การทำ Content Marketing นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะเป็นการรวมของศาสตร์และศิลป์มาอยู่รวมในที่เดียวกันและเพื่อที่จะทำ Content ออกมาได้ดีนั้นต้องใช้ความรู้หลายๆอย่างผสมผสานกันพร้อมทั้งใช้เวลาในการฝึกฝนในการสร้าง Content เพื่อทำให้เนื้อหาที่สร้างออกมานั้นมีประสิทธิภาพทางการตลาดที่ดีขึ้นแต่หลายๆครั้งไม่ว่ามือใหม่หรือมือที่เชี่ยวชาญด้าน Content ก็สามารถเจอปัญหาในการทำ Content ได้โดยเฉพาะการไม่รู้ว่าจะทำเนื้อหาอะไรต่อไปหรือหมดมุกในการทำเนื้อหาแล้วนั้นเอง
การหาเนื้อหามาเขียนให้ได้ต่อเนื่องนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการทำ Content Marketing ที่ต้องการความสม่ำเสมอในการสื่อสารไม่ว่าจะทาง Social Media หรือเว็บไซต์เองก็ตาม เพื่อสร้างให้เกิดปฏิสัมพันธ์และภาพลักษณ์ในการดูแลและเอาใจใส่ของผู้ที่เข้ามาหาเนื้อหาต่าง ๆ ในเว็บไซต์นั้นเอง ทั้งนี้การหาไอเดียต่าง ๆ นั้นจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญรองลงมาจากการทำกลยุทธ์และคุณภาพของเนื้อหาต่าง ๆ และเพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาในการหมดมุกไอเดียนี้ วันนี้จึงมีวิธีในการหาไอเดียง่าย ๆ 5 วิธีมานำเสนอ คือ
1. ให้ผู้บริโภคมาเล่าไอเดียตัวเองให้ฟัง : วิธีการที่ง่ายที่สุดในการที่จะได้ไอเดียต่าง ๆ มาคือการใข้ไอเดียจากการที่เอาเรื่องราวของผู้บริโภคที่เข้ามาปฏิสัมพันธ์มาสร้างเป็น Content ขึ้นมา ซึ่งด้วยวิธีการนี้สามารถช่วยย่นระยะเวลาในการทำงานค้นหาว่าจะทำหัวข้ออะไรออกไปอย่างมาก แถมยังช่วยเพิ่มเครดิตในการสร้างชื่อให้กับแบรนด์อีกด้วยการเอาเรื่องราวปัญหาของผู้บริโภคมาช่วยหาทางแก้ไขหรือบอกว่าแบรนด์ช่วยผู้บริโภคเหล่านี้ในการแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งสามารถทำ Content ออกมาได้ 2 รูปแบบคือ 1. Testimonials โดยการให้ผู้บริโภคมาเล่าว่าแบรนด์ช่วยเค้าได้อย่างไร โดยการให้ผู้บริโภคนี้ทำการตลาดกับผู้บริโภคด้วยกันเองขึ้นมา กับ 2. การทำ Product Reviews โดยการให้ผู้บริโภคหรือผู้ที่สนใจนั้นเข้ามาช่วยรีวิวสินค้าและบริการต่าง ๆ ออกมา เพื่อทำให้เกิดความสนใจต่อผู้บริโภคคนอื่น
2. การเอา Showcase มาโชว์ : สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยให้เกิดความน่าสนใจในการทำ Content ขึ้นมาได้ คือการเอาผลงานของตัวเองนั้นมาโชว์ต่อผู้ที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณว่าทำงานอย่างไร และมีผลงานที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไรบ้างออกมา โดยอาจจะทำเป็นบทความ วิดีโอ หรือแม้แต่ Photo Album ขึ้นมา ซึ่งสิ่งที่ควรจะใส่เข้าไปคือก่อนหน้าที่จะใช้สินค้าและบริการของคุณว่าลูกค้ามีปัญหาอะไร กับหลังจากใช้สินค้าและบริการของคุณแล้วดีขึ้นอย่างไรมานำเสนอ เพื่อให้เกิดข้อมูลในการพิจารณาและตัดสินใจในการเลือกใช้สินค้าและบริการของคุณจากผู้บริโภคได้ขึ้นมา ด้วยวิธีการนี้สามารถทำให้เกิด Content ในการแก้ปัญหาในแต่ละรูปแบบที่คุณใช้กับลูกค้าได้ขึ้นมาอีกด้วย
3. สาธิตการทำงาน : ด้วยความที่บริษัทที่ขายสินค้าและบริการที่ต้องมีความแตกต่างกันในการใช้งานหรือการคุณสมบัติที่เด่นออกมา ทำให้การสาธิตวิธีการทำงานต่าง ๆ ในแต่ละงานว่ามีขั้นตอนในการทำงานอย่างไร ก็สามารถนำมาเป็น Content อีกแบบหนึ่งเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคที่มาดูนั้นจะสามารถทำความเข้าใจได้ในการทำงาน และได้ข้อมูลไปพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของสินค้าและบริการของคุณที่ได้สาธิตออกมานั้นเอง สิ่งที่คุณควรพิจารราในการทำ Content ประเภทนี้คือ สินค้าและบริการที่คุณจะสาธิตนั้นต้องมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครจริง ๆ หรือต้องใช้ความเข้าใจอย่างมากในการทำงาน ซึ่งด้วยการทำวิดีโอแบบนี้จะสามารถช่วยในการขายสินค้าและบริการได้ด้วย
4. เอาตัวเลขมาโชว์ : รูปแบบหนึ่งที่จะทำให้คนเชื่อในสิ่งที่คนทำนั้นคือการใช้หลักการทางจิตวิทยาที่เรียกว่า social proof ออกมา ซึ่งคนที่ทำ Content สามารถใช่สถิติต่าง ๆ ที่ตัวเองมีหรือหลักการเชิงตัวเลขต่าง ๆ ออกมาโชว์ว่า แบรนด์นั้นมีผลมากน้อยแค่ไหน หรือมีคนมากน้อยแค่ไหนที่กำลังมีปัญหาในรูปแบบเดียวกันนี้ ซึ่งด้วยวิธีนี้จะช่วยทำให้เกิดยอดปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ขึ้นมาอีกด้วย เพราะผู้คนนั้นชอบที่จะแชร์ข้อเท็จจริงเชิงตัวเลขต่าง ๆ หรือเอาข้อมูลของคุณนั้นไปอ้งอิงต่อได้ด้วย ทำให้เนื้อหาของคุณที่ทำนั้นจะสามารถขยายไปยังที่อื่น ๆ เกิดการเชื่อมโยงมากมายมาสู่เนื้อหาที่คุณทำนั้นเอง
5. ทำ How to : การทำ Content ในประเภทสุดท้ายเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมาก ๆ แต่หลาย ๆ คนนั้นหลงลืมไปอย่างมาก นั้นคือการทำ Hub ของ Content ในประเภทที่เป็น How To ออกมา เพราะจริง ๆ แล้วผู้บริโภคค้นหาวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ มากมายในแต่ละวัน และมีความอยากรู้ในเชิงลึกต่าง ๆ ด้วย พร้อมอยากเข้าใจวิธีการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเองก่อนที่จะพึ่งพาคนอื่น ดังนั้นการทำ How To ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยแบรนด์ของคุณนั้นจะเข้าไปตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังมีความต้องการพอดี ซึ่งเนื้อหาที่ทำออกมาแบบนี้จะสามารถช่วยสร้างความเชื่อมั่น และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับความเป็นมืออาชีพขององค์กรอีกด้วย
