“ไปมาแล้วเป็นไง?”
เป็นคำถามที่เชื่อว่า ทุกคนต้องเจอเหมือนกันหมด เวลาเราไปสถานที่ใหม่ๆ หรือไปห้างใหม่ที่เพิ่งเปิด เรามักจะถูกคนถามแบบนี้เสมอ ซึ่งคำพูดหรือคำบอกเล่าของเราที่ส่งต่อให้คนถามนี่แหละ ภาษาการตลาดมันคือ KOC หรือข้อมูลจาก Key Opinion Consumer ที่มีอิทธิพลตัวจริงส่งต่อให้กันและกัน และด้วยอินไซต์นี้เอง เป็นที่มาของหนังเปิดตัวรีเทล์รายใหญ่ รายใหม่ ที่ตอนนี้เป็นที่จับตาอย่างมาก ได้แก่ One Bangkok
สำหรับ One Bangkok โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นโครงการในรูปแบบ Mixed-use ที่รวมทั้งโรงแรม ที่พักอาศัย แหล่งชอปปิง และออฟฟิศเข้าไว้ด้วยกัน รวมพื้นที่กว่า 108 ไร่ ซึ่งเรายละเอียดของโครงการ บทความนี้เราอาจจะไม่ได้มาเล่าให้ฟัง (แต่คุณสามารถหาอ่านได้จากบทความของ Marketing oops! อ่านเพิ่มเติม)
แต่เราอยากมาเล่าในมุมของหนังโฆษณาเปิดตัว One Bangkok ชิ้นล่าสุด ซึ่งทำมาบน Insight ของผู้บริโภคเลยว่า เวลาไปห้างเปิดใหม่ หรือสถานที่เปิดใหม่ต่างๆ มักถูกถามด้วยคำถามเดียวกันคือ ไปมาแล้วเป็นไงบ้าง? ซึ่งจากอินไซต์นี้แหละได้หยิบเอามาเป็นหนังโฆษณาตัวใหม่ ที่เราดูจบแล้ว บอกเลยว่ามันไม่เหมือนหนังโฆษณาเปิดตัวห้างใหม่ในแบบที่เราเคยเห็นกันมาก่อน
แค่ซีนแรกที่เปิดตัวเราก็ถูกดึงดูดความสนใจแล้วว่า เอ้ย! หนังมันกำลังพูดถึงอะไร (วะ) มันพาเราไปให้รู้อะไร (วะ) แอบให้ฟีลลิ่งเหมือนหนัง Sci-Fi Horror Movie เบาๆ อยู่เหมือนกัน แต่บอกเลยมันคือ มู้ดโทนใหม่ของหนังเปิดตัวห้าง ที่ไม่ใช่ภาพซีนภายในอาคารใหญ่โตอลังการ ไม่ได้นำเสนอ ใบหน้ารอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือความครบครันอะไรในแบบเดิมๆ ที่เราเคยเห็นกันเลย
ทว่า ในแต่ละซีน เป็นความนิ่ง ความฉงน และนำเสนอผ่านแง่มุมของคนที่หลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ผู้สูงวัย คนทำงาน หรือแม้แต่คนเราๆ อย่างพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็มี (ชอบมาก) ทั้งหมดนี้ มันดึงความสนใจให้เราดูต่อไปเรื่อยๆ จนจบเลย โดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอะไร
โดยตอนสุดท้าย เฉลยเราด้วย “คำถาม”
ใช้จิตวิทยา ท้าทายจิตใต้สำนึกเรา ให้ไปดู ให้ไปเห็น ด้วยตาตัวเอง
เฉลยคำตอบผ่านคำถาม “มันเป็นยังไงอ่ะ?” (Genius !)
และด้วยมู้ดโทนแบบอรรถรสใหม่ และมีลูกเล่นเชิงจิตวิทยาทับซ้อนนี้ เราไม่แปลกใจเลยที่เห็นชื่อของ FLOW (บริษัทลูกในเครือ Wolf Bangkok) และ Factory01 เอเจนซีและเฮาส์ที่ทำงานกับลูกค้ารีเทลจนประสบความสำเร็จมามากมาย พร้อมกับสร้างสีสันใหม่ให้เกิดกับเซกเมนต์ธุรกิจให้กับลูกค้าได้อยู่เสมอ
เต้ย-ต่อศักดิ์ ชื่นประภา Co-Founder Wolf BKK แต่วันนี้มาคุมบังเหียนใหม่ของ FLOW พูดถึงงานตัวนี้ว่า ทางลูกค้าให้โจทย์ว่าอยากได้งานเปิดตัวห้างแบบไม่เหมือนใคร และไม่เคยมีมาก่อน ทำให้ทางทีมต้องไปไล่ ทำการบ้านมา โดยกลับไปดูหนังเปิดตัวห้างในอดีต 20 ปีย้อนหลัง ซึ่งส่วนใหญ๋หนังจะเล่นคอนเซ็ปต์แนวสวยๆ สไตล์แฟชั่นฟิล์ม ซึ่งยอมรับว่าเป็นงานที่สวยทำถึงมาก แต่เมื่อโจทย์บอกว่าไม่อยากเหมือนใคร ทำให้ต้องมาหาอินไซต์ใหม่ ทีมเลยไปคุยกับคนทั่วๆ ไป ก็พบอินไซต์ของคนกรุงเทพฯ เวลาที่มีห้างเปิดใหม่อย่างที่เห็นเลย
อั๋น-วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร ผู้กำกับและฟาวเดอร์ FACTORY01 บอกว่า ได้ทำการบ้านเปิดตัวห้างย้อนไปถึงปี 2000 ซึ่งส่วนใหญ่นำเสนอในเชิง Conceptual เกือบทั้งหมด ซึ่งเป็นเพราะข้อจำกัดของการต้องทำหนังของห้างที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ และด้วยตัวสถานที่ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ที่ทุกคนเข้าถึงได้รวมไปถึงชาวต่างชาติด้วย โดยความสำคัญของ One Bangkok คือต้องทำให้ไม่ติดภาพของ วันสยาม สยามวัน เดอะวันการ์ด ฯลฯ หลุดจากหัวของผู้บริโภคให้ได้ ดังนั้ ภาพของ การสร้างเมืองหลวง ซ้อนเข้าไปในเมืองหลวงอีกที เป็น Capital of Capital เป็น กรุงเทพฯ ของกรุงเทพฯ โดยที่น่าจะเป็นครั้งแรก ที่คนกรุงเทพฯจะมีประสบการณ์กลับจากเมืองหลวง ทุกคนมีเรื่องเล่าที่น่าสนใจ ให้คนที่บ้าน ที่ทำงานรุมถาม งานนี้เป็นอีกครั้งที่พูดได้เต็มเสียง ว่าลูกค้าเป็นส่วนสำคัญมากๆ ที่ทำให้งานออกมาเป็นแบบนี้ รวมถึงขอบคุณทีมงานทุกคนทุกฝ่ายด้วย
ทั้งหมดนี้ทำให้เราเห็นภาพของการแคร็กโจทย์ไอเดียของลูกค้าให้ออกมาจากภาพในหัว โจทย์ในใจ สู่งานจริง ที่ผู้ชมเห็นแล้ว แน่นอนว่าต้องมีความรู้สึกว่า ชั้นก็อยากไปเห็น ไปดูที่นี่ด้วยตาตัวเองบ้างเหมือนกัน
ชมคลิปวิดีโอได้ที่นี่
เบื้องหลังการถ่ายทำ
นี่แหละมันคือความเสน่ห์ของงานโฆษณา ฝีมือคนไทยที่ยังคงเฉียบคมเสมอ
ส่วนตัวชอบมากมันคือความซับซ้อน (เชิงจิตวิทยา) แต่นำเสนออย่างเรียบง่าย สร้างการตกตะกอนในความคิด ดูจบแล้ว เออ.. (กู) ต้องไปบ้างละ
ขอบคุณงานโฆษณาดีๆ แบบนี้ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า โฆษณาต่อให้ถูกยิงแอดมาเราก็อยากจะดูมันได้.
#Onebangkok #OnebangkokRetail #กลับจากกรุงเทพของกรุงเทพ