใจในสิ่งที่ลูกน้องได้ทำเสมอมา และเสียใจที่ลูกน้องบาดเจ็บในการทำเพื่อปกป้องสมบัติของคนทั้งประเทศ พวกเราอยู่ได้ด้วยอุดมการณ์ที่ยืดถือร่วมกัน นั่นก็คือความภาคภูมิใจในการดูแลทรัพยากรของชาติ” คุณวิรัช จตุพนาพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 12กล่าวถึงเหตุการณ์การยิงปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าและพรานป่าดังกล่าว
“สิ่งนี้ถือว่าเป็นการทุ่มเทการทำงานที่เจ้าหน้าที่ที่เขาไม่ได้กลัวพรานป่า ถึงแม้ประวัติของพรานป่าคนนี้จะร้ายกาจ ลูกน้องของเราก็สู้ สอบถามหลังจากการบาดเจ็บ เขากำลังใจดีมาก ถ้าเขาหาย เขาก็ยังอยากไปปฏิบัติหน้าที่ที่เดิม เขารักแม่วงก์เหมือนเดิม” คุณสุธน เวียงดาว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กล่าว
“ผมมาอยู่ตรงนี้ แล้วผมต้องทำ การรักษาผืนป่ามันอยู่ในจิตของผม นี่ก็เข้าปีที่สาม ผมมีผืนป่าเป็นกำลังใจ อยากรักษาให้มันเป็นแบบนี้ เผื่อคนข้างหลังอยากจะเห็นบ้าง” คุณพิเชียร ทองทา กล่าว
“หลังจากเหตุการณ์ ได้มีการประชุมเจ้าหน้าที่ และได้ชมเชยการปฎิบัติหน้าที่ ว่าสามัคคีกันดีมาก จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ขณะนี้เราก็นำกำลังหน่วยข้างเคียงไปช่วยเสริมกำลังเพิ่มขึ้น ขอให้ทุกคนไม่ต้องห่วงเจ้าหน้าที่ขวัญกำลังใจดีทุกคน ทางอุทยานทำทุกอย่างเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของเรา ขยับให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งทีมเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในกลุ่มที่ร่วมปฏิบัติงานก็ปรับให้เท่ากัน ในเรื่องดำเนินคดี
จะติดตามทุกขั้นตอนให้ถึงที่สุด” คุณสุธน เวียงดาว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กล่าว
การปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้กับเหตุการณ์ “8 กระสุน แลกชีวิตเพื่อผืนป่าแม่วงก์” ถือว่าต้องใช้มากกว่าคำว่าเสียสละสำหรับภารกิจปกป้องผืนป่า บ้านของสัตว์ป่าและสมบัติของชาติไทย
WWF-ประเทศไทย ขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมสมทบในการช่วยเหลือ ปกป้องและสนับสนุนพวกเขาเหล่าผู้พิทักษ์ป่าผู้เสียสละ พร้อมๆ กับร่วมสนับสนุนงานอนุรักษ์เสือโคร่งผ่านหนังสือภาพ “แม่วงก์-คลองลาน ผืนป่าแห่งความหวัง” หนังสือภาพที่รวบรวมภาพงานของ “ผู้พิทักษ์ป่า” ผู้เสียสละและภาพสัตว์ป่าหายากจากผืนป่าที่เป็นความหวังของโลก “แม่วงก์-คลองลาน”
หนังสือภาพ “แม่วงก์-คลองลาน ผืนป่าแห่งความหวัง” ราคา 1,500 บาท หนังสือที่รายได้จากการจำหน่ายมอบให้กองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์และอุทยานแห่งชาติคลองลาน โดยจัดจำหน่ายที่ ร้านนายอินทร์ ร้านหนังสือคิโนะคูนิยะ ซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ และร้านเอเชียบุ๊คส์ (สั่งซื้อได้ที่: http://goo.gl/bLpTOL )
หรือสนับสนุนกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์โดยตรงได้ผ่านบัญชี กองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เลขที่บัญชี 020128161765 ธนาคารออมสิน สาขาคลองลาน