มารู้จัก “Soft Skills” ที่ต้องมีในยุค AI เพื่อให้ “คุณ” ไม่ต้องกลัว Disrupt – เป็นที่ต้องการของตลาดงาน

  • 1.5K
  •  
  •  
  •  
  •  

หัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่ใช่แค่มีสินค้า หรือบริการดี มีคุณภาพ แต่ยังรวมถึง “บุคลากร” ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างการเติบโตขององค์กร

แต่วันนี้ปัญหาที่ทุกองค์กรกำลังเผชิญอยู่ คือ การขาดแคลนทักษะที่จำเป็น และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยที่เข้าสู่ยุค AI

ทักษะที่จำเป็นในวันนี้ แตกต่างจากเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว เพราะสิ่งที่องค์กรในยุค Digital Disruption มองหา และให้ความสำคัญคือ “Soft Skills” ทักษะเกี่ยวกับมุมมอง หรือ Mindset, ทัศนคติ, การบริหารจัดการงาน, การสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนในสังคม, ความคิดสร้างสรรค์, ความเข้าใจด้านวัฒนธรรม

นั่นเพราะ “Soft Skills” เป็นทักษะที่เทคโนโลยีไม่สามารถทดแทนกันได้ ในขณะที่ “Hard Skills” เราจะพบว่าทักษะบางอย่าง งานที่ทำซ้ำๆ ปัจจุบันหุ่นยนต์เข้าไปแทนที่แรงงานมนุษย์แล้ว

ดังนั้นข้อกังวลที่ว่า เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI และ Automation เช่น หุ่นยนต์จะมาแย่งงาน “มนุษย์” ในความเป็นจริงแล้ว “ใช่” เพียงบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด!

เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาก้าวล้ำไปไกลอย่างไร มนุษย์ยังคงต้องการ “Human Touch” หรือ “Human Connection” ซึ่ง “Soft Skills” จะเข้ามาเติมเต็มด้านนี้

New Skills

 

“หุ่นยนต์” ไม่ได้แย่งงาน “มนุษย์” แต่มาเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น  

สถาบันไอบีเอ็มสร้างมูลค่าธุรกิจ หรือ IBM Institute for Business Value: IBV ทำการศึกษาทักษะสำคัญในยุค AI โดยพูดคุย-สอบถามผู้บริหารระดับสูง หรือ C Level ในหลายองค์กร หลายอุตสาหกรรม หลายประเทศเป็นเวลาต่อเนื่องกันนับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา เพื่อค้นหาคำตอบว่า สิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงแต่ละองค์กร กำลังรู้สึกเป็นกังวล และจะส่งผลกระทบต่อองค์กรมากที่สุดคืออะไร ?!?

พบว่าในช่วง 2 – 3 ปีมานี้ปัจจัยที่ผู้บริหารระดับสูงต่างเป็นกังวลมากที่สุด คือ

  • 71% ปัจจัยสถานการณ์ทางการตลาด (Market Factors)

  • 65% ปัจจัยด้านเทคโนโลยี (Technology Factors)

  • 65% ปัจจัยด้านทักษะบุคลากรในองค์กร (People Skills)

IBM_Soft Skills-Hard Skills-AI

ที่ผ่านมา มักจะปรากฏข่าว และมีการพูดถึงกันว่า “เทคโนโลยี” หรือ “หุ่นยนต์” จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งงานที่มนุษย์ทำอยู่หรือไม่ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประเด็นดังกล่าว ?!?

อย่างไรก็ตามจากการศึกษาของ IBM พบว่า เกือบ 100% ของงานในยุค AI จะเปลี่ยนแปลงไป โดยที่มีตำแหน่งงานเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะหายไปจากตลาดงาน

และผลจากการที่องค์กรนำเทคโนโลยี AI และ Automation เข้ามาอยู่ในกระบวนการทำงาน ทำให้คน 120 ล้านคนที่อยู่ในตลาดงานทั่วโลก ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ (Reskill) หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ (Retrain) เพื่อให้ตนเองมีทักษะที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาดงาน และในวันนี้ทักษะที่สำคัญคือ “Soft Skill” ที่บุคลากรต้องได้รับการฝึก

IBM_Soft Skills-Hard Skills-AI

หลายคนพูดถึงว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทน Human Being หรือเปล่า หรือที่ปรากฏเป็นข่าวว่าจะมีการนำ AI และ Automation เข้ามาใช้ในกระบวนการทำงานต่างๆ ขององค์กร และต่อไปตำแหน่งงานจะถูกทดแทนด้วย Machine หรือเปล่า สำหรับ “IBM” มองว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาเสริมการทำงานระหว่าง “คน” กับ “Machine” ให้ดีขึ้น  

ยกตัวอย่าง ธนาคารในประเทศญี่ปุ่น เริ่มมีการนำหุ่นยนต์มาต้อนรับลูกค้าที่เดินเข้ามาใช้บริการที่สาขา จากเมื่อก่อนงานส่วนนี้เป็นหน้าที่ของคน แต่วันนี้หุ่นยนต์ทำหน้าที่นั้น

เพราะฉะนั้นถ้าเราเป็นพนักงานธนาคาร เราต้องเพิ่มทักษะใหม่ให้ตัวเราเอง เพื่อเพิ่ม Human Touch ซึ่งเป็นสิ่งที่หุ่นยนต์ไม่สามารถแทนที่ได้ และให้เทคโนโลยีมาเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น

ดังนั้น คนที่จะสามารถอยู่ได้ในตลาดงาน และเป็นที่ต้องการ คือ คนที่ปรับตัวได้ทัน และผู้นำองค์กร ต้องมองภาพให้ออกว่าบริษัทจะ Reskill หรือ Retain พนักงานอย่างไร

ส่วนคนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และยังเชื่อว่าทักษะที่ตัวเองมีอยู่ในวันนี้ สามารถใช้ได้อีกสำหรับงานในปัจจุบัน นั่นคือ ความคิดที่ผิด” คุณปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีนและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดงาน และทักษะในยุค AI

IBM
คุณปฐมา จันทรักษ์ รองประธานด้านการขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอินโดจีนและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย

 

ไม่อยากตกงาน! ต้องมี “Soft Skills” ที่จำเป็นในยุค AI

ผลการศึกษาครั้งนี้ยังพบอีกว่า “Soft Skills” มีความสำคัญมากขึ้น โดยเปรียบเทียบทักษะที่จำเป็นในปี 2016 กับปี 2018 จะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงดังนี้ (หมายเหตุ : ข้อที่ Bold ตัวอักษร คือ Soft Skills) 

ปี 2018 ทักษะสำคัญ ประกอบด้วย

  1. เต็มใจที่จะยืดหยุ่น, ทำงานคล่องตัว และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

  2. ทักษะการบริหารจัดการเวลา และการจัดลำดับความสำคัญของงาน

  3. ความสามารถทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. ความสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้บริบทของธุรกิจ

  5. ความสามารถในการวิเคราะห์ และมีไหวพริบทางธุรกิจ

  6. ความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน STEM (Science / Technology / Engineering / Mathematics)

  7. ความสามารถด้านการคิดนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์

  8. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และซอฟท์แวร์ / แอปพลิเคชั่น

  9. จริยธรรม และความซื่อสัตย์

  10. ความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ

  11. ทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน, การเขียน และคณิตศาสตร์

  12. ทักษะเฉพาะทางในสายอาชีพ

จะเห็นได้ว่าใน Top 5 Skills ปรากฏว่าอันดับที่ 1 – 4 เกี่ยวกับ “Soft Skills” ในขณะที่อันดับที่ 5 เป็น Hard Skills 

IBM_Soft Skills-Hard Skills-AI

จากข้อมูลดังกล่าว ตรงกันข้ามกับลำดับความสำคัญของทักษะในปี 2016 ดังนี้ (หมายเหตุ : ข้อที่ Bold ตัวอักษร คือ Soft Skills) 

  1. ความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้าน STEM (Science / Technology / Engineering / Mathematics)

  2. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และซอฟท์แวร์ / แอปพลิเคชั่น

  3. ความสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้บริบทของธุรกิจ

  4. เต็มใจที่จะยืดหยุ่น, ทำงานคล่องตัว และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

  5. ความสามารถทำงานเป็นทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  6. ทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน, การเขียน และคณิตศาสตร์

  7. ทักษะการบริหารจัดการเวลา และการจัดลำดับความสำคัญของงาน

  8. ความสามารถในการวิเคราะห์ และมีไหวพริบทางธุรกิจ

  9. ความสามารถด้านการคิดนวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์

  10. จริยธรรม และความซื่อสัตย์

  11. ทักษะเฉพาะทางในสายอาชีพ

  12. ความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ

Recruitment

11 ทักษะที่องค์กรต้องมี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน – นำพาองค์กรก้าวผ่าน Digital Disruption

การสำรวจครั้งนี้ ยังได้ลงลึก Skills ของคนในองค์กรที่จะนำพาบริษัทประสบความสำเร็จได้ในยุค Digital Disruption ได้แก่

  • 58% การทำงานเป็นทีม (Teamwork)

  • 55% องค์กรมีความยืดหยุ่น

  • 47% องค์กรมีผู้นำที่แข็งแกร่ง

  • 45% มีเป้าหมายชัดเจน และสามารถวัดผลสำเร็จ (Performance) ได้

  • 42% มีความร่วมมือร่วมกันในองค์กร

  • 37% แบ่งปันความรู้

  • 32% ความคล่องตัวในการทำงาน และสามารถปรับตัวได้เร็ว

  • 26% ความเชื่อใจ / ความไว้วางใจ

  • 26% ส่งเสริมให้คนในองค์กร / คนในทีมกล้าลองผิดลองถูก – ยอมรับ และเรียนรู้จากความล้มเหลวงที่เกิดขึ้น เพื่อปรับกระบวนการคิด – กระบวนการทำงานใหม่

  • 24% Empower พนักงาน

  • 21% สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรนอกองค์กร

IBM_Soft Skills-Hard Skills-AI

“จะเห็นได้ว่า ทักษะที่องค์กรควรมีเหล่านี้ ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่ทักษะเหล่านี้เห็นชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในวันที่มี Digital Disruption เข้ามา ในวันที่ผู้บริหารทุกคนบอกว่า “You do or You die ?!” ที่ผ่านมาหลายองค์กรก้าวข้ามตรงนี้มาไม่ได้

เช่น บางองค์กรที่อยู่เคยใน Fortune 500 วันนี้มีล้มหายไป ส่วนหนึ่งไม่ใช่ว่าโปรดักต์ไม่ดี แต่ถึงแม้จะมีโปรดักต์ดี แต่ปรับตัวไม่ได้ หรือแม้แต่ไม่สามารถเข้าใจว่าวันนี้สภาพแวดล้อมได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็ทำให้องค์กรนั้นๆ ปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง”

IBM

 

ปี 2030 ทั่วโลกจะขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถมากกว่า 85 ล้านคน

ในส่วนของการสรรหา และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์กร พบว่าในปี 2019 ตลาดงานทั่วโลกมีอัตราการว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 5% สะท้อนได้ว่า AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่คน แต่ทำให้การว่าจ้างงานเพิ่มสูงขึ้น

แม้อัตราการว่างงานจะลดลง แต่ด้านทรัพยากรบุคคลกำลังเผชิญความท้าทายใหญ่ นั่นคือ

– คาดการณ์ว่าในปี 2030 ทั่วโลกจะเกิดปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถในตลาดงาน มากถึง 85.2 ล้านคน โดยเฉพาะคนที่มีทักษะพิเศษ เช่น ในตำแหน่งงานเฉพาะทางอย่าง Data Scientist, Data Analysis หรือคนที่เชี่ยวชาญด้าน Robotic หรือการพัฒนา Automation  เนื่องจากปัจจุบันจำนวนคนที่ถูก Train มา ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดงาน

– พนักงานมีความต้องการ Reskill ตัวเองเช่นกัน แต่ 45% บอกว่าตัวเขาเองก็ไม่ทราบว่า Skill อะไรที่ตัวเขาต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม หรือเหมาะสมกับตัวเอง

IBM
ทั่วโลกต่างรู้สึกกังวลว่าหุ่นยนต์มาแทนที่คนในตลาดงาน แต่ผลการสำรวจพบว่า AI และ Automation เข้ามาเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น โดยที่ “คน” ต้องพัฒนาศักยภาพของตัวเองไปอีกขั้น

 

AI มีบทบาท Employee Experience ตั้งแต่ “รับสมัครงาน – เฟ้นหา – เช็ค Social Activity – พัฒนาศักยภาพ”

ปัจจุบันนี้ “AI” เข้ามามีบทบาทในการสรรหา และพัฒนาศักยภาพบุคลากรในองค์กรต่างๆ มากขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครงาน การสรรหาบุคลากรจากใบสมัครที่เข้ามากมาย

ตั้งแต่อ่าน Resume ที่ส่งเข้ามา และเช็ค Social Activity หรือกิจกรรมที่ผู้สมัครคนนั้นๆ มีปฏิสัมพันธ์ หรือพูดคุยบน Social Media เพื่อเฟ้นหาคนในเบื้องต้นที่ตรงกับคุณสมบัติที่องค์กรต้องการได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ

“ตอนนี้บางองค์กร เอาเทคโนโลยีมาผสมผสาน และเข้าไปดู Candidate ว่ามี Social Activity อย่างไร เราจะให้คนเข้าไปดูไม่ได้ ต้องใช้เทคโนโลยี Identify

ได้บอกเด็กรุ่นใหม่ตลอดว่า เวลาเข้าไปคอมเมนต์อะไรใน Social Activity อย่าคิดว่า HR ไม่ทราบ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาธารณะหมด เพื่อดูว่าเวลาเขาคอมเมนต์อะไรสักอย่าง ดู aggressive เกินไปหรือเปล่า หรือมี footprint เรื่องของการแสดงออกเป็นอย่างไร เพื่อดูวุฒิภาวะของผู้สมัครงานคนนั้นๆ”

นอกจากนี้ Training บุคลากรในปัจจุบันเป็นยุค “Personalization” ดังนั้นในการทำ Reskill พนักงาน เทคโนโลยี AI มีบทบาทที่จะทำให้การพัฒนาความรู้ – ความสามารถของพนักงานเป็นในรูปแบบเฉพาะบุคคล ไม่ใช่โปรแกรมเดียวกัน และนำไปใช้กับทุกคนในองค์กรอีกต่อไปแล้ว

และนี่คือ การผสมผสานระหว่าง AI และ “Human intelligence”

IBM_Soft Skills-Hard Skills-AI


  • 1.5K
  •  
  •  
  •  
  •  
WP
อยู่ในแวดวงนิตยสารธุรกิจการตลาดกว่าสิบปี สนุกและชอบติตตามเทรนด์ ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ และอยากเรียนรู้เพิ่มเติมในแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การตลาดและดิจิทัลร่วมกันนะคะ