Digital Strategy ที่ธุรกิจควรมีหลัง COVID-19

  • 64
  •  
  •  
  •  
  •  

การอยู่บ้านล็อคดาวน์มีส่วนทำให้คนจับจ่ายใช้สอยออนไลน์มากขึ้น ที่อเมริกา กว่า 75% ของคนที่เพิ่งเริ่มทำกิจกรรมและธุรกรรมออนไลน์ ให้ความเห็นว่าต่อให้วิกฤติ COVID-19 ผ่านพ้นไป ก็ยังจะทำกิจกรรมธุรกรรมออนไลน์เหมือนเดิม 

นั่นหมายความว่าทุกธุรกิจจะถูกบังคับให้พัฒนาการดำเนินธุรกิจบนดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่ใช่แค่เพิ่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างเดียว แต่รับมือกับคู่แข่งทั้งเก่าและใหม่ที่กระโจนแข่งขันกันในดิจิทัล 

ความต้องการบริโภคในสินค้าและบริการแต่ละประเภทไม่แน่นอน 

และคาดว่าคนจะยังไม่ใช้สินค้าและบริการเหมือนก่อน COVID-19 ในทันที ส่วนสินค้าและบริการบางประเภทที่มีการบริโภคมากในช่วงล็อกดาวน์ บริษัทอาจเจอปัญหาความสามารถในการผลิตที่มากเกินไป พอจบวิกฤติ บริษัทต้องปรับโครงสร้างต้นทุนให้เหมาะกับความต้องการของตลาด 

ที่สำคัญคือความต้องการบริโภคที่ว่ามีความไม่แน่นอน การใช้โมเดลพยากรณ์ความต้องการหรือรายได้จากข้อมูลที่บริษัทรวบรวมมา อาจจะไม่มีประโยชน์ในการทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นหลัง COVID-19 การรวบรวมข้อมูลใหม่และสร้างโมเดลใหม่ต่อจากนี้จึงเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อใช้ตัดสินใจในเรื่องต่างๆ

 

การสรรหาคนเก่งจากทั่วทุกมุมโลกมาร่วมงานจะเป็นเรื่องปรกติ

เพราะไหนๆการทำงานที่บ้านหรื Work From Home เป็นเรื่องที่ทำในช่วงล็อกดาวน์ ทำให้บริษัทสามารถจ้างงานคนเก่งจากประเทศไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานช่วยตอบคำถามลูกค้า หรืองานด้านการให้ข้อมูล การบริการหลังการขาย ธุรกิจไหนที่สามารถเปลี่ยนงานที่แต่ก่อนไม่ได้ทำแบบดิจิทัลเป็นงานที่ทำได้ผ่านระบบดิจิทัล ธุรกิจนั้นก็จะสามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจนั้นได้

ซึ่งนั้นอาจหมายถึงการทบทวนและเปลี่ยนแปลงโมเดลของธุรกิจของตัวเอง

 

ช่วง COVID-19 มี First-Time User ในทุก Industry ของอเมริกา

 

 

หลัง COVID-19 การจับจ่าใช้สอยยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมในทันที

 

 

คนทำงานทางไกลมีจำนวนมากขึ้นชัดเจนหลังมีการล็อคดาวน์

 

Digital Strategy ที่ธุรกิจควรทำในช่วง 90 วันแรก

1. ปรับงานให้สามารถทำได้ผ่านระบบดิจิทัล

บริษัทต้องรู้จักจัดลำดับความสำคัญและเร่งด่วนของงานทั้งหมดในบริษัท รู้ว่างานไหนที่ทำได้ผ่านระบบดิจิทัลที่สำคัญและเร่งด่วน ไม่ใช่แค่การตลาด แต่รวมถึงระบบการชำระเงินสินค้า การเก็บข้อมูล การขนส่งสินค้า การจัดการสต็อกสินค้า การผลิต การเงิน ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และคู่แข่งที่จะเข้ามารองรับธุรกรรมดิจิทัลมากขึ้น และเริ่มขายสินค้า บริการและข้อเสนอใหม่ๆทางออนไลน์

 

2. เริ่มเก็บข้อมูลและพัฒนาโมเดลที่ใช้พยากรณ์ผลลัพธ์และพัฒนาการดำเนินงานทางธุรกิจ

ประเมินความสามารถในการตัดสินใจด้วยโมเดลที่มีอยู่ว่าทำนายผลลัพธ์ทางธุรกิจได้แม่นยำ และมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน? หากน้อย ทีม Data Analytics ก็ควรเริ่มเก้บข้อมูลและพัฒนาโมเดลใหม่ๆ เพื่อสามารถใช้งานได้ในภาวะที่การบริโภคสินค้าชะลอตัวแและเปลี่ยนไป

 

3. พัฒนาความสามารถทางเทคโนโลยีในบริษัท

โครงสร้างต้นทุนด้าน IT เองก็ต้องปรับตามไปด้วย ซอฟท์แวร์อะไรที่จำเป็นสำหรับการทำงาน แพลตฟอร์มที่ใช้ระบบคลาวน์ หรือระบบ Automation ที่ช่วยแบ่งเบาภาระคนและต้นทุน คนที่มีระบบดิจิทัลแบ่งเบาภาระงานก็ต้องเรียนรู้ที่จะใช้งาน การพัฒนาระบบ Cybersecurity สำหรับบริษัท และที่สำคัญบริษัทต้องดูว่าถ้าจ้างให้คนอื่นทำจากระยะไกล (Remote-based work) บริษัทจะได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้นหรือไม่ 

 

แหล่งที่มา https://www.mckinsey.com/business-functions/mckinsey-digital/our-insights/the-covid-19-recovery-will-be-digital-a-plan-for-the-first-90-days


  • 64
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th