
การตลาดในยุคนี้ไม่ได้ทำการวัดที่ Vanity Metric อีกต่อไปแล้ว เพราะด้วยค่า Vanity Metric เหล่านั้นไม่สามารถนำมาทำการตลาดอะไรต่อได้ ซึ่งในยุคนี้สิ่งที่นักการตลาดต้องการอย่างมากคือการเข้าไปวัดถึง Conversion Rate ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการตลาด ว่าสิ่งที่ทำนั้นได้ประสิทธิภาพมากมายน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานต่อไป และด้วยเหตุผลนี้ทำให้ทุก ๆ อย่างที่ทำเพื่อการตลาดต้องมาตอบสนองว่าจะได้ Conversion Rate ให้ดีที่สุดอย่างไร
ซึ่งเพื่อที่จะทำให้ได้ Conversion Rate ที่ดีนั้น นักการตลาดจำเป็นอย่างมากที่จะต้อง Test ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำออกมาให้ได้ผลอย่างไร ยิ่งคุณเป็นผู้ประกอบการเองและทำการตลาดเองนั้นต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดต้องรีดให้เกิด ROI ให้มากที่สุดออกมา ดังนั้นอะไรก็ตามที่สามารถเปลี่ยนเป็น Conversion ได้ขึ้นมานั้น แต่การที่จะปรับเปลี่ยนด้วยเทคนิคอะไรยาก ๆ นั้นจะเป็นต้องใช้เงินและเวลา ซึ่งจริง ๆ แล้ว การปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างเพียงแค่ง่าย ๆ ก็สามารถทำให้เกิดผลด้าน Conversion ที่เพิ่มขึ้นได้
1. เอา Call To Action มาไว้ก่อนท้ายหน้าจอ (The fold) : หน้าจบของท้ายหน้าจอ (The fold) นั้นคือส่วนสุดท้ายที่ผู้บริโภคจะเห็นบนหน้าจอของตัวเองในขณะยังไม่เลื่อนหน้าจาอ ซึ่งปกติแล้วนักการตลาดจะเจอ Call To Action เมื่อต้อง Scroll หน้าจอลงไป แต่ในความเป็นจริงที่ผู้บริโภคนั้นใจร้อนในยุคนี้ไม่สามารถรอได้จนถึงส่วนล่างสุดของหน้า
ดังนั้นเพื่อให้เกิด Conversion Rate ที่ดีคือการย้ายปุ่ม Call To Action นั้นขึ้นมาอยู่ส่วนท้ายของหน้าจอในเวลาที่เปิดหน้าจอขึ้นมาในครั้งแรก ซึ่งด้วยการทำเช่นนี้จะทำให้เกิดผลอย่างมาก มีตัวอย่างการใช้วิธีแล้วพบว่า มีผลตอบรับเพิ่มขึ้นสูงกว่า 700%
2. ทำ Layout เพื่อ mobile : แน่นอนตอนนี้ทุก ๆ กิจกรรมของผู้บริโภคนั้นเกิดขึ้นอยู่ในมือถือเป็นส่วนใหญ่ แถม Google เองก็ให้คุณค่ากับการแสดงผลบนมือถืออย่างมาก ซึ่งกิจกรรมกว่า 70% เกิดขึ้นอยู่บนมือถือในตอนนี้ ทำให้นักการตลาดต้องสนใจในการแสดงผลของเว็บไซต์ตัวเองบนมือถือ ว่ามีการใช้งานที่ง่ายหรือไม่ และอ่านได้ กับสามารถปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ กับ นิ้วมือได้ราบรื่นหรือไม่
เพื่อให้สามารถสร้าง Conversion ได้ดี การให้คุณค่า และภาพประกอบที่สวยงาม กับปุ่ม Call To Action ที่ชัดเจน ง่าย และไม่ต้องตีความ ก็สามารถสร้าง Conversion ได้เลย โดยการวาง Layout นี้มีความสำคัญอย่างมาก

3. ทำ Single Keyword Ad Groups : Single Keyword Ad Groups หรือ SKAG นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถูกมองข้ามหลาย ๆ ครั้งจากนักการตลาดเพราะรู้สึกว่าไม่ได้ผลอย่างไร ดังนั้นถ้านักการตลาดอยากทำให้ Conversion เพิ่มขึ้นก็ควรจะเริ่มใส่ใจในการแสดงผลเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของผู้บริโภคและมี Keyword ที่สามารถช่วยในการโฆษณาได้
การสร้าง SKAG นั้นจะช่วยให้ผู้บริโภคหาสิ่งที่ต้องการและช่วยทำให้เกิด CPL ที่ลดลง รวมทั้ง CPC ลดลงกว่า 20% ในหลาย ๆ แคมเปญ
4. ทำ Site Speed ให้ดี : ในตอนนี้นั้นผู้บริโภคกว่า 53% จะออกจากหน้าเว็บไซต์เหล่านั้นทันที ถ้าเว็บไซต์นั้นโหลดช้ากว่า 3 วินาที แถมกว่า 85% ของผู้บริโภค จะไม่กลับหาเว็บไซต์นั้นใหม่อีกรอบ ดังนั้นการทำเว็บไซตให้มีความเร็ว หรือตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคนั้นได้ คือเรื่องสำคัญอย่างมากของการที่จะทำให้เกิด conversion rate ในตอนนี้
ทั้งนี้นักกาตตลาดอาจจะให้ทีมที่ทำเว็บไซต์ ปรับปรุงการเขียนเว็บไซตืเพื่อให้มีการแสดงผลที่เร็วมากขึ้น หรือใช้ Tools ต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์นั้นควรปรับปรุงตรงไหนขึ้นมา

5. Copy Message นั้นสำคัญ : สุดท้ายตัวที่จะสามารถช่วยให้เกิด conversion rate ขึ้นมาได้ คือการที่มี Copy Writing ที่โดนใจ ถูกจิตวิทยาของผู้บริโภคที่เข้ามายังเว็บไซต์อย่างมาก หลาย ๆ เว็บไซต์ในต่างประเทศสามารถสร้าง Conversion Rate แบบเห็นผลได้ทันที ด้วยการเปลี่ยนแค่ข้อความใน Call To Action ที่ทำให้คนเข้าใจได้ทันที ว่าจะสมัครหรือซื้อเพื่ออะไร
ดังนั้นพยายามดูว่า copy ที่ใช้ของตัวเองนั้นเป็นอย่างไร พยายามทดสอบ Copy หลาย ๆ แบบเพื่อดูว่าแบบไหนที่จะสามารถทำให้ Conversion Rate นั้นเกิดให้ได้มากที่สุดขึ้นมา