สมาร์ทโฟนจัดเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของวิถีชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนเริ่มเป็นที่รู้จักหลังการเปิดตัว iPhone โดย Apple ซึ่งส่งผลให้เกิดการปฏิวัติการสื่อสารในรูปแบบใหม่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สมาร์ทโฟนเริ่มเข้ามาแทนที่โทรศัพท์มือถือเดิมๆ ที่ใช้กันมา ด้วยประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับการทำงานของคอมพิวเตอร์หรือจะเรียกว่าเป็นเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กๆ เครื่องหนึ่งเลยทีเดียว
ในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ต้องยอมรับว่า โฉมหน้าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบนโลกใบนี้เปลี่ยนไปจากโฉมหน้าผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นการถือกำเนิดของสมาร์โฟนจากค่ายแดนกิมจิอย่างซัมซุง แอลจี หรือการถือกำเนิดของค่ายสมาร์โฟนจากแดนมังกรอย่างหัวเว่ย ออปโป้ นั่นจึงทำให้ภาพการแข่งขันของตลาดสมาร์ทโฟนกลายเป็นศึก 2 ภูมิภาคทั้งจากซีดโลกตะวันออกและซีกโลกตะวันตก
การ์ทเนอร์บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชื่อดังของสหรัฐฯ ได้ทำการเก็บข้อมูลของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั่วโลกที่มียอดขายเติบโตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2016 โดยในครึ่งปีแรก 2016 มียอดขายรวมสมาร์ทโฟนทั่วโลกรวมแล้วกว่า 344 ล้านเครื่องลดลงถึง 0.5% เมื่อเทียบยอดขายปีที่ผ่านมา โดยมีเพียง 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ยังคงอัตราการเติบโตไว้ได้ โดย 3 ใน 5 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากแดนมังกร ยกเว้นเฉพาะในญี่ปุ่นที่ตลาดสมาร์ทโฟนมีอัตราลดลงถึง 4.9%
สำหรับผู้นำตลาดในด้านยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกขณะนี้ต้องยกให้กับค่ายจากแดนกิมจิอย่าง Samsung โดยเฉพาะการเปิดตัวของรุ่น Galaxy A และ Galaxy J ซึ่งเป็นจุดสำคัญทำให้ยอดขายสมาร์ทโฟนของซัมซุงเติบโตโดยมียอดขายครึ่งปี 2016 แล้วกว่า 76 ล้านเครื่อง และมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกถึง 22.3% ขณะที่ Apple กลับมียอดขายเพียงกว่า 44 ล้านเครื่องซึ่งขายได้น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ส่งแบ่งการตลาดทั่วโลกของแอปเปิ้ลอยู่ที่ 12.9% ห่างจากผู้นำอย่างซัมซุงถึงกว่า 10%
ซึ่งการ์ทเนอร์ยังสำรวจพบว่ายอดขายของ Apple ตกลงในหลายภูมิภาคทั่วโลกทั้งในอเมริกาและยุโรป รวมไปถึงในจีนและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ยกเว้นในภูมิภาคยูเรเซีย แอฟริกาตอนกลางและยุโรปตะวันออกที่ยังมีสัดส่วนการขายเติบโตอยู่
ขณะที่จุดที่น่าสนใจอยู่ที่กลุ่มผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากแดนมังกรที่ก้าวขึ้นมาสู่ Top 5 ที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์อย่าง Huawei, Oppo และ Xiaomi ขึ้นมาได้เป็นเพราะฟังก์ชั่นการทำงานที่ถูกเสริมเข้ามาอย่างเช่น ระบบป้องกันภาพสั่นไหว ช่วยให้สามารถถ่ายภาพ Selfies ได้อย่างสวยงาม เป็นต้น รวมไปถึงเทคโนโลยีการการชาร์จด่วน ที่กลายเป็นจุดสำคัญที่นำมาใช้ในการแข่งขันทางการตลาด
ต้องติดตามดูในช่วงครึ่งปีหลังที่ Apple จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม iPhone ช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งอาจจะส่งผลต่อยอดขายของแอปเปิ้ลให้สามารถกลับขึ้นมาอยู่ในอันดับหนึ่งหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีคู่แข่งสำคัญอย่างซัมซุงที่พร้อมจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขัดขาของแอปเปิ้ลไม่ให้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสมาร์ทโฟนของโลกได้