ทำ Flash Site ให้ติดอันดับของ Google

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

logo_googleเว็บไซต์ที่สร้างด้วยโปรแกรม Flash ทั้งหลายคงไม่ต้องกังวลกับการที่ Google Bot ไม่เข้าใจเนื้อหาที่อยู่ในไฟล์ Flash จนทำให้เก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูลของ Google ไม่ได้อีกต่อไป เพราะปัญหาเหล่านี้กำลังจะหมดไปแล้ว

จากเดิมที่บรรดาเจ้าของเว็บไซต์ที่สร้างเว็บด้วย Flash ทั้งหมดแทบจะไม่มีโอกาสดันให้เว็บตัวเองขึ้นอยู่ในอันดับต้นๆ ของ Google ได้ เนื่องจาก Google Bot หรือโปรแกรมที่ Google ใช้ในการค้นหาและจัดลำดับข้อมูลนั้นสามารถอ่านข้อมูลได้เฉพาะที่เป็นตัวอักษร (Text) ที่อยู่ในรูปแบบของ HTML เท่านั้น ไม่สามารถอ่านข้อมูลที่เป็นรูปภาพหรือ Flash หรือแม้กระทั่งหน้าเว็บที่สร้างขึ้นจาก Frame ได้ ดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์ส่วนใหญ่จึงทำได้แค่เพียงการใส่ Keyword, Text Link, และ Title Tag ลงไปในหน้าเว็บและเนื้อหาของเว็บตัวเอง เพื่อดันเว็บตัวเองให้ขึ้นอันดับของ Google

ปัจจุบันผู้พัฒนาเว็บไซต์ด้วย Flash ทั้งหมด หรือจะแค่บางส่วนก็ตาม คงจะมีเริ่มมีความหวังมากขึ้น เมื่อ Google ได้จับมือกับ Adobe เพื่อพัฒนา Google Bot ให้สามารถอ่านไฟล์ Flash (.SWF) ได้ โดยทาง Google จะทำการพัฒนา Deep Bot ซึ่งก็คือ Bot ที่ทำหน้าที่ในการค้นหาข้อมูลทุกอย่างในเว็บไซต์เท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น HTML, PHP, DOC, PDF เป็นต้น ซึ่งหลักการทำงานนั้นก็จะยังคงคล้ายๆ เดิม คือไปสอดส่องไฟล์ที่เป็น Text Link หรือ URLs ที่แฝงอยู่ในไฟล์ SWF นั้นๆ

ทั้งนี้ไม่เพียงแต่ Google เท่านั้น แต่ Yahoo! ก็สามารถอ่านไฟล์ Flash ได้เช่นกัน ซึ่งทำให้การพัฒนาเว็บไซต์สามารถทำให้สวยงาม หรูหราได้มากขึ้น โดยไม่ต้องกังวลกับข้อจำกัดในเรื่องการทำ SEO (Search Engine Optimization) อีกต่อไป

นอกจากนี้ ผู้ที่ทำเว็บไซต์ด้วย Flash อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกคนจะมี Flash Player ติดตั้งไว้อยู่ในเครื่อง ดังนั้น ควรจะมีลิงก์ที่จะนำผู้เยี่ยมชมเข้าไปสู่เว็บเพจที่มีข้อมูลของบริษัท หรือข้อมูลที่สำคัญของเว็บจากหน้าแรกที่มีไฟล์ Flash อยู่ เพื่อให้ผู้เข้าชมเว็บที่ไม่มีการติดตั้ง Flash Player หรือผู้ที่ยังใช้ Dial-up Internet หรือผู้ที่ต้องการจะข้ามการรับชมไฟล์ Flash นั้นให้สามารถเข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณได้โดยไม่ต้องเสียเวลาดาวน์โหลดไฟล์ Flash ที่ต้องใช้เวลานาน

ส่วนใดของไฟล์ Flash ที่ Google มองเห็นและเก็บในฐานข้อมูล

การพัฒนาไฟล์ Flash ที่ส่วนใหญ่จะเป็นไฟล์รูปภาพ และวิดีโอนั้น ส่วนใหญ่มักจะใช้โปรแกรมทางด้านมัลติมีเดียและกราฟิก อาทิ Photoshop มาช่วยสร้างชิ้นงานที่อยู่ในไฟล์ Flash ให้ดูสวยงาม และน่าตื่นตามากขึ้น แต่ข้อความที่เขียนด้วยโปรแกรมกราฟิกเหล่านี้ Google Bot อาจจะไม่สามารถอ่านได้ จึงทำให้ไม่สามารถเก็บบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูลของ Google ได้

แต่ข้อความในไฟล์ Flash ที่พิมพ์ด้วยเครื่องมือ Text Tool ซึ่งมีอยู่ในโปรแกรม Flash เองนั้น เป็นส่วนที่ Google สามารถมองเห็นและดึงไปเก็บฐานข้อมูลได้ ซึ่ง Google จะนำคำเหล่านี้ไปใช้ใน Search Engine เมื่อมีการค้นหาด้วย

ดังนั้น ผู้พัฒนาเว็บไซต์ด้วยโปรแกรม Flash และคำนึงในเรื่องของการทำ SEO นั้น จึงควรใช้เครื่องมือสำหรับพิมพ์ข้อความที่มีอยู่ในโปรแกรม Flash อยู่แล้วเพื่อพิมพ์ข้อความโดยตรง จะดีกว่าการใช้ข้อความกราฟิกที่สร้างจากโปรแกรมอื่น แล้วดึงไฟล์ข้อความกราฟิกนั้นมาใช้ในโปรแกรม Flash อีกที

ข้อแนะนำเมื่อสร้างไฟล์ Flash

การใช้ Flash เป็นวิธีที่ดีอย่างหนึ่งในการนำเสนอเนื้อหาที่มีความซับซ้อน เพราะว่านักออกแบบสามารถใส่คอนเท็นต์ต่างๆ ที่มากกว่าเดิม เข้าไปในพื้นที่ที่มีขอบเขตจำกัดได้โดยไม่ต้องทิ้งหน้าเว็บดีไซน์เก่า ซึ่งเทคโนโลยี Flash สามารถนำมาใช้นำเสนอเนื้อหาทั้งในแบบสไลด์ หรือภาพเคลื่อนไหว หรือทำเป็นภาพยนตร์เพื่ออธิบายสินค้า หรือเนื้อหาที่มีความซับซ้อนได้

เมื่อสร้างไฟล์ Flash ขึ้นมา สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ จะต้องสามารถทำงานร่วมกับเบราเซอร์ต่างๆ ได้หลากหลายชนิด ทั้งที่ใช้กับพีซีและมือถือ สามารถรองรับการทำ SEO และโค้ดต่างๆ ที่ใช้ต้องเป็นมาตรฐาน

โดยการสร้างไฟล์ Flash เพื่อทำให้ Flash Content ของคุณถูกบันทึกเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลของ Search Engine ได้นั้นมีหลักการง่ายๆ ดังนี้

  • ทำ Link จากหน้าแรกไปสู่เว็บเพจที่เตรียมไว้ พร้อมกับเนื้อหาที่มี Keyword อยู่ภายใน เพื่อที่ Search Engine จะสามารถทำการตรวจหา และบันทึกลงในฐานข้อมูลได้
  • ใส่เนื้อหาไว้ในส่วนบนและส่วนล่างของไฟล์ Flash ที่ทำ รวมทั้งใส่ Keyword ในส่วนของ Title Tag และ Meta Tags เพื่อให้ Search Engine สามารถเห็นข้อมูลบนเว็บเพจนั้นๆ
  • เมื่อวางไฟล์ Flash ในโค๊ด HTML ให้ใส่ Keyword ที่สำคัญๆ ลงไปใน HTML Tags
  • ใช้คุณสมบัติ Object Standby เพื่อแสดงข้อความในขณะที่ไฟล์ Flash กำลังดาว์นโหลด เช่น และใช้คุณสมบัติ Object Title เพื่อแสดงข้อความเกี่ยวกับไฟล์ Flash นั้น เช่น
  • สร้างข้อความในรูปแบบตัวอักษรเพื่ออธิบายว่ามีอะไรอยู่ในไฟล์ Flash บ้าง ด้วยการใช้ NoEmbed Tags ซึ่งจะทำให้ Search Engine สามารถตรวจหาข้อความเหล่านี้ได้
  • ใช้เทคนิค CSS เพื่อทำให้ไฟล์ Flash เป็นรูปแบบโปร่งใสและสามารถวางซ้อนบนข้อความ
  • ใช้ Macromedia Flash Search Engine SDK เพื่อเปลี่ยนเนื้อหาหรือ Link ที่อยู่ในไฟล์ Flash ให้กลายเป็น HTML โค๊ดเพื่อให้ Search Engine สามารถตรวจหาได้
  • แทนที่จะใส่ทุกสิ่งอย่างไว้ในไฟล์ Flash เพียงไฟล์เดียว ก็แบ่งคอนเท็นต์ใส่ไว้ในไฟล์ Flash หลายๆ ไฟล์ เพราะจะทำให้คุณสามารถสร้างหน้าเว็บ HTML ได้หลากหลายมากขึ้นด้วยไอเดียที่แตกต่างกัน โดยมีเนื้อหาที่แตกต่างกันซึ่งบรรจุอยู่ในไฟล์ Flash นั้น

ใช้ SWFObject ช่วยแสดงไฟล์ Flash

SWFObject เป็นไฟล์ Javascript ขนาดเล็ก ที่จะมาช่วยให้ไฟล์ Flash ที่ถูกฝังตัวเข้าไปใน HTML ทำการ Activated ตัวเอง ซึ่งไฟล์ Javascript ตัวนี้เป็นโปรแกรม Open Source ที่พัฒนาขึ้นโดย Geoff Stearns

Script ตัวนี้จะช่วยให้ไฟล์ Flash ที่สร้างขึ้นสามารถทำงานได้เอง โดยรองรับการใช้งานกับเบราเซอร์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น IE5/5.5/6, Firefox, Mozilla, Safari และ Opera สามารถทำงานได้อย่างไม่จำกัดแฟลตฟอร์ม ใช้ได้กับเครื่อง Macintosh และเครื่องพีซี ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย นอกจากนี้ยังสามารถถูกค้นหาได้โดย Search Engine, สามารถใช้งานร่วมกับ HTML Code และ XHTML 1.0 ได้

ไฟล์ Flash ที่รองรับกับโปรแกรม SWFObject จะต้องเป็นไฟล์ Flash ที่พัฒนาด้วยโปรแกรม Flash เวอร์ชั่น 3 ขึ้นไป ซึ่งผู้ใช้สามารถดูไฟล์ Flash ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการ Activate ก่อน โดยการที่ต้องกด Activate ก่อนนั้น เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้เบราเซอร์ในเวอร์ชั่นใหม่ๆ ทำให้ Flash นั้นมีกรอบสี่เหลี่ยมขึ้นรอบๆ ซึ่งก่อนที่ User จะสามารถใช้ Flash ได้นั้นจะต้องทำการกดครั้งหนึ่งก่อนเพื่อ Activate ให้ไฟล์ Flash นั้นทำงาน

หลังจากที่ Search Engine สามารถเข้าไปเก็บข้อมูลในไฟล์ Flash ได้ ซึ่งช่วยลดข้อจำกัดในการทำ SEO ลงไปได้มากนั้น ต่อไปคงจะได้เห็นเว็บไซต์ที่พัฒนาด้วยโปรแกรม Flash ทั้งเว็บออกมาให้เห็นกันมากขึ้น ซึ่งนั่นคงจะยิ่งสร้างเสน่ห์ที่น่าดึงดูด ทั้งต่อผู้เข้าชมเว็บและวงการธุรกิจออนไลน์ อีกทั้งยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับนักโฆษณาที่ใช้โปรแกรม Flash ในการสร้างงานโฆษณากันมากขึ้นอีกด้วย

Source: Ecommerce Magazine


  •  
  •  
  •  
  •  
  •