ในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจในคุณภาพสินค้าและบริการมากขึ้น การ “สร้างความเชื่อมั่น” จึงเป็นหัวใจสำคัญของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะในธุรกิจพลังงาน ที่คุณภาพของน้ำมันส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และสิ่งแวดล้อม บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือ OR ผู้ให้บริการ PTT Station สถานีบริการน้ำมัน ที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั่วประเทศไทยมากถึง 2,346 แห่ง และมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 40% จึงยกระดับเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้าได้น้ำมันที่มีคุณภาพสูงสุด และเบื้องหลังความมั่นใจนี้คือหน่วยงานที่ชื่อว่า OR Mobile Lab
OR Mobile Lab คืออะไร?
OR Mobile Lab คือหน่วยงานตรวจสอบและรับรองมาตรฐานน้ำมันเคลื่อนที่ของ OR ที่ทำงานโดยกระจายตัวไปทั่วประเทศ โดย OR Mobile Lab แบ่งออกเป็น 6 เขตมีทีมงานประจำแต่ละพื้นที่รับผิดชอบ
พูดง่ายๆ ก็เหมือนกับหน่วยตรวจสอบเคลื่อนที่เร็ว มีหน้าที่ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำมัน โดยจะส่งทีมเดินทางไปยังสถานีบริการ PTT Station ทุกภาค ทุกสถานี ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำมันอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง มีการสุ่มตรวจเพื่อให้เช็คมาตรฐานรวมถึงทำหน้าที่ตรวจสอบกรณีที่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพน้ำมันด้วย
OR Mobile Lab สร้างความ ”มั่นใจ เชื่อใจ ไว้ใจ”
ในยุคที่แบรนด์ต้องแข่งกันสร้างความไว้วางใจ “Trust” จึงไม่ใช่แค่เรื่องการสื่อสาร แต่ต้องมาจากการลงมือทำจริง กุญแจสำคัญสู่ในการสร้าง Brand Loyalty ให้เกิดขึ้นกับผู้บริโภค ซึ่ง OR Mobile Lab ได้นำหลักการนี้มาใช้ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ที่ไม่ใช่แค่การสื่อสาร แต่เป็นการลงมือทำจริงเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึก “มั่นใจ เชื่อมั่น ไว้ใจ” ในคุณภาพน้ำมันของ PTT Station
- มาตรฐานสม่ำเสมอทั่วประเทศ (Coverage)
การสร้าง Brand Presence และ Consistency เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นเมื่อผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์อยู่ทุกที่และมีมาตรฐานเดียวกันหมด จะเกิดความมั่นใจในคุณภาพไม่ว่าจะไปใช้บริการที่ไหนก็ตาม ซึ่งสิ่งที่ OR Mobile Lab ทำก็คือการตรวจสอบคุณภาพน้ำมันจากทุกหัวจ่ายในสถานีบริการ PTT Station ทั่วประเทศเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันทุกหยดที่ไปถึงมือผู้บริโภคนั้นได้มาตรฐานและปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด
- ทำงานโดยผู้เชี่ยวชาญของจริง (Expertise)
เป็นการสร้าง Credibility ของ OR ด้วยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะผ่านการรับรองจากหน่วยงานภายในและภายนอกความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ เหตุผลเพราะทีมงาน Mobile Lab ทุกคนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจริงๆนอกจากจะจบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเคมีโดยตรงแล้วยังต้องผ่านการทดสอบความสามารถทั้งจากภายนอกและภายในอย่างสม่ำเสมอ เช่น ภายในจะมีการจัดสอบแบบ Blind Sample Test ที่เป็นการสุ่มส่งตัวอย่างน้ำมันโดยไม่ระบุผลล่วงหน้า ให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์และระบุค่าต่างๆ ด้วยตนเอง เพื่อประเมินความแม่นยำในการทำงาน ภายนอกจะมีการประเมินจากหน่วยงานมาตรฐานสากลอย่าง ASTM International หรือชื่อเต็มๆ คือ American Society for Testing and Materials International
อธิบายง่ายๆ ก็คือเป็นหน่วยงาน “กรรมการกลาง” ที่กำหนดกฎเกณฑ์สากลสร้างมาตรฐานและวิธีทดสอบสำหรับวัสดุ สินค้า หรือบริการต่างๆ ทั่วโลก
- เครื่องมือมาตรฐานโลก (Standard Equipment)
การใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ทันสมัยเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้าง Perception of Quality และ Innovation ของแต่ละแบรนด์ทำให้ลูกค้าเห็นว่ากำลังที่ดีที่ที่สุดให้ลูกค้าและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
ซึ่งรถ Mobile Lab ก็มีอุปกรณ์ล้ำๆ แบบจัดเต็ม บางชิ้นนำเข้าจากต่างประเทศและต้องใช้เงินลงทุนระดับสูง นอกจากนี้ในแง่กระบวนการก็มีมาตรฐานด้วยเพราะก่อนออกปฏิบัติงานทุกครั้ง อุปกรณ์ทั้งหมดจะผ่านการสอบเทียบ (Calibration) และทวนสอบ (Verification) เพื่อรับรองความถูกต้องของผลการตรวจสอบทุกๆ ครั้ง
Mobile Lab ตรวจน้ำมันอย่างไร?
เมื่อทีม Mobile Lab เดินทางถึงสถานีบริการ PTT Station ทีมงานจะตรวจสอบน้ำมันทุกชนิดที่มีในสถานีบริการโดยขั้นตอนแรกจะมีผู้เชี่ยวชาญดูลักษณะทั่วไปด้วยตาเปล่า (Visual Check) เพื่อดูสี ความขุ่น น้ำ และสิ่งสกปรก เป็นอย่างแรกก่อนจะใช้เครื่องมือพิเศษอีกหลายเครื่องด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็น “Distill” (เครื่องกลั่นขนาดเล็ก) เครื่องนี้ใช้ตรวจสอบทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยจะทำความร้อนให้น้ำมันเดือดเพื่อให้กลั่นตัวออกมา โดยน้ำมันเบนซินต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 210 องศาเซลเซียส ถ้าเกินกว่านั้นอาจสันนิษฐานได้ว่ามีน้ำมันหนักหรือดีเซลปนเปื้อน ส่วนน้ำมันดีเซลจะต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 357 องศาเซลเซียส
ส่วนเครื่อง “Eraflash” (เครื่องวิเคราะห์จุดวาบไฟ) ใช้ตรวจสอบเฉพาะน้ำมันดีเซล เพื่อดูว่ามีการปนเปื้อนหรือไม่ โดยจะดูที่ “จุดวาบไฟ” ที่ต้องไม่ต่ำกว่า 52 องศาเซลเซียส ตามข้อกำหนดของกรมธุรกิจพลังงาน หากมีจุดวาบไฟต่ำกว่า 52 องศาเซลเซียส สามารถสันนิษฐานได้ว่ามีน้ำมันเบาปนเปื้อนซึ่งจะเป็นน้ำมันที่ส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดอาการกระชากได้
เครื่อง “Eraspec” เครื่องวิเคราะห์ค่าปริมาณ Ethanol และ Fatty Acid Methyl Ester (FAME): เครื่องนี้ใช้ตรวจสอบทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล โดยยิงเลเซอร์ผ่านหลอดน้ำมันเพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติน้ำมัน โดยน้ำมันกลุ่มเบนซินจะดูค่า Ethanol เช่น น้ำมัน E20 ต้องมี Ethanol 19 – 20%, E85 ต้องมี Ethanol 75 – 78% เป็นต้น ส่วนน้ำมันดีเซลจะดูปริมาณ Fatty Acid Methyl Ester (FAME) เช่น น้ำมันดีเซล B5 จะอยู่ที่ 5-7% นั่นเอง
และเครื่องสุดท้ายคือ “Sulfur” เครื่องตรวจปริมาณซัลเฟอร์ใช้ตรวจสอบทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล น้ำมันทุกชนิดจะต้องมีค่าซัลเฟอร์ไม่เกิน 10 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ซึ่งเป็นมาตรฐานตามระดับ EURO 5 เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของทุกคน
หลังจากได้ตัวอย่างน้ำมันมาตรวจสอบแล้ว ทีม Mobile Lab จะบันทึกผลลงในระบบ Mobile Lab Smart App สำหรับสถานี PTT Station แบบ Real-Time หากคุณภาพน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ ก็จะมอบหนังสือรับรองผลการตรวจสอบและติดสติกเกอร์ที่มีลายมือชื่อผู้ทดสอบและวันที่ทดสอบที่ตู้จ่ายทุกตู้ แต่ถ้าคุณภาพไม่อยู่ในเกณฑ์ ก็จะแจ้งผลการทดสอบให้ผู้จัดการสถานีบริการทราบทันทีและงดจำหน่ายน้ำมันที่ไม่ได้มาตรฐานนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขต่อไป
นี่คือเรื่องราวของ OR Mobile Lab อีกหนึ่งกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนความเชื่อมั่นในคุณภาพน้ำมันของ PTT Station ทั่วประเทศ ผ่านการทำงานอย่างเป็นระบบ ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสากล ทำให้ผู้บริโภคสายเดินทางมั่นใจได้ว่าน้ำมันที่เติมใส่รถยนต์นั้นได้มาตรฐานที่สม่ำเสมอจริงๆ มั่นใจ เชื่อใจ ไว้ใจ Mobile Lab