ทำคอนเทนต์แบบ Influencer ไม่เน้นความดังแต่ขายความสุข สไตล์ Guy Haru Family กับครั้งแรกที่เข้าชิงรางวัล Thailand Influencer Awards 2021

  • 443
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ในยุคที่ Influencer แจ้งเกิดกันมากมาย มีทั้งคนมีชื่อเสียงผันตัวมาทำคอนเทนต์ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่มีความสนใจหรือชื่นชอบเรื่องต่าง ๆ และใช้ความครีเอทีฟ มานำเสนอคอนเทนต์ผ่านคาแรกเตอร์ของตนเอง ซึ่งหากพูดถึง Influencer คนดังในสาย Family ที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจนเป็นธรรมชาติ สนุกสนาน สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ผู้ชมอยู่เสมอ ต้องมี ช่อง Guy Haru Family เป็น Top of Mind ในใจผู้ชมคอนเทนต์ออนไลน์อย่างแน่นอน

แต่กว่าจะเป็น Guy Haru Family ที่ผลิตคอนเทนต์โดนใจผู้ชม มียอด Subscribe 1.6 ล้านซับ มียอดวิวหลักแสนต่อคลิป กระทั่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Parenting Influencer จากเวที Thailand Influencer Awards 2021 เป็นครั้งแรกในปีนี้

ต้องบอกว่ามุมมองและวิถี Influencer ของพวกเขาน่าสนใจไม่น้อย โดย Marketing Oops! ได้รับเกียรติจาก คุณ กาย รัชชานนท์ และ คุณฮารุ สุประกอบ บอกเล่ากระบวนการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในสไตล์ Guy Haru Family แบบหมดเปลือก ก่อนจะถึงกิจกรรม Thailand Influencer Awards 2021 LIVE ที่เราอยากเชิญชวนให้ทุกท่านได้ร่วมลุ้นรางวัล Influencer ไปพร้อม ๆ กันในวันที่ 21 ต.ค. 64 เวลา 19.00 น. ทาง Facebook Tellscore และ Marketing Oops!

 

 

โดย คุณกาย และคุณฮารุ เล่าว่า ช่อง Guy Haru Family เริ่มต้นเมื่อ 2-3 ปีก่อน จากความตั้งใจให้เป็น YouTube Channel ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของลูก ๆ ทั้ง 3 คน ซึ่งถูกเปรียบเป็น 3 กุมาร แห่งบ้านสุประกอบ โดยมีรายการแรก คือ กุมาร Travel ที่พาลูก ๆ ไปท่องเที่ยว กับเป้าหมายที่คุยกันมาเสมอว่าถ้ามีลูกก็จะพาลูกไปเที่ยวด้วยกัน เพราะไม่เคยเชื่อที่เขาพูดกันว่ามีลูกแล้วจะเที่ยวไม่ได้ จึงเริ่มออกท่องเที่ยวกันตั้งแต่ลูกคนแรก อายุ 4 เดือน

 

 

เริ่มจาก รูป – วิดีโอในมือถือ สู่คอนเทนต์ยอดวิวหลักแสน

คุณกาย และคุณฮารุ บอกว่า แนวคิดการทำคอนเทนต์ทุกช่องของ Guy Haru Family คือความเรียล แม้จะชอบท่องเที่ยว แต่ก็ชอบกิน ชอบทำกิจกรรมอื่นด้วย เลยต่อยอดไปทำรายการ อร่อยเด็ดเข็ดด๋อย จาก Pain Point ที่เราเห็นว่ามีรายการรีวิวอาหารเกิดขึ้น หลาย ๆ ครั้งคนทั่วไปหรือแม้แต่เราเองก็ตามไปกิน เลยอยากทำคอนเทนต์ในมุมผู้บริโภคว่าอร่อยจริงมั้ย แม้จะไม่ได้แตกต่างจากรายการรีวิวอาหารอื่น ๆ แต่เรามีคอนเซปต์เดียวกับรายการอื่นใน Guy Haru Family คือ เรียล ถ้าไม่อร่อยก็บอกว่าไม่

“จุดเริ่มต้นคือเราเห่อลูก ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไว้เยอะมาก จึงหยิบคอนเทนต์ที่มีอยู่แล้วมาทำเป็น Channel ตามคำแนะนำของ พี่เปิ้ล (นาคร ศิลาชัย) ที่บอกให้เปลี่ยนรูปและวิดีโอในมือถือเป็นคอนเทนต์ YouTube”

ถึงตอนนี้ Guy Haru Family มีคอนเทนต์ประมาณ 8 รายการต่อสัปดาห์ ซึ่งทุกรายการมีกำหนดวันเวลาเป็นประจำ เพราะพบว่ามีกลุ่มคนดูติดตามแต่ละรายการอยู่เป็นประจำ พวกเขารู้ว่ารายการไหนจะลงคอนเทนต์วันไหน แม้ว่าข้อดีของการทำคอนเทนต์ออนไลน์จะสามารถอัพเดทเวลาใดก็ได้ แต่เราใช้รูปแบบเดียวกับการทำงานในวงการบันเทิงเพื่อทำให้แฟน ๆ ติดตามคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น

 

 

หัวใจคอนเทนต์ คือ เป็นธรรมชาติ – ไม่ใช่ห้าง แต่เป็นร้านค้าที่ชัดเจน

ประเด็นนี้ คุณกาย และคุณฮารุ อธิบายว่า เราเริ่มต้นทำคอนเทนต์จากการทำตามใจพวกเราเอง คือ เราชอบอะไรก็ทำคอนเทนต์แบบนั้น เขื่อว่าคนมาติดตามดูก็เพราะชอบไลฟ์สไตล์ของเรา กลุ่มคนดูและแฟนของเราอาจจะไม่ได้เป็นแมส และเราเองก็ไม่ได้พยายามดันให้แมสขนาดนั้น แต่พวกเราอยากเสิร์ฟสิ่งที่เป็นคุณภาพให้กับคนที่อยากดูคอนเทนต์ของเราจริง ๆ

“เราไม่ได้เปรียบตัวเองเป็นห้างสรรพสินค้า แต่เราคือร้านค้าในห้างนั้น ดังนั้น หน้าร้านเรามีวินโดวส์ชอปปิ้งชัดเจน ถ้าเขาสนใจก็จะเดินเข้ามา”

ดังนั้น คอนเทนต์ของ Guy Haru Family จึงค่อนข้าง Niche เข้าไปอีก เพราะเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายเป็นยอดผู้ติดตาม แต่เป้าหมายของเราคือทำยังไงให้ทุกคนที่กดติดตามเราได้รับความสนุก ได้เสียงหัวเราะ จากคอนเทนต์ลูก ๆ หรือคอนเทนต์ของเรากลับไป

 

 

เดินสาย Influencer ต้องไม่ลืม Upskill & Reskill

คุณกาย และคุณฮารุ อธิบายว่า เรามีทั้ง Upskill และ Reskill โดย Upskill เพื่อพัฒนาให้ตัวเองดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใต้คุณภาพของตนเอง เช่น จามเดิมที่คอนเทนต์มาจากมือถือ 1 เครื่อง เพื่อถ่ายรูปถ่ายวิดีโอ เราก็ปรับคอนเทนต์ให้น่ากินขึ้น เพราะคนดูคอนเทนต์ก็เหมือนเลือกอาหารจากหน้าตาที่น่ากิน จึงต้องมีทีมงานมากขึ้น มีตากล้อง มีครีเอทีฟ ซึ่งเราเน้นการทำงานแบบทีมเวิร์ก ดังนั้น เราจึงไม่ได้ทำแค่ Upskill แต่ Upscale ด้วย เพราะเราหา The right person มาเพื่อทำ The right job เพราะความสำเร็จในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะกาย ฮารุ หรือลูก ๆ แต่เรามาได้ไกลขนาดนี้เพราะเรามีทีมที่ช่วยคิด ช่วยแนะนำ ช่วยทำงาน

ส่วนการ Reskill ก็พัฒนาปรับตัว ลองผิดลองถูก จากเดิมที่ใช้มือถือถ่าย Point of view ของคนเป็นแม่ที่ตามเก็บภาพลูก พอมีผู้ติดตามมากขึ้นเราก็อยากปรับให้ภาพสวยขึ้นเหมือนกัน มีการซื้อกล้องถ่ายภาพ มีช่างภาพ เคยจ้างช่างแต่งหน้าทำผมเพื่อถ่ายคอนเทนต์ แต่กลับเป็นว่าคนดูฟีกแบ็กว่าไม่ถูกใจ นั่นสะท้อนว่าคนดู Guy Haru Family เขาชอบความเรียลจากเรา ทำให้เริ่มจับทางถูกว่าพวกเขาไม่ได้อยากได้ความเป๊ะปัง ซึ่งเราก็พยายามหาจุดกึ่งกลางที่เหมาะสมกับความไม่เป๊ะที่เขาชื่นชอบจากเรา ระหว่างคอนเทนต์ ความเรียล ความเป็นธรรมชาติ

อีกการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากช่อง Guy Haru Family คือ การเปลี่ยนแปลงของเด็ก ๆ แม้เราจะทำคอนเทนต์ครอบครัว ไปกิน ไปเที่ยวเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงก็คือจากที่พวกเขาเติบโตขึ้น รีแอ็คของเขาก็จะเปลี่ยนไป ลูก ๆ กล้าแสดงความเห็น กล้าทำ ไม่ต้องรอให้เราคอยถาม กลายเป็นอีกเสน่ห์ที่ทำให้คนติดตามช่องของเรา เหมือนเป็นการโตไปพร้อมกันทั้งลูกและเรา และคนดูก็เป็นอีกส่วนหนึ่งมีส่วนร่วมไปกับเรา ทั้งที่คนดูอาจไม่เคยเจอกับเราแต่ก็เหมือนผูกพันไปกับครอบครัวของเราด้วย

 

 

เมื่อถามทั้ง 2 ท่านว่า คิดอย่างไรที่ได้รับการเสนอชื่อและได้รับการโหวตจากคณะกรมการ ให้เข้าชิงรางวัล Best Parenting Influencer คุณกาย และคุณฮารุ ตอบว่า เดาว่าเป็นเพราะ Guy Haru Family เป็นร้านค้าที่ชัดเจน จึงทำให้ได้รับการเสนอชื่อรางวัลนี้และได้รับคะแนนโหวตจากทุก ๆ คน เพราะภาพที่ชัดเจนในเชิง Family ของเรา แม้เราเองจะไม่ใช่ Best Family เพราะเราก็ไม่ได้ตั้งใจให้ทุกอย่างเป็นแบบนั้นแบบนี้

“ในอดีตเราทำคอนเทนต์โดยไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำ ว่าจะมีคนดูมั้ย เขาจะชอบมั้ย ซึ่งนั่นก็มีความอินโนเซนต์เยอะ เช่น เราจะไม่คิดมากว่าทำแบบนี้แล้วคนดูจะชอบมั้ยหรือต้องเป็นแบบไหนเพื่อให้เขาชอบ แต่เราเป็นธรรมชาติและพยายามหาจุดที่พอดี เพื่อทำให้คอนเทนต์ออกมาเป็นตัวเรามากที่สุดและผู้ชมจะได้รับความสุขความสนุก เพราะเราชื่อว่าถ้าเริ่มต้นจากความชอบ ความสุขของเราแล้วทุกอย่างจะดีที่สุด”

ส่วนการเติบโตของเราก็อาจไม่ได้โตเร็วเหมือนกับช่องอื่น ๆ แต่เราเชื่อว่าช่อง Guy Haru Family เติบโตอย่างมั่นคง เพราะคนดูและแฟน ๆ ที่ชื่นชอบ ก็ถูกใจการที่เรานำทุก ๆ มุมของลูกเราออกมานำเสนอ ทั้งตอนที่เขาทำตัวไม่น่ารัก พี่น้องทะเลาะกัน ไม่ใช่แค่ช่วงเวลาที่หัวเราะหรือเล่นสนุกอย่างเดียว หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่พ่อดุมาก พ่อใจดีมาก เชื่อว่าความหลากหลายของช่วงเวลาต่าง ๆ ในครอบครัว เลยทำให้ทุกคนถูกใจคอนเทนต์ของเรา

อย่างไรก็ตาม คุณกาย และคุณฮารุ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคน และขอเป็นตัวแทนของทีมในการขอบคุณทุกคน ไม่ว่าสุดท้ายเราจะได้รางวัลหรือไม่ได้ แต่เราก็เชื่อมั่นเสมอว่าไม่มีคำว่า Best Parenting ไม่มีใครที่เป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุด ไม่มีทฤษฎีไหนที่จะทำให้เราเลี้ยงลูกได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เราขอเป็นตัวแทนของครอบครัวหนึ่งที่เลี้ยงลูกในแบบของเราซึ่งอาจจะไม่ถูกใจบางคน แต่หวังว่าอะไรที่ชื่นชอบก็จะได้นำไปหยิบใช้กัน

และท้ายที่สุดก็หวังว่าจะมีชื่อของ Guy Haru Family ได้รับรางวัลเพื่อเป็นความภาคภูมิใจ แต่ถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลก็ไม่เป็นไร เพราะเราอยากให้ลูก ๆ ได้มีความสุขกับการใช้ชีวิตของพวกเขาในอนาคตต่อไป


  • 443
  •  
  •  
  •  
  •