เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยกับกล้องแอ็คชันแคมรุ่นล่าสุดจาก GoPro ในซีรีส์ Hero7 Black กล้องที่ช่วยให้คุณสามารถบันทึกภาพความทรงจำแบบเรียลไทม์ในกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมสุดมันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ ได้อัปเดทฟีเจอร์ใหม่ๆ ไว้พอสมควร และเน้นการใช้งานให้เป็นกล้องแนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น สามารถเลือกใช้ได้แม้เป็นวันธรรมดา
สำหรับ GoProHero7 Black ถือเป็นกล้องตัวท็อปของแบรนด์ในขณะนี้ ซึ่งฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือ สตรีมมิ่งไลฟ์ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ อาทิ Facebook, Youtube, Twitch และ Vimeo เป็นต้น โดยใช้อินเทอร์เน็ตจากโทรศัพท์หรือไวไฟก็ได้
ส่วนอีกฟีเจอร์หนึ่ง คือ Time Warp หรือ การบันทึกภาพด้วยความเร็วนั่นเอง สามารถย่นเวลาวิดีโอที่ยาวนานให้สั่นลง แต่ยังคงความลื่นไหลและดูเนียนตา
httpv://youtu.be/9BnIjNS03RE
httpv://youtu.be/hNgDkVJqyK4
โดยทั้งสองจะรองรับระบบ Hyper Smooth ที่ถูกเคลมให้สามารถลดการสั่นไหวได้เหมือนกิมบอล แต่ดูเป็นธรรมชาติกว่า อธิบายง่ายๆ คือ กิมบอลจะจะป้องกันภาพสั่น แต่ภาพที่ได้จะเป็นแนวระนาบ ตรงและเรียบ ส่วนระบบ Hyper Smooth จะกันภาพสั่นเหมือนกัน แต่ภาพที่ได้จะมีการเคลื่อนไหวตามร่างการของผู้ใช้ เช่น เวลาติดกล้องไว้บนหัวแล้วเอียงคอ ภาพจะเอียงตามนั่นเอง
httpv://youtu.be/aqAR4V1nC_0
ด้านคุณสมบัติอื่นยังคงมีเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ และบางส่วนถูกปรับให้ดีขึ้น
- กล้องถ่ายภาพความละเอียด 12 MP สามารถถ่ายแนวตั้งได้
- ถ่ายวิดีโอ ระดับ 4K60 FPS หรือ 1080p 240 FPS
- กันน้ำลึก 10 เมตร ใส่เคสเสริมกันน้ำลึกได้ 60 เมตร
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง สูงสุด 14 ภาษา
- หน้าจอสัมผัส
- ฟังก์ชัน Slo-Mo ทำให้ภาพเคลื่อนไหวช้าถึง 8x
- ถ่ายภาพแบบ Super Photo ปรับภาพให้สีสันดูสวยสดขึ้น
- ระบบตั้งเสียงรบกวน
- กันแรงกระแทก
สำหรับวิธีการใช้งานตัว GoProHero7 Black ถูกออกแบบ UI ให้ดูเรียบง่ายไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนเลย โดยหน้าจอจะมีอยู่ 3 ฟังก์ชันหลักคือ โหมดถ่ายภาพ, โหมดถ่ายวิดีโอ และโหลด Time Warp ซึ่งคำสั่งก็ตรงตามตัวเลยไม่ซับซ้อน สามารถปรับสัดส่วนภาพได้แบบ 16:9 และ 4:3 โดยแต่ละสัดส่วนของภาพจะเลือกได้มากที่สุด คือ 4K รองลงมาคือ 2.7K, 1440p, 1080p,960p และ 720p ส่วน Frame Rate สูงสุดอยู่ที่ 240 FPS, 120 FPS, 60 FPS, 30 FPS และ 24 FPS สำหรับโหมด Time Warp สามารถปรับได้ตั้งแต่ 2x-30x นอกจากนี้ยังสามารถเลือกได้อีกว่าอยากได้ภาพแบบมุมกว้าง (wide) หรือภาพปกติ (Linear)
ภาพปกติ (Linear)
ภาพแบบมุมกว้าง (wide)
โดยรวมถือว่าใช้งานง่าย เหมาะกับกีฬาเอ็กซ์ตรีมและใช้ถ่ายในกิจกรรมสั้นๆ แต่ละฟีเจอร์สามารถใช้งานได้จริง แต่ไม่เหมาะสำหรับกิจกรรมระยะยาวเพราะแบตเตอร์รีหมดไวพอสมควร ยิ่งถ่ายภาพความละเอียดสูงเท่าไหร่ยิ่งหมดไวเท่านั้น ที่สำคัญต้องใช้เวลาชาร์ทยาวนานถึง 2 ชั่วโมง วิธีแก้วิธีนี้ที่ดีที่สุดคือ พกแบตสำรอง ซึ่งรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนแบตได้ ราคาตัวเครื่องอยู่ที่ 14,500 บาท
ข้อดี
- มีระบบสตรีมมิ่งไลฟ์ เหมาะกับการพกพาไปเที่ยวแล้วไลฟ์ไปด้วย
- ระบบกันสั่นถือว่าดีกว่ารุ่นก่อนๆ มาก
- เมนูใช้งานง่ายพอๆ กับมือถือเลย ไม่ซับซ้อน
- สามารถเลือกความละเอียดภาพและเฟรมเลทได้หลากหลาย
- Time Warp ให้ภาพที่สมูทในระดับที่ดี สำหรับกล้องแอ็คชันแคม
- ตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ เยอะ
ข้อเสีย
- แบตเตอร์รีหมดไวมาก
- ใช้เวลาชาร์ทแบตเตอร์รี 2 ชั่วโมง
- กล้องถ่ายรูปความละเอียดน้อยไป
ปุ่มเปิด-ปิด ใช้วิธีการกดค้าง
ปุ่มชัตเตอร์