“จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” เราคุ้นชื่อนี้กันดี แบรนด์ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลายในบ้านเรา เราอาจจะมีภาพจำว่า JnJ เป็นแบรนด์ของใช้เด็กจำพวกสินค้าอุปโภค แชมพู สบู่ แป้ง โลชั่น ฯลฯ แต่อันที่จริง JnJ มีแบรนด์ลูกอีกหลายแบรนด์ที่กระจายอยู่ในตลาดสินค้าอุปโภคบ้านเรา ปัจจุบัน JnJ มี Market Cap อยู่ที่ 275.7 พันล้านเหรียญ พนักงานกว่า 126,500 คน และ ยอดขายจากทั่วโลกในปีที่ผ่านอยู่ที่ 74.16 พันล้านเหรียญ และมีแบรนด์ลูกกว่า 230 แบรนด์ที่จัดจำหน่ายอยู่ทั่วโลก
ที่หยิบเรื่องนี้มาเล่าเพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนมีข่าวที่ฮือฮาไปทั่วโลก ในเคสที่ JnJ ต้องจ่ายเงินชดเชยแก่หญิงชราที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตามคำสั่งศาล ซึ่งก่อนที่หญิงชราจะเสียชีวิตเธอได้กล่าวว่าเธอใช้แป้งเด็กจอห์นสันทาในที่ลับมาตั้งแต่เด็กต่อเนื่องมากว่า 60 ปี เราจึงสงสัยใครรู้ว่า แบรนด์ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และจำหน่ายสินค้าสำหรับเด็กมาตั้งแต่แรกรึเปล่า บทความนี้จึงรวบรวมความเป็นมาของแบรนด์ที่มีอายุ 130 ปีมาบอกเล่าให้ผู้อ่าน หยิบมาแต่เนื้อๆ หากดูครบ 25 ข้อแล้ว คุณจะรู้จักแบรนด์นี้ดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน
1. JnJ ก่อตั้งในปี 1886 ที่นิวเจอร์ซี,สหรัฐอเมริกา โดยสามพี่น้อง Robert Wood Johnson, James Wood Johnson และ Edward Mead Johnson โดยเริ่มบริษัทจากการเป็นผู้เล่นในอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ ตามด้วย สินค้าอุปโภคบริโภค
2. ปี 1888 JnJ ตีพิมพ์คู่มือดูแลรักษาแผลติดเชื้อ แจกให้ฟรีแก่หน่วยงานที่ดูแลคนป่วย โรงพยาบาล และสาธารณสุข ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการแพทย์ในสหรัฐ และงานชิ้นนี้ได้เผยแพร่ไปยังภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกในเวลาต่อมา
3. ในปีเดียวกัน JnJ เปิดตัวสินค้าตัวแรก เป็นกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้น
4. ปี 1889 JnJ ผลิตยาสีฟันแบบบรรจุหลอดเป็นเจ้าแรกของโลก “Zonweiss Tooth Cream”
5. JnJ กลายเป็นบริษัทผู้นำและขึ้นชื่อในเรื่องสินค้าสะอาดปลอดเชื้อ ด้วยกระบวนการที่ใช้ความร้อนฆ่าเชื้อในผลิตภัณฑ์ (sterilization)
6. เส้นทางสินค้าเด็กของ JnJ เริ่มขึ้นในปี 1894 หลังจาก JnJ ออกชุดอุปกรณ์เพื่อความสะดวกและปลอดภัยสำหรับเด็กแรกเกิด โดยแนะนำให้คุณแม่ที่มีลูกเล็กๆลองใช้ รวมถึงเปิดตัว JOHNSON’S® Baby Powder สู่ตลาดในปีเดียวกัน
7. ปี 1897 JnJ ชิมลางตลาดแมสสินค้าสำหรับผู้หญิงครั้งแรกด้วย ผลิตภัณฑ์ผ้าอนามัย JnJ
8. ปีต่อมาได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ‘ไหมขัดฟัน’ ในแพคเกจจิ้งพกพาใช้สะดวกขึ้นครั้งแรก โดยไหมที่ได้นั้นผลิตจากใยฝ้ายที่เหลือจากการผลิตผ้าก็อตทำแผล
9. คู่มือปฐมพยาบาลเบื้องต้นถูกตีพิมพ์เพื่อจำหน่ายครั้งแรกในปี 1901
10. จากที่เริ่มต้นกันด้วยสามพี่น้อง ปี 1910 James Wood Johnson ก็เทคโอเวอร์กิจการ Johnson&Johnson และขึ้นมาเป็นประธานจนถึงปี 1932 (Robert Wood Johnson, James Wood Johnson และ Edward Mead Johnson)
11. “FEEL GOOD ON THE BACK” คือ Print Ad โปรโมทพลาสเตอร์แบบลอกออกได้จาก JnJ ซึ่งออกมาไม่นานก็ทำให้สินค้าขายดีมาก อันที่จริงด้วยตัวสินค้าเองด้วย เพราะในยุคนั้น พลาสเตอร์ปิดแผลแบบกาวลอกทิ้งได้ยังถือเป็นของใหม่
12. คู่มือดูแลสุขภาพและสุขอนามัยสำหรับชายหญิงในทุกครัวเรือน ออกมาเมื่อปี 1917
13. JnJ เปิดบริษัทของตัวเองอีกสาขาในประเทศอังกฤษเมื่อปี 1919 เป็นครั้งแรกที่มีการขยายบริษัทไปยังต่างประเทศ
14. BAND-AID® แบรนด์ลูกของ JnJ ที่ปล่อยสู่ตลาดเมื่อปี 1920 สินค้าตัวแรกเป็นชุดทำแผลสำหรับแผลขนาดเล็ก
15. แคมเปญโฆษณาผ้าอนามัย “MODESS®…Because” เป็นแคมเปญจาก JnJ ที่โด่งดังมาก เริ่มครั้งแรกปี 1930 และมีการรันแคมเปญอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี โดยดึงดาราหญิงแถวหน้าของแต่ละยุคมาเป็นพรีเซนเตอร์
16. ผลิตภัณฑ์เจลช่วยคุมกำเนิดสำหรับผู้หญิง Ortho-Gynol® Vaginal Jelly วางจำหน่ายเมื่อปี 1937 ผลิตภัณฑ์ตัวนี้พัฒนามาจากแล็บวิจัย Ortho ที่สร้างขึ้นในปีเดียวกัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิง และก็ในปีเดียวกันอีกที่ JnJ ขยายบริษัทไปยังบราซิล และ อาร์เจนติน่า
17. JnJ ผลิตเทปกาวให้กองทัพสหรัฐตามคำสั่ง ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี 1942
18. JnJ กลายเป็นบริษัทที่โฆษณาสินค้าทางโทรทัศน์มากที่สุดในปี 1950
19. ต้นกำเนิดแชมพูที่คุ้นตากับ JOHNSON’S® Baby Shampoo with NO MORE TEARS® แชมพูเด็กสูตรอ่อนโยนต่อดวงตาเด็ก วางขายเมื่อปี 1954
20. ขยายบริษัทมายังภูมิภาคเอเชียครั้งแรกที่อินเดียเมื่อปี 1957 ก่อนจะขยายไปที่จีน ตามด้วยอียิปต์ในปี 1985
21. ACUVUE® แบรนด์ใหม่จาก JnJ ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 1987 จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคอนแทคเลนส์และน้ำยาทำความสะอาด
22. ต่อมา 1993-1994 RoC และ Neutrogena บริษัทสกินแคร์ชื่อดังในสหรัฐได้เข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของ J&J
23. LISTERINE® ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ JnJ ในปี 2006 โดยได้รับการสนับสนุนเรื่องการปรับปรุงพัฒนาสูตรจาก ‘Pfizer Consumer Healthcare’ (ผู้พัฒนาลิสเตอรีนดั้งเดิม)
24. ปัจจุบัน JnJ แบ่งพาร์ทธุรกิจเป็น 3 เซกเมนต์ คือ สินค้าอุปโภค, ยา และเครื่องมือแพทย์ ตัวเลขรายได้ปีล่าสุดอยู่ที่ 74.16 พันล้านเหรียญ
25. เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2016 JnJ ต้องจ่าย 72 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 25,000 ล้านบาท ชดเชยแก่ครอบครัวของหญิงชราที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งรังไข่ตามคำสั่งศาล โดยผู้เสียชีวิตได้ให้การก่อนเสียชีวิตว่าเธอใช้แป้งจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน กับที่ลับเธอมาตั้งแต่เด็กติดต่อกันเป็นเวลากว่า 60 ปี และยังใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น “ชาวเวอร์ทูชาวเวอร์” ทุกเช้า และด้านล่างเป็นภาพแป้งฝุ่น “จอนห์สัน แอนด์ จอนห์สัน” รุ่นแรกๆที่ถูกผลิตออกมา
Source: Johnson and Johnson
Source: Statista
Source: Forbes